

ส่องการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ผ่านสายตา ‘ชีวาศรม’ เวลเนสรีสอร์ตชั้นนำของไทย
Wealth / Business
28 Nov 2023 - 7 mins read
Wealth / Business
SHARE
28 Nov 2023 - 7 mins read
หากจะบอกว่า ‘ชีวาศรม’ คือต้นตำรับรีสอร์ตสุขภาพที่มาก่อนกาลย่อมไม่ผิดจากความจริงแต่อย่างใด
จากวิสัยทัศน์ของ คุณบุญชู โรจนเสถียร อดีตนักการเงินการธนาคาร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และรองนายกรัฐมนตรี ผู้เล็งเห็นคุณค่าของต้นทุนด้านสุขภาพ จึงตัดสินใจเปลี่ยนโฉม ‘บ้านอยู่สบาย’ บ้านพักตากอากาศชายทะเลของครอบครัวให้กลายเป็น ชีวาศรม หัวหิน สร้างความประหลาดใจให้ผู้คนในยุคเกือบ 30 ปีที่แล้วเป็นอย่างมาก เพราะในเวลานั้นศาสตร์การดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวมถือเป็นเรื่องใหม่ที่ยังอยู่ไกลตัวชาวเอเชียอย่างเรา
ทว่า ชีวาศรมสามารถเข้าไปอยู่ในใจคนตะวันตกได้โดยไม่ต้องพยายาม เพราะนอกจากจะเข้าใจศาสตร์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมอย่างถ่องแท้แล้ว คนรักสุขภาพจากซีกโลกตะวันตกที่เลือกชีวาศรมเป็นหมุดหมายในการพักผ่อนยังได้รับการบริการอย่างอ่อนน้อม นุ่มนวล และจริงใจในแบบไทย สปาแห่งแรกของประเทศไทยอย่างชีวาศรมจึงได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ และเป็นเจ้าของรางวัล Wellness Resort อันดับหนึ่งของโลกสามปีซ้อน
Photo: Chiva-Som
“นับตั้งแต่แรก ชีวาศรมก่อตั้งด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและอุดมการณ์ในการดูแลสุขภาพของคุณบุญชู โรจนเสถียร จวบจนปัจจุบัน ชีวาศรมยังคงแน่วแน่ในอุดมการณ์ดังกล่าวอย่างไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ การส่งเสริมให้ผู้เข้าพักมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ปราศจากโรคภัย การมีจิตใจที่แจ่มใสและตอบสนอง รวมถึงการมีวิญญาณที่สงบนิ่งไม่อ่อนไหวว้าวุ่น ผู้ที่เดินทางมาพักพิงที่ชีวาศรมจึงเป็นผู้คนที่ต้องการพัฒนาสุขภาพกาย จิต และวิญญาณ เพื่อไปสู่ความสมดุล เป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่มีวันสิ้นสุด”
คุณวินย์ โรจนเสถียร Operations Manager แห่ง Chiva-Som Hua Hin ผู้บริหารรุ่นที่ 3 ที่ก้าวมาทำงานร่วมกับคุณพ่อ - กฤป โรจนเสถียร ประธานและประธานบริหาร ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ท กล่าวถึงอุดมการณ์ของผู้เป็นปู่ที่ยังคงได้รับการสานต่ออย่างเหนียวแน่นตลอดระยะเวลาเกือบสามทศวรรษ กับการถ่ายทอดภูมิปัญญาด้านการดูแลสุขภาพแผนไทยเข้ากับองค์ความรู้สมัยใหม่ ด้วยการปรับตัวให้เท่าทันและก้าวนำอยู่เสมอ โดยล่าสุดเมื่อปี 2565 ชีวาศรมได้ขยายการให้บริการไปยังประเทศกาตาร์ โดยเปิดให้บริการ Zulal Wellness Resort by Chiva-Som ซึ่งถือเป็นการกระจายความรู้ด้าน Wellness ของไทยสู่นอกภูมิภาคเป็นครั้งแรก
วินย์ โรจนเสถียร
Operations Manager แห่ง Chiva-Som Hua Hin
Photo: Chiva-Som
ทุกก้าวที่กล้าของชีวาศรมนับตั้งแต่วันแรกของการก่อตั้ง จนถึงวันนี้ที่เดินหน้าปักธงไทยในต่างแดน สอดรับกับการคาดการณ์ของ Global Wellness Institute (GWI) ที่คาดว่ามูลค่าเศรษฐกิจเชิงการดูแลสุขภาพทั่วโลก (Global Wellness Economy) จะเพิ่มขึ้นจาก 4.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี ค.ศ. 2020 เป็นราว 7.0 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี ค.ศ. 2025 หรือเติบโตเฉลี่ยที่ 10% ต่อปี
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจเชิงสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะมีการเติบโตสูงกว่าธุรกิจอื่น ๆ โดยธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตมากที่สุด คือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ที่คาดว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยที่ 21% ต่อปี
ในฐานะผู้นำศาสตร์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเป็นเจ้าแรกในไทย ชีวาศรมพร้อมที่จะแชร์เคล็ดลับความสำเร็จในการประกอบธุรกิจเชิงสุขภาพให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอันดับต้น ๆ ของโลก
ไลฟ์สไตล์ในที่พักพิงของผู้รู้
หากจะถอดรหัสความสำเร็จของชีวาศรม ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกล เพราะปรัชญาของรีสอร์ทเพื่อสุขภาพแห่งนี้ถอดแบบมาจากความหมายของชื่อเรียกสถานที่แห่งนี้ ที่ผ่านการไตร่ตรองมาแล้วเป็นอย่างดี โดยคุณกฤป อธิบายถึงความหมายของ
‘ชีวาศรม’ ว่า
‘ชีวาศรม หมายถึง ที่พักพิงของผู้รู้ ผู้ที่แสวงหาสมดุลยภาพของจิตใจ ร่างกาย และอารมณ์’
“ชีวาศรมเชื่อว่าสุขภาวะที่ดีเกิดจากสมดุลยภาพของร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ โดยร่างกายจะต้องปราศจากโรคภัย ใช้ชีวิตปกติได้อย่างเต็มที่ จิตควรที่จะสงบและคมชัด ไม่ว้าวุ่น ไม่สับสน ไม่เครียด และอารมณ์ควรจะสดใสและสร้างสรรค์ มีความสุข มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง” คุณวินย์ขยายความถึงหัวใจของชีวาศรม ซึ่งต้องสร้างความสมดุลทั้งสามด้านให้ส่งผลเชื่อมโยงต่อกัน และแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย
“เป้าหมายของชีวาศรมจึงเป็นการเข้าใกล้ความสมบูรณ์ให้ได้มากที่สุด และมีความสม่ำเสมอในการบริหารทั้งสามด้านในทุกวัน Wellness Lifestyle จึงเหมือนเป็นสิ่งที่เราทำทุกวันจนเป็นนิสัย ทำโดยไม่ต้องคิด เช่นเดียวกับการอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน”
Photo: Chiva-Som
ด้วยปรัชญาดังกล่าวทำให้ชีวาศรมมอบบริการที่แตกต่างจากเวลเนสรีสอร์ทแห่งอื่นด้วยเอกลักษณ์ 2 ประการ ได้แก่ การจัดสรรโปรแกรมการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล (Personalisation) และ การให้บริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Wellness)
“เพราะแต่ละคนมีพื้นฐานสุขภาพ ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ผู้เข้าพักที่ชีวาศรมจึงจะได้พบกับ Health & Wellness Advisor เมื่อเข้าพักที่รีสอร์ต เพื่อทำการสอบถามและแนะนำโปรแกรมที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการที่สุดด้วยโปรแกรมการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล ส่วนการให้บริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม ได้แก่ ทรีตเมนต์และกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อนำพาผู้เข้าพักบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพให้ได้มากที่สุด โดยการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตด้วยองค์ประกอบ 6 ประเภท ได้แก่ โภชนาการ (Chiva-Som Wellness Cuisine) การออกกำลังกาย กายภาพบำบัด สปา แพทย์ทางเลือก และความงาม” คุณวินย์แจกแจงให้เห็นภาพการบริการของชีวาศรมโดยละเอียด
“ที่สำคัญ เราให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับลูกค้าในฐานะพันธมิตรตลอดชีวิต (Lifelong Partners) โดยชีวาศรมมีบทบาทในการสนับสนุนผู้มาเข้าพักในการเรียนรู้ด้านสุขภาพ ไม่ใช่เพียงแต่ในช่วงที่มาเข้าพัก แต่การค้นหาความสมดุลของชีวิตในระยะยาว”
Photo: Chiva-Som
“ใจไทย” ในแบบชีวาศรม
นอกจากโปรแกรมปรนนิบัติสุขภาพที่ยากจะลอกเลียนแบบแล้ว เอกลักษณ์ที่ทำให้ชาวโลกพากันติดอกติดใจเวลเนสรีสอร์ทสัญชาติไทยแห่งนี้ หนีไม่พ้นบุคลากรของชีวาศรม ไม่ว่าจะเป็นคุณหมอ นักธรรมชาติบำบัด นักกายภาพบำบัด สปาเทอราปิส เทรนเนอร์ ไปจนถึงคนสวน ที่ล้วนเป็น ‘ตัวจริง’ ในงานที่ทำ และพร้อมจะส่งมอบความจริงใจจากหัวใจแบบไทยแท้
“ชีวาศรมมีมาตรฐานการบริการอันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า ‘ใจไทย’ เนื่องจากคนไทยมีเอกลักษณ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติในการส่งมอบบริการที่จริงใจ นุ่มนวล และสง่างามแบบไทย โดยเฉพาะการให้บริการด้านเวลเนสที่ต้องอาศัยทั้งทักษะและความรู้เฉพาะทางในการดูแลผู้เข้าพักที่เดินทางมาหาเรา ชีวาศรมจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะของพนักงานอยู่เสมอ”
“พนักงานของเราไม่เพียงมีความรู้ แต่ล้วนปฏิบัติตามวิธีเวลเนสด้วยเช่นกัน จึงสามารถส่งต่อ Wellness Passion แก่ผู้เข้าพักและคนรอบข้างได้ ดังนั้น ความรู้ ทักษะที่เชี่ยวชาญ บวกกับการบริการแบบใจไทยจึงเป็นเอกลักษณ์และมาตรฐานของชีวาศรม”
Photo: Chiva-Som
คุณวินย์เปิดเผยเพิ่มเติมว่า แท้ที่จริงแล้วแขกคนสำคัญของชีวาศรมก็คือ พนักงานทุกคนของที่นี่นั่นเอง
“แขกคนแรกของชีวาศรม คือ พนักงานของเรา เพราะเวลาที่พนักงานมีความสุขทั้งกายและใจ การบริการที่มอบให้กับแขกทุกท่านจะเป็นไปอย่างธรรมชาติด้วยใจจริง การที่ชีวาศรมได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติมาอย่างยาวนานก็มาจากการที่พนักงานเป็นผู้ที่สร้าง Guest Experience”
“พนักงานของเราทุกคน ทุกตำแหน่ง ต้องมีความเข้าใจเรื่อง Wellness อย่างถ่องแท้และรับเข้าเป็นวิถีชีวิต ทุกคนสามารถส่งผ่านและสร้างแรงบันดาลให้กับลูกค้าของเราได้ แม้เมื่อแขกของชีวาศรมหยุดพูดคุยกับคนสวนของเรา หรือสอบถามรายการอาหารกับพนักงานที่ห้องอาหาร เขาจะได้รับแรงบันดาลใจและพลังงานด้านบวกกลับไป”
Photo: Chiva-Som
ศิลปะของการเป็นผู้นำในธุรกิจเพื่อสุขภาพ
เนื่องจากธุรกิจเพื่อสุขภาพไม่เคยหยุดนิ่ง มีความรู้และวิทยาการใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกวัน ความต้องการของลูกค้าจึงมีการปรับเปลี่ยนตลอด สิ่งที่รีสอร์ตสุขภาพชั้นนำอย่างชีวาศรมปฏิบัติอยู่เสมอ คือ การเรียนรู้และปรับตัวให้เร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในขณะเดียวกันก็ยังคงยึดมั่นในปรัชญาขององค์กรเสมอมา
คุณวินย์ยกตัวอย่างความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันอันเกิดขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ซึ่งนับวันจะยิ่งเด่นชัดมากขึ้น เช่น มลพิษจากสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น จำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) มีมากขึ้น ซึ่งมีสาเหตุจากไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ ทั้งการกิน การใช้ชีวิต การทำงาน ความเครียด ความเร่งรีบ และโรคระบาดที่เกิดขึ้นใหม่ ที่ทำให้ชีวาศรมต้องคิดค้นทรีตเมนต์ใหม่ ๆ เพื่อตอบรับทุกความต้องการ
Photo: Chiva-Som
“คนจึงมองหา Wellness ที่ไม่ใช่การแพทย์ แต่อยู่ในด้านของการป้องกัน หรือ Preventive ซึ่งตรงกับการให้บริการของชีวาศรม ที่เน้นการให้ความรู้ด้านสุขภาพแบบองค์รวม และแนะนำการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้แก่ผู้เข้าพัก และปฏิบัติร่วมกันกับผู้เข้าพัก เพื่อการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย”
“ในการปรับตัวให้ตรงความต้องการของผู้บริโภค คือ การนำเสนอทรีตเมนต์และกิจกรรมที่จะช่วยลดความเสี่ยงโรคที่เกิดจากไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเสริมการให้บริการแบบเฉพาะบุคคล เช่น การตรวจพันธุกรรมเพื่อนำผลมาวางแผนจัดสรรโปรแกรมสุขภาพให้ตรงความต้องการและยั่งยืน หรืออาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล”
นอกจากนี้ การอุบัติขึ้นของโรคโควิด-19 ยิ่งทำให้ชีวาศรมต้องขยับและปรับตัวเองให้เท่าทันสถานการณ์ เช่น บริการด้านสุขภาพออนไลน์ Chiva-Som Wellness Online Services ที่ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ การฝึกสมาธิ โยคะ และพิลาทิสบนดิจิทัลแพลตฟอร์มที่สามารถให้บริการแก่ผู้สนใจทั่วโลก โดยไม่มีข้อจำกัดด้านการเดินทาง
Photo: Chiva-Som
แม้กระทั่งหลังผ่านพ้นวิกฤติการณ์แพร่ระบาดไปแล้ว แต่ความต้องการด้าน Wellness โดยเฉพาะการสร้างภูมิคุ้มกันกลับยิ่งเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความต้องการด้าน Digital Detox เนื่องจากผู้คนต้องพึ่งพาและทำงานบนแพลตฟอร์มดิจิตัลอย่างมาก ทำให้เกิดความเครียดและต้องการพักจากโลกดิจิทัลแล้วกลับมาสัมผัสธรรมชาติ
ชีวาศรมจึงออกรีทรีตใหม่ 4 ตัวหลังช่วงโควิด-19 ได้แก่ Immune Resilience ช่วยส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวมทั้งด้านจิตใจ และอาหารเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย และ Aging Well ที่เป็นการวางแผนด้านสุขภาพระยะยาวเฉพาะบุคคลให้ผู้เข้าพักได้เลือกสร้างความแข็งแรงให้กับตัวเองไปพร้อมกับอายุที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีรีทรีต Gut Health ส่งเสริมสุขภาพช่องท้อง ทั้งเรื่องระบบการย่อยและโภชนาการอาหาร และรีทรีต Nature’s Embrace เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนที่หันมาใส่ใจกับธรรมชาติรอบตัวมากขึ้นหลังจากช่วงวิกฤตโควิด-19
Photo: Chiva-Som
ปักหมุดบนแผนที่โลกอย่างไรให้ยั่งยืน
นอกจากการยืนหยัดในเจตนารมณ์ขององค์กร และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ชีวาศรมใส่ใจด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมเสมอมา ด้วยความมุ่งมั่นและยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคม ชีวาศรมจึงได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ United Nations Global Compact หรือ UNGC โครงการหนึ่งของสหประชาชาติที่มีเป้าหมายในการกระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกหันมาใช้นโยบายในการดำเนินกิจการซึ่งมีความยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะบรรลุ Sustainable Development Goals ทั้ง 17 ประการ (17 SDGs) ซึ่งชีวาศรมเข้าร่วมมา 10 ปีแล้ว โดยจะต้องส่งรายงานประจำปีว่าได้บรรลุเป้าหมายประการใดแล้วบ้างใน 17 ข้อ
อีกทั้งอุดมการณ์ของชีวาศรมในการเผยแพร่ Wellness ไปทั่วโลก ยังเน้นไปที่หัวใจสำคัญอย่าง Quality Over Scale เป็นสำคัญ
“Quality Over Scale หมายความว่า เราไม่เน้นการขยายแบบจำนวนมาก แต่เน้นการขยายให้ได้คุณภาพ เติบโตแบบออร์แกนิก ไม่เกินตัว และนำแนวคิดหลักของชีวาศรมในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมและยั่งยืนเผยแพร่แก่ผู้เข้าพักและชุมชน ทั้งยังนำเสนอการบริการอันประณีต นุ่มนวล และเชี่ยวชาญของคนไทยให้คนต่างชาติได้สัมผัส” คุณวินย์กล่าวย้ำ ก่อนเล่าต่อถึงโปรเจกต์ล่าสุดอย่างการขยายบริการไปยังประเทศกาตาร์ในชื่อ Zulal Wellness Resort by Chiva-Som”
Photo: Chiva-Som
“ปี 2565 ชีวาศรมได้ขยายการให้บริการไปยังประเทศกาตาร์ โดยเปิดให้บริการ Zulal Wellness Resort by Chiva-Som นำความรู้ด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมในแบบชีวาศรม และการบริการของไทย ผสานกับองค์ความรู้ในท้องถิ่น Traditional Arabic and Islamic Medicine เป็นการกระจายความรู้ด้านเวลเนสของไทยสู่นอกภูมิภาค เป็นประโยชน์แก่คนในตะวันออกกลาง ซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาพ ขณะเดียวกันผู้แสวงหา Wellness Resort ที่อยู่ในยุโรปสามารถเดินทางมารับบริการของชีวาศรมได้สะดวกขึ้น”
“นอกจากนี้ ยังเป็นการขยายกลุ่มผู้รับบริการจากกลุ่มผู้ใหญ่ไปยังกลุ่มครอบครัว ด้วยการให้บริการ Family Wellness ที่ Zulal Wellness Resort ให้ทั้งครอบครัวได้มาพักผ่อนพร้อมกับเรียนรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีพร้อมกันทั้งครอบครัว เมื่อคนในครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกัน เด็กจะเห็นแบบอย่างจากคุณพ่อคุณแม่ หรือคุณปู่คุณย่า เมื่อกลับบ้านทุกคนจะช่วยส่งเสริมและนำไปปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริงได้ในทุกวัน ได้ประโยชน์ทั้งผู้ใหญ่และเด็กซึ่งจะเป็นคนรุ่นถัดไป Family Wellness ยังมุ่งหมายให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพ”
Photo: Chiva-Som
คุณวินย์ปิดท้ายถึงมุมมองที่มีต่อการเติบโตของเทรนด์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในปัจจุบัน
“การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะมีส่วนอย่างมากต่อการขับเคลื่อน High Value - Low Impact Tourism หรือการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าสูงและสร้างผลกระทบทางลบต่ำ เพราะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะรวมบริการหลายด้าน ทำให้สามารถดึงรายได้ได้มากขึ้น นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะเข้าพักระยะยาว และส่วนมากจะมีความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมอย่างมากสำหรับการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน Wellness Tourism ของโลก และในระดับโลกเองก็จับตามองทิศทางของประเทศไทยเช่นกัน”
“ความพร้อมของไทย ได้แก่ ธรรมชาติที่สวยงามเหมาะแก่การพักผ่อน แหล่งวัตถุดิบอาหารที่อุดมสมบูรณ์ บุคคลากรด้านสุขภาพ อาทิ สปาไทยที่มีชื่อเสียงในระดับโลกและทำรายได้เข้าประเทศอย่างมาก บุคลากรและบริการด้านการแพทย์ รวมถึง Hospitality ของไทยที่เป็นจุดแข็งหาใครเทียบได้ยาก”
ด้วยแต้มต่อของเมืองไทย ดังที่คุณวินย์หยิบยกมากล่าวถึง จึงเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า หากผู้ประกอบการในแวดวงสุขภาพของไทยมุ่งมั่นและใส่ใจในการบริการอย่างจริงจังและจริงใจ การก้าวไปเป็นหนึ่งในผู้นำของแวดวงท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่คนไทยจะลงมือทำ
อ้างอิง
- innovestxonline. เทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโอกาสใหม่ทางธุรกิจ. https://bit.ly/3uilNuP