ชวนไปเปิดประสบการณ์นั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูง เที่ยวหลวงพระบาง

15 Dec 2022 - 7 mins read

Travel / World

Share

ใครชอบเดินทางเที่ยวด้วยรถไฟ ถ้ามีวันหยุดสัก 3-4 วัน มาปักหมุดที่เมืองสวยมีเสน่ห์อย่างหลวงพระบางที่องค์การยูเนสโกยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก แต่จะไปทั้งทีต้องลองเดินทางรูปแบบใหม่ด้วยรถไฟความเร็วสูง สายลาว-จีน ที่แม้จะเปิดให้บริการไปได้สักพักแล้วแต่ก็ฮอตฮิต เพราะไม่เพียงแต่สะดวกสบาย รวดเร็ว ระหว่างทางยังได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางอันงดงามของประเทศลาว แถมตอนนี้ยิ่งได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ

รู้ไว้ก่อนไป : ที่มาและความสำคัญของเส้นทางรถไฟลาว-จีน

เส้นทางรถไฟความเร็วสูง สายลาว-จีน สายนี้มีความสำคัญ นอกจากใช้เชื่อมต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจของลาวและจีนแล้ว ยังเชื่อมการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มอาเซียนอีกด้วย โดยมีความยาวกว่า 1,000 กิโลเมตร เชื่อมต่อสถานีทั้งหมด 45 สถานีในสองประเทศ ในฝั่งลาวเปิดให้บริการเพื่อการท่องเที่ยวแล้ว 6 สถานีด้วยกัน เรียกว่าเส้นทาง “นครหลวงเวียงจันทน์ – บ่อเต็น” ได้แก่ สถานีเวียงจันทน์ สถานีโพนโฮง สถานีวังเวียง สถานีหลวงพระบาง สถานีเมืองไซ และสถานีบ่อเต็น

จากเดิมถ้าเดินทางโดยรถยนต์จากเวียงจันทน์ไปยังหลวงพระบางจะต้องใช้เวลาร่วม 6-7 ชั่วโมง แต่รถไฟความเร็วสูงขบวนนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 50 นาทีเท่านั้น แหม!! อะไรจะรวดเร็วปานนั้น แบบนี้ก็อย่ารอช้า กระโดดขึ้นรถไฟไปเที่ยวกันเลย

จากเวียงจันทน์ไปหลวงพระบาง

เริ่มต้นทริปนี้ด้วยการขึ้นรถไฟความเร็วสูงที่สถานีนครเวียงจันทน์ที่ยังใหม่ และใหญ่จนต้อง “ว้าว” สมกับเป็นสถานีเชื่อมต่อระหว่างสองประเทศ และเป็นหน้าเป็นตาของประเทศลาว การได้เห็นขบวนรถไฟใหม่เอี่ยมกับรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ยิ่งทำให้รู้สึกว่าทริปนี้น่าสนุกขึ้นมาทันที แนะนำให้ขึ้นรถไฟลาว-จีน

เที่ยวเช้าออกจากสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ตอน 08.30 น. ซึ่งจะพาเราไปถึงสถานีหลวงพระบางตอนสาย 10.20 น. เพื่อให้ยังมีเวลาเที่ยวได้อีกทั้งวัน (อย่าลืมเช็กตารางการเดินรถซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้)

รถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีนครเวียงจันทน์ค่อนข้างตรงเวลา แนะนำให้ไปถึงก่อนเวลา ไม่อย่างนั้นอาจจะเสียเที่ยวตกรถไฟ แน่นอนว่าสภาพบนรถไฟนั้นก็ยังดูใหม่เอี่ยม ที่ชอบมากอย่างหนึ่งก็คือด้วยความที่ขบวนรถไฟลาว-จีนนั้น เป็นรถราง EMU (Electric Multiple Unit) ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจึงเงียบกริบไม่มีเสียงดังขณะที่แล่นไป

เรื่องอาหารการกิน ก็แนะนำให้กินมาก่อนขึ้นรถให้เรียบร้อย หรือไม่ก็ซื้อแล้วพกมาเป็นเสบียงด้วย เพราะที่สถานี และระหว่างทางบนรถไฟไม่มีอาหารให้บริการ จะมีก็แต่เครื่องดื่มเท่านั้น ส่วนคนที่เป็นห่วงเรื่องห้องน้ำก็ไม่ต้องกังวล เพราะทุกตู้โดยสารมีห้องน้ำให้บริการในตัว ทั้งยังสะอาดสะอ้านไม่แพ้ห้องน้ำบนเครื่องบินเลยทีเดียว ด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับนักเดินทาง ทุกที่นั่งมีที่ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ให้พร้อม

ราว 1 ชั่วโมงที่รถไฟออกจากเวียงจันทน์ เราก็จะเข้าสู่เขตวังเวียง เมืองท่องเที่ยวอีกแห่งซึ่งเป็นที่นิยม ทัศนียภาพที่มองออกไปนอกหน้าต่างในแถบนี้สวยงามด้วยภาพของทุ่งนา และภูเขาที่เขียวขจี จนรู้สึกดื่มด่ำเพลิดเพลินไปกับวิวชนบทสวยงามสองข้างทางของ สปป.ลาว เผลอแป๊บเดียวก็มาถึงหลวงพระบางแล้ว

สะบายดีหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกที่เวลาเดินช้าลง

หลวงพระบางอยู่ทางภาคเหนือของ สปป.ลาว ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง และแม่น้ำคาน ซึ่งไหลมาบรรจบกัน อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งวันวานที่อนุรักษ์ความเก่าเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ประกอบกับความน่ารัก และใจดีของชาวหลวงพระบางที่มอบให้กับบรรดานักท่องเที่ยว ทำให้ผู้มาเยือนจากต่างถิ่นสัมผัสได้ถึงความสุขสงบ จนทำให้รู้สึกได้ว่าเวลาเดินช้าลงเมื่อมาเยือนหลวงพระบาง

นี่เองเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ว่าใครต่อใครต่างหลงเสน่ห์เมืองนี้ ซึ่งเราสามารถใช้เวลาช้า ๆ ชิล ๆ อยู่ที่นี่กันได้ตั้งแต่ 3-5 วัน โดยไม่มีเบื่อ และเพื่อให้ทริปนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น 

เราขอแนะนำพิกัดห้ามพลาด พร้อมที่พักสไตล์ต่าง ๆ ให้เลือกกันเป็นไอเดีย

1. สายแชะห้ามพลาด ภาพถ่ายคู่กับจิตรกรรมฝาผนังวัดเชียงทอง

นี่คือสถานที่ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต้องมาเก็บภาพเป็นที่ระลึก ไม่อย่างนั้นอาจจะพูดไม่ได้เต็มปากว่ามาถึงเมืองหลวงพระบาง

วัดเชียงทองเป็นอารามเก่าแก่ประจำเมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2101-2103 เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องไปเพื่อซึมซับประวัติศาสตร์ และชมสถาปัตยกรรมความงามในแบบล้านช้าง จุดเด่นคือ สิมหลังคาซ้อน 3 ตับ ด้านหลังประดับตกแต่งเป็นลวดลายต้นโพธิ์ทองเต็มผนัง และยังมีช่องหน้าต่างที่เต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังแสนสวยงาม ซึ่งไม่ว่าใครต่อใครมาที่นี่ต่างต้องแชะรูปภาพที่ตัวเองโผล่หน้าออกมานอกบานหน้าต่างเก็บไว้เป็นที่ระลึก และแชร์อวดโซเชียลด้วยกันทั้งนั้น


แอบบอกกันไว้ก่อนในเรื่องการแต่งกายไปเที่ยวชมวัดวาอาราม ถ้าอยากจะแต่งตัวให้อินกับบรรยากาศของผู้คนที่นี่ ผู้หญิงจะนุ่งซิ่นกับเสื้อลูกไม้ และผ้าพาดไหล่ ส่วนผู้ชายก็นุ่งโสร่งและสวมเสื้อพื้นเมือง เพียงแค่นี้ก็สามารถสวยหล่อเป็นหนุ่มสาวชาวหลวงพระบางได้เช่นกัน

2. สัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจดื่มด่ำล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขง

การล่องเรือชมแม่น้ำโขงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ที่จะทำให้เราได้สัมผัสถึงความงาม และทัศนียภาพของหลวงพระบางได้ดีที่สุด 

ทัวร์ล่องเรือแม่น้ำโขงแบบนี้มีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ เราสามารถเลือกที่จะล่องเรือในช่วงกลางวันเพื่อชมความงามของสายน้ำ และขุนเขา ร่วมกับแพ็คเกจทัวร์ ซึ่งอาจจะพาแวะไปชมสถานที่อื่น ๆ ร่วมด้วยได้

แต่ถ้าพอมีงบ และอยากจะดื่มด่ำประทับใจขั้นสุด ก็ขอแนะนำให้เลือกล่องเรือหรูเพื่อชมความงามของพระอาทิตย์ตกยามเย็นอันแสนโรแมนติกกลางลำน้ำโขง พร้อมกับจิบค็อกเทลหรือไวน์ ดื่มด่ำกับอาหาร Fine Dining ก็ย่อมได้ ซึ่งบริการล่องเรือชมแม่น้ำโขงสุดหรูแบบนี้มีเรือหลายสไตล์ให้เลือกใช้บริการ สำหรับเจ้าที่ได้รับความนิยมมากอย่างเช่น Monsoon Cruise ของ Mekong Kingdoms โดยวิธีจองนั้นก็ไม่ยากเลย เพียงติดต่อผ่านบริษัททัวร์ หรือจองผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้

ขอบคุณภาพจาก Mekong Sunset River Cruise

3. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองพร้อมชมพระอาทิตย์ตกสุดงามที่ยอดพูสี

ยอดพูสี เป็นเนินเขาสูง 150 เมตร ใจกลางเมืองเก่าหลวงพระบาง นอกจากพระธาตุพูสีซึ่งมีรูปทรงดอกบัวสีทองอร่ามงดงามที่ผู้คนศรัทธาเดินขึ้นบันไดถึง 328 ขั้นเพื่อแวะชมสักการะแล้ว ด้วยความที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบเมืองหลวงพระบางได้รอบด้านถึง 360 องศา

ยอดพูสีจึงยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยอดนิยมตลอดกาลของเมืองหลวงพระบาง โดยด้านหนึ่งจะมองเห็นตัวเมืองอยู่ในอ้อมกอดของแม่น้ำคาน และขุนเขา ส่วนอีกด้านเห็นตัวเมืองหลวงพระบางกับลำน้ำโขง ในวันที่เป็นใจคุณจะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามจับใจ เป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งหากมาถึงหลวงพระบางแล้วไม่ควรพลาดชม และแชะภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกในความทรงจำ

4. นอนไหนดี? มีที่พักทุกสไตล์ให้เลือกในหลวงพระบาง

ที่หลวงพระบางมีที่พักหลากหลายสไตล์ให้เลือกตามความชอบ และตาม Budget ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรูระดับ Ultra Luxury อย่าง Rosewood Luang Prabang ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองไปไม่ไกล และถูกโอบล้อมท่ามกลางผืนป่าธรรมชาติอันงดงาม ซึ่งได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลกอย่าง บิล เบนส์ลีย์ สะท้อนวัฒนธรรมพื้นถิ่นของลาวออกมาได้อย่างโดดเด่น เพียบพร้อมไปด้วยทิวทัศน์สวยงาม และบริการเหนือระดับ

ถ้าไม่ต้องการพักหรูขนาดนั้น แต่ยังอยากจะได้รับบริการที่มีมาตรฐานระดับโรงแรมห้าดาวที่เชื่อถือได้ ขอแนะนำ Avani+ Luang Prabang ที่ทำเลดี เพราะตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าหลวงพระบางเลย หรือจะเป็นโรงแรม Sofitel Luang Prabang ที่ปรับปรุงจากแมนชั่นเก่าย้อนยุคของครอบครัวขุนนางฝรั่งเศสที่สร้างขึ้นราว ค.ศ. 1900 ก็ได้อารมณ์ของโรงแรมเฮอริเทจที่เก็บรักษามรดกทางวัฒนธรรมเก่า ๆ ที่ผสานความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว

ขอบคุณภาพจาก Rosewood Luang Prabang

สำหรับคนที่อยากจะสัมผัสความเป็นพื้นถิ่น และไม่ติดว่าจะต้องพักโรงแรมระดับ 5 ดาว หลวงพระบางก็เต็มไปด้วยโรงแรมบูทีคน่ารัก ๆ อย่าง Maison Dalabua Hotel ที่พักดูดี และสะดวกสบาย รายรอบไปด้วยสระบัว หรือถ้าอยากจะได้ที่พักติดวิวแม่น้ำโขง ขอแนะนำ Mekong Riverview Hotel ในเขตเมืองเก่า ซึ่งก็จะสะดวกสำหรับคนที่อยากจะจัดทริปล่องเรือชมแม่น้ำโขงด้วย ส่วนอีกที่ก็คือ The Belle Rive Boutique Hotel โรงแรมที่สร้างจากอาคารโคโลเนียลเก่าสีฟ้า-ขาวสุดคลาสสิก

ขอบคุณภาพจาก Maison Dalabua Hotel

ส่วนใครที่เป็นนักท่องเที่ยวสายฮิปสายลุยหน่อย ก็ขอแนะนำ Luxury Camp @ Green Jungle Park ที่อยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวของเมืองหลวงพระบาง มีห้องพักทั้งแบบบ้านพักไปจนถึงลานกางเต็นท์ หรือจะเป็นเกสต์เฮ้าส์ราคาหลักร้อย แต่ได้คะแนนรีวิวดีจากนักท่องเที่ยวอย่าง Magic M Guest House หรือถ้าคุณอยากจะพบปะผู้คน และมิตรภาพใหม่ ๆ ก็อาจเลือกที่พักสไตล์โฮสเทลที่สะดวกสบาย เป็นที่ถูกใจของบรรดานักท่องเที่ยวสายBackpacker และฮิปสเตอร์อย่าง Mad Monkey ก็ได้

ขอบคุณภาพจาก Luxury Camp @ Green Jungle Park และ Mad Monkey

Travel Tips :
 

● สำหรับคนไทยที่มีพาสปอร์ต สามารถเดินทางเข้าสปป.ลาวได้แบบไม่ต้องมี VISA เพียงยื่นพาสปอร์ตก็ผ่านเข้าได้เลย โดยมีระยะเวลาอยู่ได้ไม่เกินครั้งละ 30 วัน

● สำหรับใครที่ยังไม่มีพาสปอร์ต ก็สามารถเข้าลาวได้เช่นกัน แต่ต้องขอบัตรผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border Pass) ด้วยการยื่นสำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ พร้อมรูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป และค่าธรรมเนียม 30 บาท ก็ทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวที่ด่านได้ทันที แต่สามารถเดินทางเข้าสปป.ลาวได้เฉพาะในเขตนครหลวงเวียงจันทน์ โดยมีระยะเวลาอยู่ได้ครั้งละ 3 วัน 2 คืนเท่านั้น ดังนั้นถ้าจะไปทริปนั่งรถไฟความเร็วสูง เราควรเตรียมทำพาสปอร์ตไว้ให้พร้อม

● ใครอยากไปเที่ยวตามเรา สามารถอัปเดตตารางเดินรถเส้นทางรถไฟความเร็วสูง สายลาว-จีน ได้ที่ Facebook : Laos-China Railway Company Limited หรือข้อมูลเพิ่มเติมอื่น ๆ ได้ที่ http://www.lcrc.ltd/

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...