เดินตลาดปลา ชมมัสยิดเก่าแก่ที่ ‘มาเล่’ เมืองหลวงมากสีสันนอกสายตาของ ‘มัลดีฟส์’

น้ำทะเลใสแจ๋วสะท้อนสีฟ้า หาดทรายละเอียดขาวสะอาดตา แสงอาทิตย์ส่องกระทบผืนน้ำเป็นประกายระยิบระยับ รีสอร์ตแสนสบาย พร้อมสะพานไม้ที่ทอดยาวออกไปกลางทะเล

ใคร ๆ ก็คงนึกถึงภาพนี้เมื่อพูดถึง ‘มัลดีฟส์’

หลังจากเครื่องบินลงจอด ณ สนามบินนานาชาติเวลานา แห่งมัลดีฟส์ จุดมุ่งหมายแรกของนักท่องเที่ยวคือมุ่งตรงสู่เมืองหลวงที่ชื่อว่า มาเล่ (Malé) แต่เมื่อพูดถึงมาเล่ หลายคนกลับนึกไม่ออกว่าวิถีชีวิตของคนที่นั่นเป็นอย่างไร ของอร่อยขึ้นชื่อมีอะไร บ้านเมืองหน้าตาเป็นแบบไหน เพราะสำหรับนักท่องเที่ยวแล้วเมืองหลวงแห่งนี้เป็นเพียงทางผ่านเพื่อที่จะขึ้นเรือไปยังอะทอลล์ต่าง ๆ เท่านั้น

(อะทอลล์ - Atoll : คำที่ใช้เรียกเกาะต่าง ๆ ในมัลดีฟส์ ซึ่งเป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นปะการังวงแหวนล้อมรอบด้วยลากูน)

มาเล่ เป็นเมืองหลวงของมัลดีฟส์ที่ขึ้นชื่อเรื่องของความเป็นที่สุด ที่สุดแรก คือเป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดในโลก โดยมีขนาดเพียง 8.3 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น  แค่วันเดียวเราก็เดินเที่ยวได้ทั้งเมือง ตามไปเช็กอินได้ครบทุกแลนด์มาร์กแล้ว ที่สุดลำดับต่อมา คือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในมัลดีฟส์และติดอันดับต้น ๆ ของโลก แม้จะมีพื้นที่คับแคบ แต่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 2 แสนคน ทำให้ตัวเมืองมาเล่มีบรรยากาศคึกคักอยู่ตลอดเวลา 

เพื่อเป็นการทำความรู้จักมาเล่ให้มากขึ้น ทริปนี้ LIVE TO LIFE จึงอยากพาทุกคนไปเยือนมัลดีฟส์และออกเดินสำรวจมาเล่ เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสีสันและรุ่มรวยด้วยวัฒนธรรม พร้อมแล้วก็ ยืดเส้น ยืดสายแล้วออกเดินไปพร้อมกับเราเลย ~

เดินตลาดเช้ากินขนมขึ้นชื่อและผลไม้ท้องถิ่น

ยามเช้าของทุกวัน คงไม่มีที่ไหนเหมาะจะเริ่มต้นทริปเท่ากับตลาดอีกแล้ว เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่คนท้องถิ่นต่างก็ออกมาเดินจับจ่ายใช้สอย ใครที่อยากจะดูว่าชาวเมืองมาเล่เขากินอะไรกัน เราขอแนะนำให้มาเดินตลาดเช้าของมาเล่ที่คึกคักกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง

ตลาดแห่งใหญ่ใจกลางเมืองมาเล่มีทั้งตลาดสดและตลาดปลา ทางฝั่งตลาดสด ต้องมองหาขนม Addu Bendi ขนมหวานห่อใบตองแห้ง หน้าตาคล้าย ๆ ไส้กรอก แต่ด้านในทำจากมะพร้าวฝอยผสมน้ำเชื่อม และน้ำมะลิ เป็นขนมหวานขึ้นชื่อจากทางใต้ของมัลดีฟส์ 

หากลองสังเกตดูจะพบว่าตลาดแห่งนี้เต็มไปด้วยผลหมากรากไม้ อุดมสมบูรณ์ ส่วนหนึ่งของผลไม้ที่เราเห็นเป็นผลไม้ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะผืนดินของมัลดีฟส์มีขนาดน้อยนิด ไม่สามารถปลูกพืชได้มากนัก ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็ยังมีผลไม้ขึ้นชื่ออย่าง มะพร้าว มะม่วง กล้วย แตงโม มะละกอ โดยเฉพาะมะม่วงซึ่งนำถูกนำไปแปรรูปเป็นขนมหวานมากมาย นอกจากมะม่วงสด ๆ แล้วต้องไม่ลืมชิมขนมเมนูมะม่วงของที่นี่ด้วย อีกหนึ่งผลไม้แปลกที่หากินไม่ได้บ่อย ๆ นัก แต่มีทั่วไปที่มาเล่ คือ เตยทะเล หน้าตาคล้ายผลไม้ปิศาจในมังงะเรื่องวันพีซ (One Piece) กลิ่นออกเปรี้ยว แต่รสชาติออกหวาน ๆ เย็น ๆ 

ตลาดท้องถิ่นเมืองมาเล่ (Local Market)

ที่ตั้ง : Boduthakurufaanu Magu, Malé, Maldives

เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

เช้า-เย็นเดินเล่นตลาดปลา

ชิมทูน่าครีบเหลืองตัวยักษ์สดจากท้องทะเล

อาชีพหลักของชาวมาเล่คือชาวประมง ผลผลิตคุณภาพที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองหลวงแห่งนี้คือ ‘อาหารทะเล’ โดยเฉพาะปลาทะเลตัวใหญ่ยักษ์ที่ส่งตรงถึงสะพานปลาทุกวัน

ช่วงเช้าและเย็นที่ตลาดปลาจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่ชาวประมงเพิ่งกลับจากการออกหาปลาในท้องทะเล ปลาของที่นี่มีทั้งปลาเล็ก ปลาใหญ่ ปลาขึ้นชื่อคือ ปลาทูน่าครีบเหลือง เนื้อหวาน นอกจากนี้ยังมีปลาโอ ปลากะพง ปลาเก๋า และอีกสารพัดปลาที่พ่อค้าแล่ขายสด ๆ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ใครที่มาเที่ยวมาเล่ต้องไม่ลืมหาโอกาสชิมเมนูปลาท้องถิ่น เราขอแนะนำ Mas Huni หรือ ทูน่ารมควันเสิร์ฟพร้อมกับพริก หัวหอม และมะพร้าวฝอย เหมาะจะเป็นเมนูเบา ๆ ยามเช้า หรือจะเป็น Garudhiya ซุปปลาหอมมะนาวซดคล่องคอ หอมกลิ่นมะพร้าว กินกับข้าวสวยหรือแป้งจาปาตีร้อน ๆ เข้ากันดี 

Mas Huni

Garudhiya

ขอบคุณภาพจาก lonumedhu.com

นอกจากปลาสดแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยอาหารทะเลตากแห้ง รวมของดีจากท้องทะเล ใครอยากได้ของฝากที่เต็มไปด้วยรสชาติของมาเล่ต้องไม่ลืมซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย

ตลาดปลามาเล่ (Male Fish Market)

ที่ตั้ง : 188 Ibrahim Hassan Didi Magu, Malé 20188

เปิดทุกวัน 7.00 น. – 17.00 น.

‘มูลีอาเก’ วังสุลต่านสุดน่ารัก

พร้อมป้อมปราการสีฟ้าน้ำทะเลมัลดีฟส์ที่ถูกใจอินสตาแกรมเมอร์

รั้วสีขาวขอบมน ธรณีประตูประกอบด้วยกระเบื้องหลากสี เห็นแค่ด้านนอกก็รู้ว่าที่นี่ต้องเป็นสถานที่สำคัญของเมืองมาเล่อย่างแน่นอน เบื้องหลังรั้วนี้ด้านในมีอาคารชั้นเดียวหน้าตาน่ารัก ๆ ตั้งอยู่ หลังคาสีชมพู หวาน ตัวอาคารตกแต่งด้วยสีน้ำเงินเข้ากัน ทำให้ดูคล้ายกับบ้านของเล่น ที่นี่คือ มูลีอาเก (Muliaage) อดีตเคยเป็นพระราชวังที่องค์สุลต่าน มูฮัมหมัด ชัมซุดดีนที่ 3 (Muhammad Shamsuddeen III) สร้างไว้เป็นที่พำนักของพระโอรส แต่หลังจากที่ระบบสุลต่านในมัลดีฟส์ล่มสลายไป อาคารแห่งนี้ก็กลายมาเป็นทำเนียบประธานาธิบดี

เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการ นักท่องเที่ยวจึงไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมในตัวอาคารได้ ทำได้เพียงชมอาคารสวย ๆ ผ่านประตูรั้วซี่เหล็กเท่านั้น แต่มาที่นี่ไม่เสียเที่ยว เพราะบริเวณรั้ววังยังมีป้อมปราการสีขาว ประดับด้วยบานหน้าต่างและประตูสีน้ำเงินน่ารัก เป็นอีกมุมสวย ๆ ของพระราชวังแห่งนี้ที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะถ่ายรูปได้ รับรองว่าถูกใจสายแชะรูปเช็กอินอย่างแน่นอน 

พระราชวัลมูลีอาเก (Muliaage Palace)

ที่ตั้ง : Medhuziyaaraiy Magu, Male' City 20115

ชมความงามหินปะการังสลักลาย​ที่

‘ฮูกูรู มิสกีย์’ มัสยิดโบราณอายุ 360 กว่าปี

ตรงข้ามกับรั้วพระราชวัง คือ มัสยิดฮูกูรู มิสกีย์  (Hukuru Miskiy) หรือ Old Friday Mosque สังเกตเห็นได้ไม่ยากเพราะมีหออะซานสูงใหญ่คล้ายประภาคารตั้งตระหง่านเป็นแลนด์มาร์กอยู่ด้านหน้า แม้ในเมืองมาเล่จะมีมัสยิดที่เก่าแก่และสวยงามอยู่ทั่วเมือง แต่ควรมาเยือนที่นี่ให้ได้สักครั้ง เพราะเป็นมัสยิดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1656 เพื่อรองรับจำนวนผู้นับถือศาสนาอิสลามของเมืองที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญในเมือง

มัสยิดแห่งนี้ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2008 เพราะเป็นสถาปัตยกรรมแห่งท้องทะเลที่วิจิตรงดงามและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน มัสยิดแห่งนี้สร้างจากหินปะการังแกะสลักเป็นลวดลายสวยงาม อีกทั้งยังมีงานแกะสลักไม้เป็นภาษาอาหรับในคัมภีร์อัลกุรอานประดับอยู่ด้านใน เป็นงานศิลปะเก่าแก่หาชมได้ยากจากฝีมือช่างไม้มัลดีฟส์ 

หากใครอยากเข้าชมที่นี่แนะนำว่าให้มากับคณะทัวร์หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะในปัจจุบันมัสยิดยังคงใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชุมชน มีการละหมาดตามเวลาอยู่เสมอ เราขอแนะนำให้มาในช่วงก่อนเวลา 12.00 น. หรือระหว่างเวลา 14.00 - 15.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่มีการละหมาด และข้อปฏิบัติที่สำคัญสำหรับผู้มาเยือนคือเรื่องเครื่องแต่งกาย ผู้ชายไม่สวมกางเกงขาสั้น ส่วนผู้หญิงต้องสวมเสื้อแขนยาวและกระโปรงคลุมเข่าให้เรียบร้อย

Hukuru Miskiy (Old Friday Mosque)

ที่ตั้ง : Lonuziyaarai Magu, Malé

เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

สำรวจเรื่องราวในอดีตที่

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (มัลดีฟส์) 

ขอบคุณภาพจาก https://bit.ly/3WaONjI

หากอยากทำความรู้จักกับมาเล่ให้มากขึ้นอีกนิด ให้มาเยือน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (มัลดีฟส์) (National Museum Maldives) ที่นี่เป็นสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราวของมัลดีฟส์ทั้งหมดเอาไว้ ด้านในมีข้าวของเครื่องใช้ของอดีตองค์สุลต่านและองค์ราชินี ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องใช้ เครื่องมือ อาวุธ บัลลังก์ ทอง ผ้าไหมทอ ฯลฯ 

ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังมีเศียรพระพุทธรูปที่สลักจากหินปะการัง ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ในเมืองท็อดดู (Thoddoo) อาลิฟ อาลิฟ อะทอลล์ (Alif Alif Atoll) ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองพุทธที่รุ่งเรือง นับว่าเป็นประติมากรรมทางศาสนาที่หาชมได้ยาก เนื่องจากหลักฐานต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นมัลดีฟส์เป็นเมืองพุทธได้ถูกทำลายไปเกือบหมดแล้ว 

หลังจากสนุกกับประวัติศาสตร์ของมัลดีฟส์อย่างเต็มอิ่ม ลองมานั่งพักผ่อนหย่อนใจใน Sultan Park สวนสาธารณะเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้เขียวขจี เป็นโอเอซิสใจกลางเกาะที่ร้อนระอุ 

National Museum (Maldives)

ที่ตั้ง : Chaandhanee Magu, Malé

เปิด อาทิตย์ - พฤหัสบดี 10.00 น. – 16.00 น. (หยุดวันศุกร์และเสาร์)

ค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ :

·       ผู้ใหญ่ 155 MVR (~369 บาท)

·       เด็กอายุไม่เกิน 18 ปี 78 MVR (~186 บาท)

·       นักเรียน, นักศึกษา 31 MVR (~74 บาท)

 เล่นว่าวลม ชมพระอาทิตย์ตกดินที่ Artificial Beach

ชายหาดสวย ผลงานชิ้นเอกเมืองมาเล่สรรค์สร้าง 

ใครที่มาเยือนมาเล่แล้วยังคิดถึงชายหาดสีขาว น้ำใส เหมือนที่อะทอลล์อื่นในมัลดีฟส์ ที่นี่ก็มีหาดทรายที่สวย ๆ ที่ตั้งอยู่สุดทางฝั่งตะวันออกของเมือง ที่นี่ไม่ใช่ชายหาดตามธรรมชาติ แม้จะล้อมรอบด้วยทะเล แต่มาเล่กลับไม่มีชายหาดเลย รัฐบาลจึงสร้างที่นี่ขึ้นเพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง ให้ได้มานอนอาบแดด เล่นน้ำ พายเรือ โต้คลื่น เล่นว่าวลม ได้ไวบ์ดี ๆ โดยไม่ต้องเดินทางออกไปยังอะทอลล์อื่น ชาวเมืองที่นี่นิยมมาเดินเล่น ชมพระอาทิตย์ดินในยามเย็นที่หาดแห่งนี้

ใครที่มีแพลนมาเที่ยวมัลดีฟส์ในหน้าร้อนนี้ หรืออยากจะสัมผัสมัลดีฟส์ในมุมมองใหม่รับรองว่ามาที่ ‘มาเล่’ แล้วจะไม่ผิดหวัง 

อ้างอิง 

• Ketika Shah. 10 Famous and Tasty Maldivian Dishes and Drinks to Try. https://bit.ly/4allZtf
• Elaine Villatoro. Male Island : A Travel Guide to the Capital of the Maldives. https://bit.ly/3UekGpl
• NGThai. มัลดีฟส์ : Walking Around Malé. https://bit.ly/4avDI1h
• กาญจนา หงษ์ทอง. (2558). ‘มัลดีฟส์’ ขอบฟ้า ทะเลฝัน. สำนักพิมพ์ Amarin Travel