

เที่ยวตามรอย เจมส์ บอนด์ ฉลอง 60 ปี หนังสายลับในตำนาน
Travel / World
10 Sep 2022 - 6 mins read
Travel / World
SHARE
10 Sep 2022 - 6 mins read
เสื้อสูทเนี้ยบกริบ ใบหน้าหล่อเหลาแบบชายหนุ่มชาวอังกฤษ มาร์ตินี่เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ประจำตัว รายล้อมด้วยสาว ๆ มากมาย และรหัสลับหมายเลข 007
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในเจเนอเรชันไหน ในช่วงชีวิตหนึ่งคุณน่าจะต้องเคยดูภาพยนตร์แฟรนไชส์ หรืออย่างน้อยก็เคยได้ยินชื่อของสายลับเลื่องชื่อในตำนานอย่าง “เจมส์ บอนด์ (James Bond)” สักครั้ง เพราะไม่ใช่เพียงเพราะความสนุกของหนัง ความชาญฉลาดในการเขียนบท หรือเสน่ห์เฉพาะตัวของสายลับ 007 แต่ละรุ่น แต่ยังรวมไปถึงเนื้อเรื่องที่พาเราไปสัมผัสความตื่นเต้นและตื่นตาของโลกใบนี้ ผ่านสายตาของสายลับระดับตำนานคนนี้ด้วย
และในที่สุดปีนี้แฟรนไชส์หนังสายลับเรื่องนี้ก็ได้เดินทางมาถึงวันครบรอบ 60 ปี เพื่อฉลองให้กับภาพยนตร์อันเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก เราจึงอยากชวนแฟน ๆ และคนรัก เจมส์ บอนด์ ทุกคนออกเดินทางตามรอยไปยังสถานที่ท่องเที่ยวจากหนังภาคต่าง ๆ ทั่วโลกด้วยกัน รับรองว่าสถานที่ที่เราคัดสรรมาจะทำให้คุณใจเต้นได้ไม่แพ้ตอนที่ดูผ่านจอแน่นอน
Highlands สกอตแลนด์ – Skyfall
เชื่อว่าหลายคนยังจำฉากสำคัญช่วงตอนปลายภายในหนังภาคสำคัญอย่าง Skyfall ได้ ถนนเส้นยาวที่ตัดผ่านหุบเขาเวิ้งว้าง ล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตา ที่ตั้งของคฤหาสน์ Skyfall สถานที่ที่ถูกเซตให้เป็นบ้านเกิดของสายลับหนุ่ม เจมส์ บอนด์ นั่นเอง
สำหรับใครที่อยากตามรอย ที่แห่งนี้อาจจะต้องเดินทางกันไกลหน่อย เพราะที่นี่ตั้งอยู่ที่ Highlands ในสกอตแลนด์ สำหรับนักท่องเที่ยวถือว่า Highlands เป็นเหมือนดินแดนในฝันที่ต้องได้มาเยือนสักครั้ง ทุ่งหญ้าสีเขียวบนที่ราบสูงตัดกับท้องฟ้าไม่มีที่สิ้นสุดและทะเลสาบที่โอบล้อมธรรมชาติรอบทิศทาง เป็นทัศนียภาพที่ไม่ว่าใครก็ต้องตกหลุมรัก
เครดิตภาพ
Website : www.007.com
แต่สำหรับแฟนสายลับ 007 เราขอแนะนำให้เดินทางฉีกไปทางตะวันตกอีกนิดเพื่อมุ่งหน้าสู่ถนนสายสำคัญในภาพยนตร์ โดยถนนเส้นนี้มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ Loch Etive ทะเลสาบแสนสวยที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงยอดปกคลุมไปด้วยหิมะ ช่วงเวลาที่แนะนำคือยามเช้าที่แสงอาทิตย์เริ่มอาบย้อมทุ่งหญ้า หรือช่วงบ่ายที่แดดจัดจ้ามองเห็นภูเขาสะท้อนในน้ำได้ สามารถเดินทางมาเยือนโดยการซื้อทัวร์หรือขับรถเที่ยวแบบแวะตามจุดต่าง ๆ ก็ได้ หรือถ้าจะให้ได้บรรยากาศอาจจะลองเช่าแอสตันมาร์ตินสวย ๆ สักคันแบบที่สายลับหนุ่มขับในหนังมาเป็นพร็อพถ่ายรูปก็เข้าท่าไม่น้อย
Villa Del Balbianello ทะเลสาบ Como อิตาลี – Casino Royale
ข้ามฟากมายังอีกภาคหนึ่งของแฟรนไชส์ 007 ที่ดังไม่แพ้กันอย่าง Casino Royale กันบ้าง โดยสถานที่ที่สวยตราตรึงจนหลายคนยังจำได้ไม่ลืมจากภาคนี้เห็นจะเป็นโรงพยาบาลที่บอนด์และเวสเปอร์พักฟื้นจนเกิดเป็นฉากรักแสนโรแมนติกนั่นเอง
โดยสถานที่แห่งนี้แท้จริงแล้วคือคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Como ในอิตาลี โดยมีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เลยทีเดียว นอกจากความโอ่โถงแล้วยังสวยงามด้วยเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์อังกฤษและฝรั่งเศส สำหรับคนที่อยากมาเที่ยวชมสามารถซื้อบัตรเข้าชมสวนและตัวอาคารได้ในราคา 20 ยูโร (ประมาณ 740 บาท)
เครดิตภาพ
Website : www.007.com
จุดถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้เลยถ้าได้แวะมาเยือนคฤหาสน์แห่งนี้ก็คือบริเวณระเบียงโค้งที่สามารถมองออกไปเห็นวิวสวนและทะเลสาบสีฟ้าโดยมีฉากหลังเป็นภูเขาและท้องฟ้า สำหรับใครที่อยากมีงานแต่งงานในฝันสักครั้ง คฤหาสน์แห่งนี้ก็มีแพ็กเกจสำหรับจัดงานด้วย แน่นอนว่าราคาไม่เบาเลย แต่รับรองว่าความสวยงามและโรแมนติกของสถานที่จะทำให้งานนี้กลายเป็นงานแต่งงานในความทรงจำไม่แพ้ฉากหวานใน Casino Royale แน่นอน
Udaipur อินเดีย – Octopussy
ย้อนเวลากลับไปยังปี 1983 กันบ้าง ในปีที่ภาพยนตร์สายลับหนุ่ม 007 ลำดับที่ 13 อย่าง Octopussy ดังเปรี้ยงปร้างอย่างหยุดไม่อยู่ การตามล่าสายลับรัสเซียผ่านทางเจ้าชายชาวอัฟกันสู่แผนการท้าทายสุดอันตรายทำให้หนังภาคนี้น่าตื่นเต้นพอ ๆ กับความตื่นตาตื่นใจของฉากหลังที่ถ่ายทำในอินเดีย
กองถ่าย Octopussy เลือกใช้เมือง Udaipur หรือเมืองที่สามารถอ่านเป็นภาษาไทยได้ว่า “อุทัยปุระ” เป็นฉากหลัง ซึ่งมีจุดเด่นคือทะเลสาบ Pichola สุดโรแมนติกนั่นเอง อาคารหลายแห่งในเมืองนี้ถูกเลือกใช้เป็นสถานที่สำคัญภายในเรื่อง อาทิ Shiv Niwas Palace ที่ถูกเลือกให้เป็นโรงแรมที่สายลับหนุ่มพัก Jag Mandir Palace ที่ใช้เป็นบ้านของ Octopussy หรือ Monsoon Palace ที่แทนบ้านพักของ คามาล ข่าน โดยสถานที่เหล่านี้ได้กลายเป็นโรงแรมที่ใช้พักได้จริง แฟนเจมส์ บอนด์ สามารถจองเข้าไปพักเพื่อซึมซับบรรยากาศได้
เครดิตภาพ
Website : www.007.com
โรงแรมที่เราขอแนะนำที่สุดจากหนังภาคนี้คือโรงแรมลอยน้ำที่เป็นที่พักของ Octopussy ในเรื่อง สถานที่จริงของสิ่งปลูกสร้างสุดตระการตานี้คือโรงแรมห้าดาว Taj Lake Palace ซึ่งสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวดูหรูหราไม่แพ้พระราชวังสำคัญในอินเดียเลยทีเดียว โดยราคาเริ่มต้นของการเข้าพักที่โรงแรมนี้อยู่ที่ประมาณ 17,000 บาท แต่เมื่อเทียบกับประวัติความเป็นมาอันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 การตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราของตะวันตกและความประณีตแบบตะวันออก รวมถึงวิวทะเลสาบแสนสวยยามพระอาทิตย์ตกดินแล้ว นับว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ากับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต
Piz Gloria, Schilthorn สวิตเซอร์แลนด์ - On Her Majesty’s Secret Service
2,970 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลบนยอดภูเขา Schilthorn ที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปีในสวิตเซอร์แลนด์ มีสิ่งปลูกสร้างสุดอัศจรรย์แห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนนั้น ในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ On Her Majesty’s Secret Service สถานที่แห่งนี้คือคลินิกของ โบลเฟลด์ ตัวร้ายภายในเรื่องที่สายลับหนุ่มต้องตามล่า ทว่าในโลกความเป็นจริงสถานที่แห่งนี้คือที่ตั้งของร้านอาหาร Piz Gloria ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและแฟนภาพยนตร์ 007 สามารถไปเยี่ยมเยือนได้
ตัวอาคาร Piz Gloria ตั้งอยู่ในจุดสูงสุดของยอดเขาทำให้ผู้มาเยี่ยมชมสามารถเอ็นจอยกับความสวยงามของวิวเทือกเขาหิมะได้แบบพานอรามา โดยเฉพาะในส่วนระเบียงที่กว้างใหญ่สามารถบรรจุคนได้หลักร้อย เผยให้เห็นยอดเขาสูงกว่า 200 แห่งโดยรอบ ตัวร้านอาหารมีที่นั่งกว่า 400 ที่นั่ง เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่มื้อเช้าจนถึงประมาณหกโมงเย็น นักท่องเที่ยวจึงสามารถดื่มด่ำกับแสงเช้าที่กระทบยอดเขา ไปจนถึงละเลียดมื้อเย็นแสนอร่อยพร้อมแชมเปญแก้วโปรดได้
ที่น่ารักที่สุดคือที่นี่ยังซ่อนกิมมิกเล็ก ๆ เอาใจแฟนคลับเจมส์ บอนด์ ไว้ด้วย กับเมนูค็อกเทลประจำตัวของสายลับหนุ่ม หากใครได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนสวิตเซอร์แลนด์สักครั้ง อย่าลืมแวะไปที่ Piz Gloria แล้วกระซิบสั่งวอดก้ามาร์ตินี่ “เขย่า ไม่ต้องคน” กับบริกรดู รับรองต้องเป็นประสบการณ์ที่ทำให้คุณยิ้มได้ไปอีกนานแน่นอน