พาทัวร์กินเมนูท้องถิ่น ‘ฮานอย’ เมืองที่อาหารดีต่อสุขภาพและอร่อยติดอันดับโลก

24 Jul 2024 - 7 mins read

Travel / World

Share

ฮานอย (Hà Nội) เป็นเมืองหลวงเวียดนามที่ขึ้นชื่อเรื่อง ‘อาหารอร่อย’

 

หากมาเยือนที่นี่จะได้สัมผัสอาหารเวียดนามหลายสไตล์ ทั้งแบบดั้งเดิม อาหารท้องถิ่น เมนูตามฤดูกาล สตรีทฟู้ดน่าลอง และเมนูร่วมสมัยอีกมากมาย นั่นจึงทำให้ในปี 2024 นี้ ฮานอยถูกโหวตจาก Trip Advisor ให้เป็น ‘เมืองอันดับ 1 ที่น่าไปทัวร์กินที่สุด’ อีกด้วย

 

นอกจากอาหารเวียดนามจะอร่อยแล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องดีต่อสุขภาพอีกด้วย โดยเฉพาะสูตรดั้งเดิม มักจะมีผัก ปลา และเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ในปริมาณที่พอดีเป็นส่วนประกอบหลัก สังเกตเห็นได้ว่าทุกมื้อจะต้องมีสำรับผักสดพูน ๆ เสิร์ฟมาด้วยเสมอ อีกทั้งวิธีการปรุงอาหารยังเรียบง่าย นิยมตุ๋น ต้ม และนึ่งเป็นหลัก ลดปริมาณไขมันไปได้มาก นอกจากนี้ยังใช้เครื่องปรุงแคลอรีต่ำ เช่น น้ำปลา และไม่ใช้น้ำตาลทรายมากนัก

 

หากเปรียบเทียบกับบ้านเรา เมนูของหวานที่เวียดนามจะหวานน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด และอาหารแบบดั้งเดิมที่ว่านั้น เราสามารถหากินได้ในเมือง ‘ฮานอย’ แห่งนี้

 

ทริปนี้ LIVE TO LIFE จะชวนไปตะลุยฮานอย เดินเล่นในย่านเมืองเก่า เสาะหาร้านอร่อย ลองชิมขนมบ้าน ๆ แบบหวานพอดี ที่ทำให้รู้ว่าฮานอยเป็นเมืองที่ทัวร์กินสนุกไม่น้อย

 

 

ชมตึกสวย ตามหาร้านอร่อยที่ ‘โอลด์ควอเตอร์’ 

เมืองเก่าอายุ 600 ปีที่อยู่ใจกลางฮานอย

 

โอลด์ควอเตอร์ (Old Quarter) เป็นย่านเมืองเก่าที่มีอายุกว่า 600 ปี และมีตรอกซอกซอยมากถึง 36 ซอย จึงมีอีกชื่อคือ ‘ย่านถนน 36 สาย’ ย่านนี้ตั้งอยู่ทางเหนือของทะเลสาบ ฮหว่านเกี๊ยม (Hoàn Kiếm) หนึ่งในแลนด์มาร์กที่สำคัญของเมือง ที่นี่ถือเป็นใจกลางของฮานอยเลยก็ว่าได้ เพราะมีทั้งคาเฟ่เก๋ ๆ ร้านเด็ด ร้านดัง ทั้งเก่าแก่และร่วมสมัย รวมถึงแกลเลอรี ร้านของสะสม แหล่งช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืนสำหรับกินดื่มยามค่ำคืน เรียกได้ว่าบรรยากาศคึกคัก ผู้คนพลุกพล่านในทุกช่วงเวลา 

 

เนื่องจากเป็นย่านเมืองเก่า อาคารต่าง ๆ มักเป็นสไตล์โคโลเนียล ช่วงกลางวันสามารถเดินชมตึกรามบ้านช่องได้อย่างเพลิดเพลินไปพร้อม ๆ กับสำรวจหาร้านอร่อย LIVE TO LIFE ขอแนะนำริมถนนรถไฟ นอกจากจะถ่ายรูปสวยแล้ว สองข้างทางยังเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านรวงมากมายที่เปิดตั้งแต่เช้ายันดึกอีกด้วย

 

พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ ช่วงเย็นชวนมานั่งปล่อยใจที่สวนสาธารณะริมทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม สถานที่พักผ่อนหย่อนใจอันดับหนึ่งของคนฮานอย เราจะได้เห็นคนฮานอยพากันมาออกกำลังกาย ขับรถเล่น ท่ามกลางทิวทัศน์ทะเลสาบสวยงาม แนะนำสายกินที่แวะมาเดินเล่นห้ามพลาด เพราะละแวกใกล้ ๆ ทะเลสาบมีร้านอร่อยเพียบ !

 

ตกกลางคืน ย่านนี้ดูคึกคักขึ้นถนัดตา โดยเฉพาะที่ ถนนต้าเหียน (Tạ Hiện) และ เบียฮอยคอร์เนอร์ โซนนี้มีสตรีทฟู้ดละลานตา ร้านรวงค้าขายกันคึกครื้น คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย เป็นโซนสำหรับกินดื่มยามค่ำคืน สายดื่มเบียร์ต้องไม่พลาด เพราะที่นี่มีร้านเบียร์เรียงรายทั้งสองฝั่งถนน สมกับเป็นประเทศที่ดื่มเบียร์เยอะเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

ใครที่มาเยือนโอลด์ควอเตอร์แล้วยังไม่รู้จะกินอะไรดี เราขอแนะนำให้รู้จักกับเมนูเด็ดที่มาฮานอยแล้วพลาดไม่ได้ 

 

 

เฝอ (Phở)

เมนูเส้นซิกเนเจอร์ของเวียดนาม

 

เฝอ หรือ ก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม เป็นอาหารขึ้นชื่อของเวียดนาม ในชามมีเส้นเฝอเหนียวนุ่มของฮานอย เส้นจะใหญ่และหนากว่าที่อื่น ด้านบนมักโปะด้วยเนื้อวัวหรือไก่ ราดด้วยน้ำซุปใสรสชาติกลมกล่อม ตุ๋นจากกระดูกวัว อบเชย โป๊ยกั๊ก และเครื่องเทศหลายชนิด เคี่ยวนาน 10 ชั่วโมง โรยหน้าด้วยผักชี ต้นหอม กระเทียมเจียว บีบมะนาว ปรุงรสตามใจชอบ คล้ายก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา 

 

เฝอเกิดขึ้นในยุคล่าอาณานิคม พ่อค้าชาวเวียดนามคิดค้นเมนูที่ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวจากจีนมาปรับให้เข้ากับความนิยมทานเนื้อวัวของชาวฝรั่งเศส กลายมาเป็น ‘เฝอ’ เฉกเช่นทุกวันนี้ แม้เฝอจะไม่มีบันทึกต้นกำเนิดที่แน่ชัด แต่คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าอยากชิมเฝอแบบดั้งเดิมต้องมาที่ฮานอย เพราะที่นี่มีร้านเฝอที่เก่าแก่หลายร้านเลยทีเดียว

 

 

จ๋าก๊า (Chả Cá)

ปลากระทะร้อนขึ้นชื่อของฮานอย 

หอมขมิ้นและสมุนไพร

 

มาฮานอยต้องไม่พลาดปลากระทะร้อน เมนูปลาเนื้อแน่นผัดในกระทะหอมเครื่องสมุนไพร เมนูนี้เป็นเมนูดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดที่ฮานอย นิยมใช้ปลาดุกหรือปลาช่อน นำมาผัดกับต้นหอมและผักชีลาวด้วยไฟแรง ปรุงด้วยซอสสูตรพิเศษหอมขมิ้นและสมุนไพรหลากชนิด เสิร์ฟพร้อมกับขนมจีน พริกชี้ฟ้า ผักชี ถั่วลิสง และ หมั่มโตม (Mắm Tôm) หรือ น้ำจิ้มกะปิแบบเวียดนาม เพิ่มรสชาติออกเค็มกลมกล่อม

 

วิธีกินจ๋าก๊าคือตักปลาวางบนเส้นขนมจีน จากนั้นเติมเครื่องเคียงต่าง ๆ ตามใจชอบ ในหนึ่งคำเราจะได้สัมผัสของเนื้อปลาหอม ๆ ความกรุบกรอบของผัก น้ำจิ้มกะปิ เป็นรสชาติที่ผสมผสานและลืมไม่ลง

 

 

บุ๋นเซียว (Bún riêu)

ขนมจีนซุปมะเขือเทศเนื้อปู

 

ถ้าภาคเหนือของไทยมีขนมจีนน้ำเงี้ยว ฮานอยก็มี ‘บุ๋นเซียว’ เป็นซิกเนเจอร์ ชามนี้เป็นขนมจีนซุปมะเขือเทศรสกลมกล่อม หน้าตาคล้ายน้ำเงี้ยวของทางภาคเหนือ สูตรของฮานอยใช้เนื้อปูบดผสมอยู่ในซุปทำให้เข้มข้น หอมกลิ่นปู และมีรสออกเปรี้ยวเล็กน้อยจากมะเขือเทศ

 

เครื่องในชามบุ๋นเซียวจะแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่นและแต่ละร้าน เลือกใส่ได้ตามใจชอบทั้งปู หมู ไก่ เต้าหู้ แต่สูตรดั้งเดิมของฮานอย จะใส่เนื้อปูบดปั้นเป็นก้อนไปด้วย นอกจากนี้ในชามมักนิยมใส่หมูสับ เลือดหมู เต้าหู้ทอด โรยหน้าด้วยต้นหอม เสิร์ฟคู่กับผักเคียงมากมาย เช่น ถั่วงอก หัวปลีซอย มะนาว อีกทั้งยังปรุงรสได้ตามใจชอบ เป็นอีกเมนูเส้นที่พลาดไม่ได้

 

 

โก๊ม (Cốm)

ข้าวเม่าสีเขียวห่อใบบัว

 

ราว ๆ เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนที่ฮานอยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว และเป็นช่วงที่เราจะได้ชิมเมนูต่าง ๆ ที่ทำจาก ‘ข้าวเม่าสีเขียว’ หรือ ‘โก๊ม’ สิ่งนี้คือเมล็ดข้าวอ่อนที่ยังไม่โตเต็มวัย นำมาคั่วไฟอ่อน ๆ จนกลายเป็นข้าวสีเขียว มีกลิ่นหอมและรสชาติออกหวาน ชาวฮานอยนิยมห่อไว้ด้วยใบบัว เก็บไว้ทานเล่นเปล่า ๆ ก็ได้ หรือจะทานคู่กับมะพร้าวขูด โรยน้ำตาลเล็กน้อย หรือกินคู่กับกล้วยก็เข้ากันดี โก๊มยังนำไปทำเมนูอื่นได้อีกมากมาย เช่น เค้ก ไอศกรีม ขนมปัง เป็นต้น 

 

ใครอยากชิมโก๊มแบบต้นตำรับ เราขอแนะนำให้ไปเยือนหมู่บ้าน Làng Vòng ซึ่งมีเมนูโก๊มให้ชิมมากมายจากสูตรที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน 

 

 

บั๊ญก๊วน (Bánh cuốn)

ขนมปากหม้อแบบเวียดนาม

 

ตอนเช้า ๆ ถ้าได้เดินสำรวจสองข้างทาง แน่นอนว่าจะพบร้านบั๊ญก๊วนอย่างแน่นอน สังเกตไม่ยากจากหม้อทำแผ่นแป้งที่ตั้งเรียงรายอยู่หน้าร้าน บั๊ญก๊วนคล้ายกับปากหม้อญวนบ้านเรา แต่เครื่องเคราจะแตกต่างกัน แผ่นแป้งนึ่งบาง ๆ ใส่ใส้ม้วนพอดีคำ ทำจากหมูสับผัดกับเห็ดหูหนูและต้นหอมปรุงรสกลมกล่อม เรียงใส่จานโรยด้วยหอมเจียว มักเสิร์ฟคู่กับหมูยอนึ่ง แตงกวา นิยมทานผักชีแกล้มด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยคือ เนื้อกเจิ๊ม (nước chấm) น้ำจิ้มที่มีรสออกเปรี้ยว หวาน เผ็ด 

 

 

บุ๋นจ๋า (Bún chả)

ขนมจีนหมูย่างแกล้มผักสด

 

มื้อกลางวันต้อง ‘บุ๋นจ๋า’ อีกเมนูขนมจีนคลาสสิกขึ้นชื่อของฮานอย ในชุดจะเสิร์ฟเส้นขนมจีน หมูหมักย่างถ่านในน้ำซุป  ผักสด และบางแห่งยังเสิร์ฟพร้อมกับปอเปี๊ยะทอดอีกด้วย พระเอกของบุ๋นจ๋าคือหมูย่างเตาถ่าน บางร้านใช้หมูก้อน บางร้านใช้หมูชิ้นใหญ่ นำไปหมักซอสสูตรพิเศษรสชาติออกหวานแล้วย่างเตาถ่านให้ออกมาจนมีสีแบบคาราเมลไลซ์

 

บางร้านราดน้ำซุปลงในชามหมูย่าง ซึ่งในซุปจะมีพริก กระเทียม รสชาติออกเค็มและเปรี้ยวเล็กน้อย วิธีกิน เริ่มจากเส้นขนมจีนจุ่มน้ำซุป ตามด้วยหมูย่างชุ่มฉ่ำ จากนั้นแกล้มด้วยผักสดที่มักจะเสิร์ฟมาพร้อมกัน เช่น ผักกาดหอม ผักชี ผักบุ้งสาย เป็นต้น

 

 

 ก่าเฟจึ๋ง (Cà phê trứng)

กาแฟไข่ต้นตำรับจากฮานอย

 

เวียดนามคือเมืองแห่งกาแฟ คนที่นี่จะดื่มกาแฟกันแทบทั้งวัน เวียดนามจึงมีร้านกาแฟมากมาย ทั้งคาเฟ่สวย และร้านข้างทางที่คนนิยมนั่งดื่มกันบนเก้าอี้เตี้ย ๆ หนึ่งในเมนูกาแฟยอดนิยม คือ ‘กาแฟไข่’ หรือ ‘ก่าเฟจึ๋ง’ เบสของแก้วนี้เป็นอเมริกาโน ส่วนด้านบนท็อปด้วยครีมไข่แดงนุ่มฟู ทำจากไข่แดงดิบตีกับนมข้นหวานและน้ำตาลจนเป็นครีมข้น ทำให้แก้วนี้นุ่มละมุน กลมกล่อม ใครที่ไม่ดื่มกาแฟ เราแนะนำว่าให้ลองโกโก้ไข่ รับรองได้ว่าละมุนไม่แพ้กัน 

 

ต้นกำเนิดของกาแฟไข่มาจากร้าน Café Giảng ในฮานอย ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี 1946 หลังจากคาเฟ่แห่งนี้เสิร์ฟกาแฟไข่ เมนูนี้ก็กลายเป็นที่นิยมอย่างล้นหลาม ทำให้ปัจจุบันเราสามารถพบเจอกาแฟไข่ได้ทั่วไปในเวียดนาม แต่แน่นอนว่าถ้าอยากลิ้มรสแบบต้นตำรับต้องมาฮานอยเท่านั้น  

 

 

แจ่ บ่า หมาว (Chè ba màu)

ลอดช่องสามสี ขนมหวานสไตล์เวียดนาม

 

แจ่บ่าหม่าว คือลอดช่องสามสีที่เสิร์ฟมาในแก้วทรงสูงเผยให้เห็นวัตถุดิบเรียงกันเป็นชั้นสีสันสวยงาม มีทั้งถั่วแดง ถั่วเขียวบด ลอดช่อง โปะน้ำแข็งไสแล้วราดน้ำกะทิเค็มหวานกำลังดี บางร้านเราสามารถเลือกเครื่องต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ คล้ายกับขนมหวานน้ำกะทิบ้านเรา แต่ที่ต่างกันเล็กน้อยคือของหวานของเวียดนามมักจะรสชาติหวานน้อย กลมกล่อมกำลังดีเพราะความหวานจะมาจากเหล่าเครื่องต่าง ๆ ที่อยู่ในแก้ว

 

หลังมื้อเที่ยง มื้อเย็น คงจะดีไม่น้อยถ้าได้แก้วนี้ตบท้าย ร้านขนมหวานสไตล์นี้เรียกว่า แจ่ (Chè) นอกจากลอดช่องสามสีแล้ว มักจะมีเมนูอื่น ๆ ที่มีถั่วเป็นส่วนประกอบด้วย เช่น ส้มโอเชื่อมและถั่วเขียว ถั่วแดงน้ำกะทิ ลอดช่อง ฯลฯ

 

 

เดินทอดน่อง เช็กอินแลนด์มาร์กของฮานอย

ในย่าน ‘หง็อกฮา (Ngọc Hà)’

 

หลังจากทัวร์กินอย่างอิ่มหนำสำราญแล้ว ไม่ไกลจากย่านโอลด์ควอเตอร์มีหมู่บ้าน ‘หง็อกฮา’ เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่เงียบสงบและสวยงาม ตั้งอยู่ติดกับ ทะเลสาบตะวันตก (Hồ Tây) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย หากมาเดินเล่นในย่านนี้เราจะได้ชมตึกรามบ้านช่องแบบโบราณ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่คงยังคงเอกลักษณ์ของเวียดนามในอดีตเอาไว้เกือบสมบูรณ์ อีกทั้งยังได้ชมความงดงามของทะเลสาบที่กว้างสุดลูกหูลูกตา 

 

จากหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ไกลนัก ยังสามารถเดินเท้าไปชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ได้มากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์, ป้อมปราการหลวงทังล็อง, เจดีย์เสาเดียว, จัตุรัสบาดิ่ญ ฯลฯ เป็นย่านที่สามารถเก็บแลนด์มาร์กของฮานอยได้แทบครบทุกจุด เหมาะกับการเดินทอดน่องชมเมือง ถ่ายรูปเช็กอิน จบทริปได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

 

อ้างอิง

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...