

แนะนำ 5 จุดเช็กอิน Unseen New Chapters ทำความรู้จักภาคใต้ในมุมใหม่จากอ่าวไทยถึงอันดามัน
Travel / Thailand
16 Jan 2024 - 10 mins read
Travel / Thailand
SHARE
16 Jan 2024 - 10 mins read
รู้หรือไม่ว่าปีนี้ภาคใต้ของไทยกำลังจะเนื้อหอมสุด ๆ ยิ่งกว่าที่เคย เพราะเพิ่งได้รับการจัดอันดับโดยสื่อท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง Lonely Planet ให้เป็น 1 ใน 10 ภูมิภาคที่น่าเที่ยวที่สุดในโลกประจำปี 2024
Lonely Planet ให้เหตุผลว่า ภาคใต้ของไทยเป็นภูมิภาคที่มีทั้งมัสยิดวิจิตรงดงาม ศาลเจ้าที่มีเสียงสวดมนต์อันไพเราะ และเสียงระฆังกังวานของวัดไทย ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความหลากหลายที่อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนอันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชาวไทย
แต่มากไปกว่านั้น ภาคใต้ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว Unseen อีกหลายแห่งที่รอให้นักเดินทางได้ไปทำความรู้จัก หากใครยังนึกตัวเลือกของหมุดหมายใหม่ ๆ ในการล่องใต้ไม่ออก LIVE TO LIFE ขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยว 5 แห่งตั้งแต่ฝั่งอ่าวไทยจรดอันดามัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Unseen New Chapters : ปักหมุดมุมใหม่ เปิดไทยมุมต่าง ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ในการทำความรู้จักประเทศไทยให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
1.
อุทยานธรรมเขานาในหลวง
อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สัมผัสความสงบร่มเย็นในหัวใจในบรรยากาศของอุทยานลอยฟ้าที่ อุทยานธรรมเขานาในหลวง สำนักสงฆ์ที่สร้างขึ้นด้วยพลังศรัทธาของชาวบ้าน แวดล้อมด้วยธรรมชาติแห่งขุนเขาเขียวขจีแห่งอำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ทั้งงดงามและเงียบสงบ เหมาะแก่การเป็นสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรมและจัดอบรมวิปัสสนากรรมฐานอย่างแท้จริง
ซุ้มประตูพุทธาวดี
จุดกำเนิดของอุทยานธรรมเขานาในหลวงเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2541 โดยพระอาจารย์สมพงศ์ วชิรปัญโญ เป็นผู้ก่อตั้งและได้เข้าร่วมโครงการพุทธอุทยานเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 เมื่อปี พ.ศ. 2552 โดยกรมป่าไม้ได้ให้ใช้พื้นที่ประมาณ 30 ไร่ จากนั้นจึงได้มีการก่อสร้าง ซุ้มประตูพุทธาวดี ขึ้นในปี พ.ศ. 2553 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2555 โดยประตูพุทธวดี หรือซุ้มประตูแห่งกาลเวลา มีลักษณะเป็นซุ้มประตูโบราณแบบ 9 ยอด ที่จะงดงามเป็นพิเศษในตอนเช้า เมื่อแสงแดดค่อย ๆ ตกกระทบมาบนซุ้มประตู
ภาพ : unseennewchapters.com
หลังจากนั้น ได้มีการก่อสร้างเจดีย์องค์แรกขึ้น ได้แก่ เจดีย์ร้อยยอดพระธาตุพันองค์ ซึ่งเป็นศิลปะประยุกต์โดยบนยอดเจดีย์องค์ใหญ่จะประกอบด้วยยอดเจดีย์องค์เล็ก ๆ รวม 100 ยอด และทั้ง 100 ยอดเป็นสถานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ยอดละ 10 องค์ จึงเป็นที่มาของชื่อเจดีย์ร้อยยอดพระธาตุพันองค์ โดยปัจจุบันยังไม่เปิดให้ประชาชนเดินขึ้นไปสักการะ
เจดีย์องค์ที่สอง ได้แก่ พุทธศิลาวดี ตั้งอยู่บนยอดหินปูนสูงราว 300 เมตร ก่อสร้างด้วยศิลาแลงจากเมืองกำแพงเพชร บนพระเจดีย์มีพระพุทธรูป 4 ทิศ และมีสระน้ำบริเวณหน้าพระเจดีย์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปสักการะเจดีย์พุทธศิลาวดีได้ และยังสามารถเดินต่อไปยังเจดีย์องค์ที่ 3 ที่มีชื่อว่า เจดีย์พุทธราชาวดี ได้ โดยเจดีย์องค์นี้มีลักษณะเป็นทรงพม่าประยุกต์ ประกอบด้วยเจดีย์ทั้งหมด 5 องค์ เป็นเจดีย์ประธานหนึ่งองค์ และมีเจดีย์รายรอบอีก 4 องค์ สร้างขึ้นเพื่อน้อมถวายในหลวงรัชกาลที่ 9
ภาพ : unseennewchapters.com
เจดีย์องค์ที่ 4 มีชื่อว่า พุทธนครกลางหาว โดยมีรอยพระพุทธบาทอยู่ใจกลางเจดีย์ และมีเจดีย์องค์เล็ก ๆ รายรอบอีกประมาณ 40-50 องค์ ส่วนเจดีย์องค์ที่ 5 มีชื่อว่า พุทธสหัสสวดี หรือพุทธพันองค์ มีลักษณะเป็นเจดีย์สีขาวทรงประยุกต์โบราณ ภายในก่อด้วยอิฐโบราณที่นำมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีเจดีย์องค์เล็กอยู่ใจกลาง รอบนอกเจดีย์มีพระพุทธรูปเรียงรายอยู่จำนวน 1,000 องค์ จากเจดีย์องค์นี้สามารถมองเห็นยอดเจดีย์ 4 องค์เรียงรายได้อย่างชัดเจน และสามารถชมทิวทัศน์สวยงามของอำเภอพนมได้รอบทิศทาง
จากเจดีย์องค์นี้สามารถเดินเชื่อมไปยังเจดีย์ที่ 6 มีชื่อว่า พุทธธาราวดี ซึ่งมีหลวงพ่ออุปคุตประดิษฐานอยู่ใจกลางเจดีย์ องค์เจดีย์เป็นทรงโบราณประยุกต์สร้างด้วยอิฐมอญเก่าที่นำมาจากพระนครศรีอยุธยา ด้านนอกมีหอระฆัง โดยเจดีย์องค์นี้ถือเป็นเจดีย์องค์ที่อยู่สูงที่สุดในอุทยานธรรมเขานาในหลวง
อุทยานธรรมเขานาในหลวง
ที่ตั้ง: หมู่ 8 ตำบลต้นยวน อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ASZ9s4mSnNPtvLYF7
การเดินทาง: ใช้ทางถนนทางหลวงหมายเลข 401 สุราษฎร์ธานี – ตะกั่วป่า ประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงบริเวณสามแยกไฟแดงตรงกิโลเมตรที่ 61 เลี้ยวซ้ายไปตามถนนหมายเลข 4246 ประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อเข้าสู่อุทยานธรรมเขานาในหลวง
เปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 08:00 - 17:30 น.
โทร : 098 057 3800
สะพานแขวนภูเขารูปหัวใจระหว่างทางไปเขื่อนเชี่ยวหลาน
เดินขึ้นไปเยือนอุทยานธรรมเขานาในหลวงกันแล้ว ไม่ควรพลาดกิจกรรมผจญภัยในสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ กันอย่าง อุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่อำเภอพนม อำเภอบ้านตาขุน และอำเภอคีรีรัฐนิยม ที่อุดมไปด้วยกิจกรรมให้ทำมากมาย เพราะมีทั้งน้ำและเขาในที่เดียว
ล่องเรือชมความงามของเขื่อนเชี่ยวหลาน
ใครชอบพายเรือคายัค ล่องเรือชมทะเลสาบ แนะนำให้ขับรถมุ่งตรงไปยังเขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ได้เลย การล่องเรือลัดเลาะไปตามคลองแสงและคลองศก พร้อมกับไปชม เขาสามเกลอ ที่รับการขนานนามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย ที่ควรค่าแก่การบันทึกภาพเก็บไว้อย่างยิ่ง
กุ้ยหลินเมืองไทย (บน) และบัวผุดแห่งเขาสก (ล่าง)
ส่วนใครที่ชอบเดินป่าเดินเขา รับรองต้องถูกใจเส้นทางศึกษาธรรมชาติใน เขาสก ที่อุดมด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าตามธรรมชาตินานาชนิด โดยเฉพาะไฮไลท์ประจำเขาสกอย่าง บัวผุด ดอกไม้สีแดงคล้ำขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่สามารถพบได้ในผืนป่าเขาสกแห่งนี้ที่เดียว
อุทยานแห่งชาติเขาสก สุราษฎร์ธานี
ที่ตั้ง : 62 ตำบลคลองศก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/Hs8BfWi3hoMAo7xVA
เปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 08:00 - 17:30 น.
โทร : 077 395 139
เว็บไซต์ : www.facebook.com/Khaosok.NP.Surat/
2.
หมู่เกาะกำ
อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง
ย้อนเวลาได้ง่าย ๆ แบบทันใจ เพียงล่องเรือเดินทางไปที่ หมู่เกาะหลงยุค หรือ หมู่เกาะกำ ในเขตอุทยานแห่งชาติแหลมสน จังหวัดระนอง ด้วยความเงียบสงบของบรรยากาศบนเกาะกลางทะเลที่ชาวบ้านยังใช้ชีวิตด้วยวิถีแบบดั้งเดิม ทำให้รู้สึกราวกับได้หลุดเข้าไปสู่อีกมิติที่ทุกอย่างรอบตัวยังไม่หมุนไปตามกาลเวลา
เกาะกำตก หรืออ่าวเขาควาย
ภาพ : unseennewchapters.com
หมู่เกาะกำ ประกอบด้วย เกาะกำตก (หรืออ่าวเขาควาย) เกาะค้างคาว และเกาะญี่ปุ่น โดย เกาะกำตก มีเอกลักษณ์ของเกาะที่โค้งมาติดกันเป็นรูปวงกลมตามแนวเหนือ-ใต้ มองแล้วคล้ายเขาควายสมชื่อ โดยเฉพาะชายหาดมีเนื้อทรายขาวเนียนละเอียดราวกับแป้งเด็กตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใสปนเขียวมรกต ยิ่งทำให้ภาพของโค้งอ่าวบนเกาะกำตกงดงามเป็นพิเศษ ทั้งยังเป็นเวิ้งอ่าวที่ปลอดภัย สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างเพลิดเพลินใจ
เกาะค้างคาว
สมาชิกในหมู่เกาะกำลำดับถัดมา ได้แก่ เกาะค้างคาว ซึ่งได้ชื่อนี้มาเพราะในอดีตเคยเป็นแหล่งอาศัยของค้างคาวแม่ไก่หลายพันตัว ส่วนปัจจุบันเป็นสถานที่เช็กอินของนักท่องเที่ยวผู้รักหาดทรายขาว น้ำทะเลสีฟ้าใสที่ชอบดำน้ำชมปะการัง สามารถดำผุดดำว่ายดูปะการังได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึกได้ตามชอบใจ
เกาะญี่ปุ่น
เกาะญี่ปุ่น เป็นอีกเกาะที่ไม่เพียงแต่งดงามด้วยแนวชายหาดทรายขาวละเอียดตัดกับสีฟ้าครามสวยของทะเลอันดามัน แต่ยังมีประวัติที่น่าสนใจอันเป็นที่มาของชื่อเกาะ นั่นคือ ครั้งหนึ่งเคยมีชาวญี่ปุ่นเลี้ยงหอยมุกที่นี่ และบ้างก็ว่าที่นี่เคยเป็นที่ประกอบอาหารส่งเสบียงให้แก่ทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
หมู่เกาะกำเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปสัมผัสความงามของธรรมชาติได้ระหว่างวันที่ 16 ตุลาคมถึง 15 พฤษภาคมของทุกปี สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน
โทร : 077 861 431
เวลาทำการ : 08:00 - 16:30 น. (กรุณาติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน)
รถสองแถวไม้ พาหนะคู่เมืองระนอง (บน) น้ำตกหงาว บ้านของปูเจ้าฟ้า (ล่าง)
ใครที่พักผ่อนในหมู่เกาะหลงยุคแล้วยังไม่หนำใจ สามารถเดินทางท่องเที่ยวในตัวเมืองกันต่อได้ เพราะจังหวัดระนองมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้เยี่ยมชม โดยสามารถออกแบบทริปได้หลากหลาย ใครมีเวลาน้อยจะเดินทางแบบ One Day Trip ก็สามารถทำได้ และเพื่อให้เข้าถึงอารมณ์การเดินทางแบบระนองที่แท้จริง สามารถเช่ารถสองแถวไม้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งของดีคู่เมืองระนองไว้เป็นพาหนะในการเดินทางท่องเที่ยวได้
ภูเขาหญ้า
สำหรับคนรักธรรมชาติห้ามพลาดการไปเยือน น้ำตกหงาว บ้านของ ปูเจ้าฟ้า ปูชนิดใหม่ของโลกที่มีลำตัวสีขาว ก้ามเป็นสีดำ ที่มีชื่อเรียกน่ารัก ๆ ในภาษาอังกฤษว่า Panda Crab ก่อนจะไปต่อกันที่ ภูเขาหญ้า หรือ เขาหัวล้าน พิกัดที่ถ่ายรูปได้สวยไม่ซ้ำกันในแต่ละฤดู โดยในหน้าฝนภูเขาหญ้าจะเขียวขจีสดสวยไปทั้งผืน หรือในหน้าแล้งที่หญ้ากลายเป็นสีน้ำตาลไปหมดทั้งผืนก็งดงามไปอีกแบบ ความพิเศษของภูเขาหญ้าคือเป็นภูเขาหัวโล้นตามธรรมชาติที่มีแนวต้นหญ้าขึ้นเสมอกันราวกับมีใครบางคนจงใจปลูกเอาไว้ เพื่อให้ใครอีกหลาย ๆ คนได้เพลิดเพลินใจกับการได้ท่องเที่ยวและเก็บภาพสวย ๆ ในทุกฤดูกาล
3.
รอยพระพุทธบาทในทะเล สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร
อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
เมื่อเอ่ยชื่อ เกาะแก้วพิสดาร เชื่อว่าคนไทยส่วนมากรู้จักกันดี เพราะคุ้นหูจากวรรณคดีเรื่อง พระอภัยมณี และคิดไปว่าเกาะแก้วพิสดารเป็นเพียงแค่เรื่องแต่ง หรือหากมีอยู่จริงก็คงอยู่ในจังหวัดระยองที่เชื่อว่าเป็นบ้านเกิดของบิดาของกวีเอกผู้เป็นตำนานของไทย สุนทรภู่
ทั้งที่ความจริงแล้วเกาะแก้วพิสดารเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันในเขตจังหวัดภูเก็ต โดยเหตุผลที่เกาะแก้วพิสดารไปปรากฏเป็นฉากสำคัญในพระอภัยมณี เพราะมีบางหลักฐานอ้างว่าสุนทรภู่เคยเดินทางมาเยือนเกาะภูเก็จ (สะกดแบบดั้งเดิม) และได้แรงบันดาลใจจากสภาพแวดล้อมและบรรยาศของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแถบนี้ไปประพันธ์เป็นวรรณกรรมคลาสสิกของไทยนั่นเอง
รอยพระพุทธบาทในทะเล สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร
ภาพ : unseennewchapters.com
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว ได้แก่ รอยพระพุทธบาทในทะเล แห่งสำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร ที่ได้รับการเคารพนับถือในฐานะรอยพระพุทธบาทรอยที่ 5 หรือ นัมมทานที ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 รอยพระพุทธบาทที่ได้รับความศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลก โดยกล่าวกันว่ารอยพระพุทธบาททั้งห้านั้นปรากฏอยู่ที่สุวรรณมาลิก ประเทศศรีลังกา สุวรรณบรรพต จังหวัดสระบุรี สุมนกูฏ ประเทศศรีลังกา โยนกปุระ จังหวัดเชียงใหม่ และนัมนานที ที่เชื่อกันว่า คือ เกาะแก้วพิสดาร จังหวัดภูเก็ต แห่งนี้ โดยรอยพระพุทธบาทกลางทะเลประทับบนโขดหินในบริเวณสำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดารจะปรากฏให้เห็นในช่วงเวลาที่น้ำลด
เรื่องราวของรอยพระพุทธบาทในทะเลปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกใน นิราศธารถลาง ประพันธ์โดยนายมี หรือเสมียนมี หรือหมื่นพรหมสมพัตสร ศิษย์เอกของสุนทรภู่ เนื้อหาในนิราศธารถลางเป็นบันทึกการเดินทางไปเยือนเมืองถลาง หรือเกาะ “ภูเก็จ” ที่ได้มีการเอ่ยถึงสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นที่รู้จักกันมาเนิ่นนาน เพียงแต่ไม่ได้รับการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ได้แก่ รอยพระพุทธบาทบนเกาะแก้วพิสดาร ตำบลราไวย์ ใกล้กับแหลมพรหมเทพ แห่งนี้นั่นเอง
สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร
ภาพ : unseennewchapters.com
เนื้อหาจากนิราศของนายมี บรรยายถึงความยากลำบากในการไปเยือนรอยพระพุทธบาทในครั้งนั้นเอาไว้ว่า “เขาว่ามีรอยพระบาทที่หาดกว้าง/แต่หนทางที่จะไปไกลหนักหนา/พี่อยากไหว้รอยพระบาทพระศาสดา/ก็ชักชวนกันมาเหมือนใจจง" คณะของนายมีจึงต้องดั้นด้นเดินทางบุกป่าฝ่าดงไปยังเมืองถลาง หาทางข้ามเรือไปยังเกาะที่ดูรกร้าง เพียงเพื่อจะสักการะรอยพระพุทธบาทที่ "ไม่รู้ว่าใครสร้างไว้"
ทั้งนี้ มีข้อสันนิษฐานว่า นายมีน่าจะเคยเดินทางมายังเกาะถลางกับสุนทรภู่ก่อนหน้านี้ เพราะกวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ใช้ฉากทะเลอันดามันในเรื่องพระอภัยมณี และชื่อของเกาะแก้วพิสดารที่ภูเก็จก็เข้าเค้าชื่อเกาะเดียวกันในวรรณคดีเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีมุขปาฐะของชาวไทยในเมืองตะนาวศรีของพม่า ระบุว่า สุนทรภู่เคยเดินทางมาเยือนตะนาวศรี ซึ่งก็คือ ชายฝั่งทะเลอันดามัน อีกด้วย
สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร
ภาพ : unseennewchapters.com
หลังจากยุคของนายมีแล้ว เรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธบาทเมืองถลางได้เลือนหายไป มาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างเมื่อล่วงเข้าสู่พุทธศักราช 2500 เมื่อครั้งที่พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์’ เดินทางไปเยือนรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ พร้อมกับยืนยันว่า รอยพระพุทธบาทที่นี่เป็นของจริง และได้ระดมสาธุชนในพื้นที่ร่วมกันสร้างมณฑปครอบรอยพระบาทแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2498 เพื่อจะได้ระบุตำแหน่งที่ชัดเจน
จุดชมวิวผาหินดำที่สามารถมองเห็นเกาะแก้วพิสดารและเมืองภูเก็ตจากมุมสูงได้กว้างไกลตา
มีเรื่องเล่าขานกันว่า ระหว่างที่พ่อท่านคล้ายกำลังสร้างมณฑปอยู่นั้น นายช่างผู้ทำการก่อสร้างพยายามเจาะหิน ณ ที่ดังกล่าว แต่เจาะไม่เข้า เพราะเป็นหินกากเพชรซึ่งแข็งมาก จึงนมัสการหลวงพ่อว่าไม่สามารถเจาะหินได้ หลวงพ่อคล้ายจึงนำน้ำหมากจากปากเขียนวงกลมที่ก้อนหินดังกล่าว แล้วให้นายช่างเจาะใหม่อีกครั้ง ปรากฎว่าสามารถเจาะหินได้สำเร็จ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่มณฑปหลังดังกล่าวได้พังลงเมื่อปี พ.ศ. 2532 สันนิษฐานว่าเป็นเพราะคลื่นลมรุนแรงของพายุไต้ฝุ่นเกย์
สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร
ที่ตั้ง : ห่างจากแหลมพรหมเทพ ประมาณ 3 กิโลเมตร
การเดินทาง : ขึ้นเรือหางยาวที่บริเวณท่าเรือหาดราไวย์ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5-10 นาที
พระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทยบารมีประกาศ (บน) รูปหล่อหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง (ล่าง)
นอกจากรอยพระพุทธบาทในทะเลแล้ว เมืองภูเก็ตยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่แนะนำให้ไปสักการะ ได้แก่ วัดไชยธาราม หรือ วัดฉลอง อันเป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทยบารมีประกาศ ซึ่งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากศรีลังกา และรูปเคารพของหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง หรือ พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุณี พระเกจิชื่อดังที่ชาวภูเก็ตให้ความเคารพนับถือในเรื่องของการรักษาโรคและเมตตาธรรม หลวงพ่อแช่มคงแก่เรียนด้านศาสตร์วิชาการปรุงยาสมุนไพรและรักษาโรค โดยเฉพาะการเข้าเฝือกผู้ป่วยกระดูกหัก มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า เมื่อครั้งที่หลวงพ่อแช่มยังมีชีวิตอยู่นั้น ชาวบ้านพากันมารอปิดทองตามแขนและขาของท่านมากมายราวกับปิดทองพระพุทธรูปเลยทีเดียว
วัดไชยธาราม
ที่ตั้ง : 70 หมู่ 6 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/MZ2bRjqyXggUMt1n9
เปิดทำการ : เวลา 08.00-17.00 น.
โทร : 076 381 226
วัดพระใหญ่ หรือ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี
อีกแห่งได้แก่ วัดพระใหญ่ หรือ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี ตั้งอยู่บนยอดเขานาคเกิด ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์สีขาว สร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยหินอ่อนสีขาวหยกพม่า ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากเงินบริจาคจองประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยเมื่อขึ้นไปสักการะองค์พระใหญ่บนยอดเขาจะสามารถมองวิวจากบริเวณฐานพระจะสามารถเห็นรอบภูเก็ตไปจนถึงเกาะต่าง ๆ ทั้งหาดกะตะ หาดกะรน อ่าวฉลอง ฯลฯ
วัดพระใหญ่
ที่ตั้ง : 22 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
พิกัด : https://goo.gl/maps/cdwoiffAHk6ytcaF6
เปิดทำการ : เวลา 06.30-18.30 น.
โทร : 086 328 0369, 076 373 138-9
เว็บไซต์ : www.mingmongkolphuket.com/
ขนมเต้าส้อ
ไปภูเก็ตทั้งที ห้ามพลาดการชิมและช้อปขนมเต้าส้อเป็นของฝากคนทางบ้าน เพราะเต้าส้อเป็นขนมมงคลของชาวไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนที่นิยมทำรับประทานกันเองจนได้รับความนิยมในฐานะของฝากจากเมืองภูเก็ต ขนมเต้าส้อแบบดั้งเดิมมี 2 ไส้ คือ ไส้หวานทำจากถั่วกวน และไส้เค็มที่มีส่วนผสมของไข่แดงเค็ม ด้วยตัวแป้งที่บางกรอบเข้ากันกับเนื้อในไส้นุ่มทำให้เต้าส้อจับคู่กับเครื่องดื่มชนิดไหนก็อร่อย เหมาะซื้อหาเป็นของฝากชั้นดีประจำทริปภูเก็ต
4.
หินพับผ้า
อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช
ตื่นตาตื่นใจไปกับความงามแบบเฉพาะตัวอันเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่พบได้ไม่กี่แห่งบนโลก อย่าง หินพับผ้า ผาหินรูปร่างแปลกตาที่ปรากฏอยู่ในเกาะหลายแห่งกลางทะเลขนอม โดยมีลักษณะเป็นแผ่นหินซ้อนเรียงกันเป็นชั้น ๆ ที่ชาวต่างชาติเรียกขานในชื่อ Pancake Rock
การเดินทางไปชมหินพับผ้าสามารถเช่าเรือจากชุมชนแหลมประทับ โดยใช้เวลาเพียง 15 นาทีจะเริ่มเห็นภูเขาหินกลางทะเลที่หลายแห่งมีลักษณะของหินที่พับซ้อนกันหลายชั้น ดูสวยงามแปลกตา พิกัดที่แน่นอนของหินพับผ้านั้นจะอยู่ที่เกาะท่าไร่ เกาะนุ้ยนอก เขาหลักซอ และชายฝั่งอ่าวเตล็ดในเขตทะเลขนอม
หินผับผ้าแห่งทะเลขนอม
ภาพ : unseennewchapters.com
อีกหนึ่งพิกัดไฮไลท์ที่ชาวเรือต้องจอดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปเยี่ยมชมหินพับผ้าอย่างใกล้ชิด คือ เวทีพุ่มพวง ซึ่งเป็นแผ่นหินแยกจากกันจนเกิดเป็นช่องว่างที่สามารถขึ้นไปยืนได้ คล้ายเวทีร้องเพลง ชาวบ้านในยุคนั้นจึงเรียกขานกันว่า เวทีพุ่มพวง นักร้องลูกทุ่งชื่อดังขวัญใจคนไทยทุกภาค
นอกจากเวทีพุ่มพวงแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินหามุมถ่ายภาพสวย ๆ ได้ตามอัธยาศัย โดยหินผาในแถบนี้มีลักษณะเป็นซอก ตรอก อุโมงค์ และถ้ำน้อยใหญ่แปลกตาให้เลือกบันทึกภาพความงามได้ไม่ซ้ำกัน
จุดถ่ายภาพสวย ๆ บริเวณหินพับผ้า
ภาพ : unseennewchapters.com
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมหินพับผ้าได้ตลอดทั้งปี (ขึ้นอยู่กับคลื่นลมทะเล) ช่วงเวลาที่แนะนำ คือ ระหว่างเดือนมกราคมไปจนถึงเมษายน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่วิสาหกิจชุมชนแหลมประทับ โทร 087 282 7761 และ 092 673 6006
ถนนเลียบชายทะเลสิชล-ขนอม
นอกจากการล่องเรือชมความงามแปลกตาของหินพับผ้าแล้ว บริเวณถนนเลียบชายทะเลสิชล-ขนอม หรือถนนเขาพลายดำ ถือเป็นอีกหนึ่งมุมเช็กอินถ่ายรูปยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเก็บภาพความประทับใจกัน บันทึกความงามของท้องถนนที่มองดูคล้ายเกลียวคลื่นทอดยาวขนาดไปกับท้องทะเล
วิถีชีวิตชุมชนประมงชายฝั่งขนอม
ที่สำคัญไปกว่านั้น คือ ชายฝั่งทะเลขนอมที่มีความยาวกว่า 10 กิโลเมตรนั้นอุดมไปด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำที่สมบูรณ์และเต็มไปด้วยความหลากหลาย เพราะชุมชนประมงชายฝั่งขนอมมีวิธีการทำประมงชายฝั่งด้วยการใช้อวนล้อมจับปลาริมชายหาดที่เรียกกันว่า ชักเฮ่ ที่เพื่อนบ้านและคนในชุมชนจะมาช่วยกันชักเฮ่ (เฮ่ใช้ทั้งเรียกอวนขนาดใหญ่ และเป็นการเปล่งเสียง เฮ่ๆๆ ของชาวบ้านขณะช่วยกันชักอวน) โดยการชักเฮ่แค่ครั้งเดียวก็ได้ปลามากพอจะแบ่งปันกันทั่วหน้า หากมีโอกาสและเวลา ลองเยี่ยมชมวิถีประมงพื้นบ้านที่มีส่วนในการอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลขนอมให้อุดมสมบูรณ์มาจนถึงทุกวันนี้
มังคุดคัด
และนอกจากจะรับประทานกุ้ง หอย ปู ปลา สด ๆ จากทะเลแล้ว อีกหนึ่งของดีห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเมืองคอน คือ การชิม มังคุดคัด มังคุดเสียบไม้เนื้อกรอบ หอมหวาน ทานได้สะดวกโดยไม่ต้องคายเม็ด ยิ่งแช่เย็น ยิ่งชื่นใจ
5.
เกาะตะรุเตา
อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
ชื่อของ เกาะตะรุเตา ที่มีตำนานสุดแฟนตาซี ไม่ว่าจะเป็นโจรสลัด ขุมสมบัติในถ้ำลับ สัตว์ร้าย ต้นไม้มีพิษ ฯลฯ ซึ่งเชื่อกันว่ามีเค้าโครงจากสถานที่จริงของสภาพแวดล้อมบนเกาะแห่งนี้ที่เป็นเกาะขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยภูมิประเทศที่หลากหลายและยังคงความบริสุทธิ์อยู่มาก บนเกาะตะรุเตาจึงเต็มไปด้วยพืชพรรณแปลก ๆ สัตว์หายาก รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจในฐานะอดีตสถานกักกันตัวนักโทษ อันเป็นที่มาของตำนานโจรสลัดแห่งเกาะตะรุเตานั่นเอง
เกาะตะรุเตา
ภาพ : unseennewchapters.com
ทั้งนี้ เกาะตะรุเตา เป็น 1 ใน 51 เกาะน้อยใหญ่ที่รวมกันเรียกว่า อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทย โดยคำว่า ตะรุเตา เพี้ยนมาจากคำว่า เตอลุกตาวาร์ ในภาษามลายู ซึ่งแปลว่า อ่าวน้ำจืด เพราะเกาะตะรุเตาเป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในบริเวณนี้ที่มีธารน้ำจืด
เกาะตะรุเตา
ภาพ : unseennewchapters.com
ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่มีทั้งทะเล ภูเขา ป่าดงดิบ ป่าชายหาด ป่าพรุ ป่าชายเลน ฯลฯ อีกทั้งใต้ทะเลยังมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์ทะเลหลากชนิด อาทิ โลมา เต่าทะเลหลากสายพันธุ์ ปลากระเบน ปลาการ์ตูน ปลาโนรี ปลาสิงโต ฯลฯ อุทยานแห่งชาติตะรุเตาจึงได้รับการประกาศจากสมาชิกอาเซียนให้เป็น อุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Parks and Reserves) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา
สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายบนเกาะตะรุเตา
ภาพ : unseennewchapters.com
สำหรับ เกาะตะรุเตา นั้นถือเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุทยานฯ เดิมเคยเป็นสถานที่คุมขังนักโทษ โดยในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา (พ.ศ. 2484 - 2488) เกาะตะรุเตาถูกตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่ เกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร ยา และเครื่องใช้ต่าง ๆ ผู้คุมนักโทษจึงประพฤติตนเป็นโจรสลัดออกปล้นเรือบรรทุกสินค้าที่แล่นผ่านในบริเวณนั้น จนเป็นต้นแบบในการนำไปแต่งเป็นเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับการผจญภัยของโจรสลัดตะรุเตา
ป่าดงดิบบนเกาะตะรุเตา
ปัจจุบัน เกาะโจรสลัดเปลี่ยนสถานะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับพระเอกประจำจังหวัดสตูล เพราะมีทรัพยากรธรรมชาติหลากหลาย รวมถึงอ่าวน้อยใหญ่ให้พักผ่อนหย่อนใจชมความงามของธรรมชาติ เช่น อ่าวพันเตมะละกา ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดบนเกาะตะรุเตา หรือถ้าสนใจชมเส้นทางประวัติศาสตร์คุกตะรุเตาก็ต้องไม่พลาดการเช็กอินที่ อ่าวตะโละวาว
และหากอยากชมทิวทัศน์ของหมู่เกาะต่าง ๆ ทั้งเกาะบุโหลน เกาะไข่ เกาะอาดัง เกาะราวี ฯลฯ ต้องอาศัยแรงขาในการเดินขึ้นไปยัง ผาโต๊ะบู เพื่อชมวิวมุมสูงของผืนทะเลอันดามันที่จะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
ซุ้มประตูหินบนเกาะไข่
นอกจากเกาะตะรุเตาแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะได้แวะเยี่ยมชมธรรมชาติในเกาะต่าง ๆ โดยรอบ อาทิ เกาะไข่ เกาะขนาดเล็กที่อยู่ระหว่างเกาะตะรุเตาและเกาะอาดัง มักเป็นจุดแวะพักของบริษัทนำเที่ยวก่อนเดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะ บนเกาะไข่มีซุ้มประตูหินที่เป็นเอกลักษณ์ให้ทุกคนอดใจไม่ไหวที่จะเก็บภาพความประทับใจ
เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะ เป็นอีกหนึ่งเกาะขวัญใจคนรักทะเล เพราะมีหาดทรายขาวละเอียดตัดกับสีฟ้าใสของน้ำทะเลที่สามารถทำกิจกรรมทางน้ำได้หลากหลายอย่างเพลิดเพลินจนลืมเวลา ส่วน เกาะหินงาม ก็เป็นอีกเกาะที่ควรแวะไปสัมผัสความพิเศษของเกาะขนาดเล็กที่บนหาดเต็มไปด้วยหินสีดำหลากลวดลายหลายขนาด ยิ่งเมื่อถูกน้ำทะเลซัดสาดจะยิ่งเป็นเลื่อมมันวาวงดงาม
เกาะหินงาม
อุทยานแห่งชาติตะรุเตายังเต็มไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยอีกมากมายที่รอให้นักเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์แห่งท้องทะเลอันดามันด้วยตัวเอง โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคม
อุทยานแห่งชาติตะรุเตา
ที่อยู่ : ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
พิกัด : https://goo.gl/maps/EBrmqxBHwAystM1q8
เปิดทำการ : สามารถสอบถามได้จากบริษัทเรือนำเที่ยว
โทร : 074 783 485
เว็บไซต์ : facebook.com/TarutaoNationalParkSatun/
อ้างอิง
- www.unseennewchapters.com
- Muse Photographer.“เกิดมาชาติหนึ่ง ไปให้ถึงรอยพระพุทธบาทที่ชายหาดนัมมทานที ที่ภูเก็ต” ณ เกาะแก้วพิสดาร จ.ภูเก็ต.https://bit.ly/4aOO64M
- คลังพุทธศาสนา.นิราศธารถลางกับรอยพระพุทธบาทแห่งนัมนานที.https://bit.ly/3S74whx
- เอิงเอย.วัดไชยธาราราม วัดฉลอง ภูเก็ต วัดดัง ศักดิ์สิทธิ์ ขอพร หลวงพ่อแช่ม อิ่มบุญ อิ่มใจ.https://bit.ly/4aHos1T
- Nukkpidet.ไหว้ขอพร พระใหญ่ ภูเก็ต พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี องค์ใหญ่สีขาว บนยอดเขา.https://bit.ly/4aKMb10
- ผู้จัดการออนไลน์.วิจิตรแห่งศรัทธา “อุทยานธรรมเขานาในหลวง” Unseen New Chapters สุราษฎร์ธานี.https://bit.ly/48LBfOM
- SummerB.อุทยานแห่งชาติเขาสก ที่เที่ยวสุราษฎร์ธานี ลุยป่า ล่องแพ วิวสวยหลักล้าน.https://bit.ly/3Sb6Wvm
- Ranongcities.ภูเขาหญ้า.https://bit.ly/4aHcDbX
- Wikipedia.เกาะตะรุเตา.https://bit.ly/4aLTCFe
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.รวมพิกัดแหล่งท่องเที่ยวในอึทยานแห่งชาติตะรุเตา.https://bit.ly/47qL5EI