

เที่ยวพักผ่อนให้ธรรมชาติบำบัด กับ 5 เส้นทางขับรถชมวิวสวยทั่วเมืองไทย
Travel / Thailand
05 Apr 2023 - 10 mins read
Travel / Thailand
SHARE
05 Apr 2023 - 10 mins read
เข้าสู่หน้าร้อนในเดือนเมษายนทีไร เชื่อว่าทะเลมักจะเป็นจุดหมายปลายทางอันดับแรกสุดของใครหลายคน เพราะหน้าร้อนกับทะเลเป็นของคู่กันเสมอ หากได้ลงเล่นน้ำทะเลเมื่อไหร่ ก็เท่ากับว่าได้เติมความสดชื่นให้ร่างกายกลับมาสดใสเมื่อนั้น
แต่สำหรับคนที่ชอบภูเขาหรือที่เที่ยวอื่น ๆ แล้วยังตัดสินใจเลือกไม่ได้ว่า ตลอดหน้าร้อนนี้จะไปเที่ยวที่ไหนดี LIVE TO LIVE ขอแนะนำให้รู้จักกับเส้นทางขับรถชมวิวสวยจากทุกภาคทั่วไทยที่เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ
นอกจากจะได้เห็นและสัมผัสกับวิวที่อยู่รายล้อมในทุกเส้นทางอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังถือเป็นการขับรถเที่ยวแบบปล่อยใจ ได้พาตัวเองไปให้ธรรมชาติบำบัดถึงที่ ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอย่างเนิบช้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องรีบเร่งขับรถไปให้ถึงที่ใดที่หนึ่ง เพราะความสวยงามและประสบการณ์น่าตื่นเต้น มีให้เห็นอยู่ตลอดสองข้างทาง รับรองว่าทุกเส้นทางขับรถเที่ยว จะเป็นทริปรับหน้าร้อนที่น่าประทับใจไม่แพ้ทะเลไหน ๆ
ภาคเหนือ : ถนนเลาะเขาหินปูนที่บ้านมุง เนินมะปราง
‘บ้านมุง’ เป็นทั้งชื่อตำบลในอำเภอเนินมะปราง อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดพิษณุโลกประมาณ 68 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาขับรถเพียง 1 ชั่วโมง และเป็นชื่อของหมู่บ้านขนาดเล็กอันเงียบสงบ เพราะถูกโอบล้อมด้วยเขาหินปูนสลับซับซ้อนอายุมากกว่า 360 ล้านปี ราวกับว่าเป็นความตั้งใจของธรรมชาติที่อยากให้ขุนเขายิ่งใหญ่แห่งนี้ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์เด่นรอต้อนรับทุกคนที่มาเยือนบ้านมุง
เมื่อขับรถมาถึง จะมีถนนเส้นเล็กให้ลัดเลาะรอบเขาหินปูนให้เดินทางท่องเที่ยวได้ ตลอดเส้นทางจึงมีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร จุดชมวิว บ้านพักของชาวบ้าน และโฮมสเตย์สำหรับพักค้างคืนอยู่รวมกัน
โดยเฉพาะจุดชมวิวที่บ้านมุง นอกจากทุ่งทานตะวัน สวนดอกไม้ ไร่ข้าวโพด และนาข้าว ซึ่งเปิดให้เดินชมและถ่ายรูปได้ ยังมีจุดชมวิวที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ คือ จุดชมค้างคาว บ้านมุงเหนือ ช่วงตะวันคล้อยใกล้ตกดินในตอนเย็นจนท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มแปลกตา เป็นเวลาที่ฝูงค้างคาวนับล้านตัวจะโบยบินออกจากถ้ำบนเขาหินปูนไปหากิน ก่อนจะกลับเข้าถ้ำอีกครั้งตอนใกล้รุ่ง จึงเป็นภาพที่หาชมได้เฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น ส่วนหน้าฝนและหน้าหนาว ค้างคาวจะพากันบินไปเส้นทางอื่นแทน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากพักจากการขับรถ สามารถนั่งรถอีแต๋นของชาวบ้าน ให้เจ้าของถิ่นเป็นคนพาเที่ยวชมธรรมชาติรอบเขาหินปูนและจุดชมวิวต่าง ๆ โดยชาวบ้านคิดราคาเหมา 800 บาท นักท่องเที่ยวจึงมักจะจับกลุ่มหารค่าบริการรถกัน เพราะนั่งได้ถึง 12 ที่ นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แถมยังช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้กับผู้คนในบ้านมุงอีกด้วย
ภาคใต้ : สะพานเอกชัย เส้นทางข้ามทะเลสาบจรดสองจังหวัด
สะพานนี้มีชื่อเต็มว่า ‘สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา’ แต่คนในพื้นที่และละแวกใกล้เคียงมักจะเรียกด้วยชื่อเล่นว่า ‘สะพานเอกชัย’ ตามชื่อนักร้องชาวใต้คนดัง เพราะเขาเคยมาเปิดคอนเสิร์ตระดมทุนเพื่อช่วยสร้างสะพาน ทำให้สะพานแห่งนี้เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วภาคใต้
ด้วยระยะทาง 5.5 กิโลเมตร ทำให้สะพานเอกชัยครองแชมป์เป็นสะพานข้ามทะเลสาบที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เชื่อมต่อระหว่างอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง กับอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ส่วนเบื้องล่าง คือ ทะเลสาบน้ำจืด ซึ่งเป็นจุดที่ทะเลน้อยและทะเลหลวงของสองจังหวัดมาจรดกันพอดี แต่ระดับน้ำทั่วบริเวณนี้ยังค่อนข้างตื้น จึงเหมาะเป็นที่หาอาหารของนกน้ำนานาพันธุ์ และเป็นที่อยู่อาศัยของควายน้ำ ซึ่งเป็นสัตว์ประจำถิ่นที่หาดูได้ที่สองจังหวัดนี้เท่านั้น
บนสะพานเอกชัยมีป้ายบอกสายพันธุ์ของนกน้ำและจุดสำหรับจอดรถอยู่เป็นระยะ เผื่อไว้ให้ผู้คนที่ใช้เส้นทางได้ลงมาพักชมวิวสวยสุดลูกหูลูกตาแบบ 360 องศา และเดินรับลมพัดให้รู้สึกเย็นสบายก่อนออกเดินทางไปที่อื่นต่อ
นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่คนทั่วไปนิยมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเสมอ คือ บ้านแฝดร้างหลังคาแดงที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ แม้ในอดีตเคยเป็นที่พักชั่วคราวของคนงานขณะก่อสร้างสะพาน แต่หลังจากสร้างสะพานเสร็จ ทางการกลับไม่รื้อถอนออก เพราะเห็นว่าเข้ากับบรรยากาศโดยรอบ ทำให้บ้านแฝดกลายเป็นสัญลักษณ์คู่กับสะพานเอกชัยไปโดยปริยาย
ที่นี่ยังมีอาหารขึ้นชื่อฝีมือชาวพัทลุงที่แวะเวียนกันขับสามล้อมาขายอย่าง ‘ไข่ปลาทอด’ ซึ่งทำมาจากไข่ปลาตะเพียน และไข่ปลายี่สก ให้รสชาติกลมกล่อม มัน กรอบ และหอมสมุนไพร หากใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ
ภาคตะวันออก : ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ทางเลียบชายหาดคุ้งวิมาน
ใครที่อยากขับรถเที่ยวแต่ยังตัดใจจากทะเลไม่ได้ เพราะรักบรรยากาศของชายทะเลและชอบเสียงคลื่นกระทบฝั่ง แนะนำให้ขับรถมายังภาคตะวันออก โดยใช้ ‘ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต’ มุ่งหน้าสู่ ‘ทางเลียบชายหาดคุ้งวิมาน’ ในอำเภอนายายอาม อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดจันทบุรีเพียง 15 กิโลเมตร
แค่ชื่อของทาง ก็พอจะบอกให้รู้ได้ว่า เป็นถนนที่ขนานไปตามแนวหาดคุ้งวิมานโดยไม่มีภูเขาและเกาะมาคั่นกลาง ตลอดเส้นทาง 111 กิโลเมตร จึงมองเห็นน้ำทะเลเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกันกับเส้นขอบฟ้า นี่คือวิวธรรมชาติที่ควรค่าให้ทุกคนเดินทางมาเห็นด้วยตาตัวเอง
ทางเลียบชายหาดคุ้งวิมานแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ ช่วงกลางถึงเหนือ เป็นทางเลียบที่ติดกับหาดทรายสีทองของชายหาดคุ้งวิมาน เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ เพราะน้ำทะเลบริเวณนี้ใสสะอาดและมีบรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนจึงนิยมเดินทางมาพักผ่อนกันเป็นครอบครัว
ช่วงเหนือถึงใต้ เป็นทางเลียบที่ติดกับโขดหินและแนวป้องกันหาดทรายทรุด เหมาะสำหรับนั่งตกปลามากกว่า แต่ปลายของทางเลียบช่วงนี้อยู่บนเนินเขาพอดี จึงมีจุดชมวิวเนินนางพญา ซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นวิวทะเลได้สวยที่สุด
ระหว่างขับรถไปตามทางเลียบชายหาดคุ้งวิมาน แนะนำให้เปิดหน้าต่างรับลมทะเลและฟังเสียงคลื่นซัดสาด พร้อมกับทอดสายตาชมวิวตรงหน้าที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็สวยสมกับเป็นเส้นทางขับรถที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในภาคตะวันออก
ทางเลียบชายหาดคุ้งวิมานของถนนเฉลิมบูรพาชลทิต นอกจากจะเป็นเส้นทางที่เหมาะให้ขับรถชมวิวแล้ว ยังสามารถปั่นจักรยานชมวิวได้ด้วย เพราะบริเวณไหล่ทางมีเลนที่แบ่งไว้ให้จักรยาน บรรดานักปั่นทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น จึงมักจะมาปั่นจักรยานกันในช่วงเย็นของทุกวัน
ภาคอีสาน : โค้งเลข 9 ถนนหมายเลข 2113 ภูเก้าง้อม
ขึ้นชื่อว่า ‘ภู’ หลายคนมักเข้าใจว่าควรไปเที่ยวเฉพาะหน้าหนาว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว หน้าร้อนแดดจ้าของเดือนเมษายน ก็สามารถขับรถไปเที่ยวภูได้เหมือนกัน แค่ต่างตรงที่ไม่มีทะเลหมอก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลว่าความสวยงามของธรรมชาติจะลดลง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทดแทนสายหมอก คือ ดอกไม้ที่ขึ้นริมทางและความเขียวขจีของผืนป่า
เช่นเดียวกับ ‘โค้งเลข 9’ บนภูเก้าง้อม หรือ ‘ถนนหมายเลข 2113’ (นาแห้ว-ด่านซ้าย) ในตำบลนามาลา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ซึ่งเป็นเส้นทางขับรถเที่ยวชมวิวแห่งใหม่ที่มีชื่อเล่นว่า ถนนลอยฟ้า เพราะอยู่บนภูสูงจนมองเห็นป่าสงวนและภูเขาอื่น ๆ โดยรอบ
ด้วยลักษณะถนนที่คดเคี้ยวไปตามสันเขาของภูเก้าง้อม ทำให้มีทางขึ้นลาดชันและมีโค้งหักศอกค่อนข้างเยอะ แม้ทางการได้ขยายหน้าถนนให้กว้างขวางมากขึ้น รวมถึงสร้างจุดพักรถชมวิวเพิ่มเติม แต่เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง ตรงจุดนี้เอง หากมองจากมุมสูงหรือดูภาพถ่ายทางอากาศจะเห็นเส้นถนนเส้นคล้ายเลขเก้าไทย จึงเป็นที่มาของชื่อโค้งเลข 9
การขับรถมายังโค้งเลข 9 สามารถมาได้สองทาง ถ้าขับมาจากตัวอำเภอนาแห้ว ซึ่งมีระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จะพบกับจุดชมวิวภูเก้าง้อมอยู่ทางซ้ายมือ แต่ถ้าขับมาจากตัวอำเภอด่านซ้าย ซึ่งมีระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร จะพบจุดชมวิวภูเก้าง้อมอยู่ทางขวามือแทน
ภาคตะวันตก : เส้นทางชมธรรมชาติ จากไทรโยคสู่ทองผาภูมิ
เมื่อเปรียบเทียบกับถนนเส้นอื่น ๆ สิ่งที่ทำให้เส้นทางขับรถชมธรรมชาติบน ‘ทางหลวงหมายเลข 323’ จากอำเภอไทรโยคถึงอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี แตกต่างและโดดเด่นขึ้นมาทันที คือเป็นทางระยะไกลที่ต้องใช้เวลาขับรถนาน เพราะมีทั้งจุดชมวิวและสถานที่สำคัญให้หยุดพักท่องเที่ยวตลอดทาง
เริ่มต้นด้วยการแวะชมวิวทางรถไฟสายมรณะ-ถ้ำกระแซ แต่ควรมาถึงที่นี่ตอนเช้าตรู่ก่อน 7.36 น. เพราะอากาศยังไม่ร้อนมาก และเป็นเวลาที่รถไฟจะแล่นผ่านสะพานโค้งเลียบแม่น้ำแควน้อย ซึ่งยาวประมาณ 400 เมตร หลังจากนั้นใช้เวลาขับรถไม่นาน ก็ถึงช่องเขาขาด เป็นเส้นทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของหินผาที่แหวกออกเป็นกำแพงสูง หากมีเวลาเหลือและไม่รีบไปถึงที่พัก สามารถแวะแช่น้ำที่น้ำตกไทรโยคใหญ่ก่อนขับรถต่อไปยังหมู่บ้านอีต่อง
แม้ต้องผ่านโค้งของถนนถึง 399 โค้ง เพื่อมาให้ถึงหมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีทั้งโฮมสเตย์ จุดกางเต็นท์ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกให้เลือกกินเลือกช้อปได้ตามใจชอบ เป็นช่วงเวลาของการพักผ่อนก่อนออกเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้
ขับรถออกจากหมู่บ้านอีต่อง ยังมีจุดชมวิวอื่น ๆ ให้เลือกไปเยือนตามความสนใจ จุดแรก คือ เนินช้างศึก ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มองเห็นธรรมชาติของประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่าได้ชัดเจน จุดที่สอง คือ จุดชมวิวป้อมปี่ อยู่ริมอ่างเก็บน้ำอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกมาชมความงามของพระอาทิตย์ตกในยามเย็นกันที่นี่ ก่อนขับรถกลับเป็นอันจบทริปหน้าร้อน
อ้างอิง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. พิษณุโลก. https://bit.ly/3FzqvqA
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา. https://bit.ly/3Jt4bAb
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. หาดคุ้งวิมาน. https://bit.ly/3Jw6PoU
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต. https://bit.ly/3JSX7yn
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. ภูเก้าง้อม. https://bit.ly/3Lv2y7M
องค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย. ภูเก้าง้อม ถนนลอยฟ้า เมืองเลย. https://bit.ly/42oamy4
องค์การบริหารส่วนตำบลปิล๊อก. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว. https://bit.ly/401gwT5