เพลินวาน ‘ย่านเทเวศร์’ จิบชาในวัง ชมศิลปะในวัด นวดไทยราชสำนัก เดินเที่ยวถิ่นเก่ากรุงเทพฯ

20 Dec 2024 - 5 mins read

Travel / Thailand

Share

จำได้ไหมว่า ไปเที่ยว ‘ย่านเทเวศร์’ ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ?

 

คงมีทั้งคนที่เพิ่งไปมา คนที่เคยไปเมื่อนานมากแล้ว อาจนานเป็นหลักปีหรือสิบปี และคนที่ยังไม่เคยไปสักครั้งเดียว แต่ถึงอย่างนั้น ไม่สำคัญว่าจะเคยหรือไม่เคยไปเที่ยวมาก่อน เพราะครั้งนี้ LIVE TO LIFE ตั้งใจชวนทุกคนมาซึมซับมนตร์เสน่ห์ของ ‘เทเวศร์’ แบบที่ไม่มีครั้งไหนเหมือน ด้วยการสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่จะทำให้ได้สัมผัสกับวันวานของเทเวศร์อีกครั้ง ผ่านสถานที่คัดสรร ครบทั้งที่กิน ที่เที่ยว และที่พัก

 

ในแต่ละที่ที่ LIVE TO LIFE พาทุกคนไปเยือน รับรองว่าจะได้ชิมรสชาติดั้งเดิมของเทเวศร์ ได้มองเห็นร่องรอยของอดีต และได้กลิ่นอายของความหลัง

 

 

ลิ้มลองที่กิน

ชิมรสชาติถิ่นเทเวศร์กับร้านเลื่องชื่อลือชา

เทเวศร์เป็นอีกย่านเก่าแก่ในกรุงเทพฯ ที่ขึ้นชื่อว่ามีร้านอร่อยมากมายครบทั้งของคาวและของหวาน ซึ่งรอคอยให้นักชิมมาลิ้มลองรสชาติ รับรองว่าเป็นต้นตำรับความอร่อยที่หาจากย่านไหนไม่ได้ ต้องมากินที่เทเวศร์เท่านั้น

 

แยกเทเวศร์แหล่งรวมร้านอร่อย

 

บริเวณพื้นที่ภายใน 400 เมตรจากสะพานเทเวศรนฤมิตรตรงแยกเทเวศร์ยาวไปตามแนวถนนสามเสน ถนนกรุงเกษม และถนนลูกหลวง ถือเป็นศูนย์รวมร้านอร่อยประจำย่านเทเวศร์ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย

 

ริมถนนลูกหลวงมีร้านอร่อยอยู่ติด ๆ กัน เริ่มต้นที่ ร้านสุกี้เทเวศร์ มีให้เลือกทั้งหมู ไก่ กุ้ง และหมึก ให้เครื่องแน่น มาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดสูตรเฉพาะของร้านในราคาสบายกระเป๋า แถมให้เยอะกินชามเดียวอิ่ม ร้านนี้เปิดบ่าย พร้อมขายในเวลา 15.30-20.30 น. ปิดทุกวันอาทิตย์

 

เดินถัดมาไม่กี่ก้าว เจออีกร้านดังประจำย่าน คือ ร้านกระเพาะปลาเทเวศร์ ใช้กระเพาะปลาแท้ตุ๋นรวมกับหน่อไม้และเห็ดหอมจนรสชาติและกลิ่นหอมเข้ากันลงตัว เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อไก่ฉีกและไข่นกกระทาต้ม ขายทุกวันยกเว้นวันจันทร์ เวลา 09.30-13.00 น. แนะนำให้รีบไปซื้อตั้งแต่ร้านเปิด ไม่อย่างนั้นอาจอดกินเพราะหมดเร็ว

 

ข้ามสะพานเทเวศรนฤมิตรมาที่หัวมุมถนนกรุงเกษม จะเจอกับร้านข้าวต้มในตำนานที่เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2498 คือ ร้านข้าวต้มเทเวศร์ (เชี่ยวชาญพานิช) สังเกตได้จากตู้ไม้กรุกระจกบานเลื่อนแบบโบราณที่ตั้งอยู่หน้าร้าน ถ้าตั้งใจมาลิ้มลองที่กินในย่านเทเวศร์แล้วไม่ได้มาร้านนี้ ถือว่ายังมาไม่ถึง เพราะเป็นร้านเก่าแก่และดังที่สุด เป็นร้านข้าวต้มกุ๊ยในบรรยากาศร้านห้องแถว ให้บริการทุกวัน เวลา 16.00-23.30 น.

 

อีกร้านที่อยู่ติดกัน คือ ร้านจิวเป็ดย่าง (เทเวศร์) ขายอาหารจีนสูตรกวางตุ้งขนานแท้ที่เปิดมานานกว่า 60 ปี เคล็ดลับความอร่อยของร้าน คือ การทำเป็ดย่าง หมูแดง และหมูกรอบแบบย่างเตาถ่าน โดยไม่ใช้น้ำมันทอดอย่างร้านอื่น ๆ ทำให้ได้ความหอมจากถ่าน และรักษาความนุ่มและชุ่มฉ่ำของเนื้อเอาไว้ได้ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่างผักกวางตุ้งและขิงดองทำเอง เปิดขายเฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 10.30-15.00 น.

 

ส่วนของหวานที่ห้ามพลาด คือ ร้านขนมไทยเจ๊หมวย หรือที่คนเทเวศร์เรียกว่า ร้านเจ๊หมวยบัวลอยเผือก เป็นร้านขนมไทยเล็ก ๆ ในตลาดเทวราชที่ตั้งใจสานต่อสูตรขนมของคุณแม่มานานกว่า 47 ปี เน้นชูรสชาติหวานมันเข้มข้นของกะทิคั้นสด ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.

 

อีกร้านที่ต้องแวะชิม คือ ร้านคุณดาวขนมเบื้องไทย เป็นขนมเบื้องแผ่นใหญ่สูตรโบราณที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอน แป้งบางกรอบยาว 9 นิ้ว ไส้แน่น ให้รสหวานละมุนจากน้ำตาลเคี่ยว ไข่เป็ดเลือกใช้เฉพาะไข่แดง โรยมะพร้าวขาวขูดและฝอยทอง ส่วนไส้เค็มมีกลิ่นหอมรากผักชี พริกไทย และกุ้งสับ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.

 

นั่งจิบชาที่เดวา มานัวร์ คาเฟ่

ในพระตำหนักใหญ่แห่งวังเทเวศร์

 

จากอดีตพระตำหนักใหญ่แห่งวังเทเวศร์ที่มีอายุเกือบ 130 ปี เพราะเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาท มาก่อน ได้ถูกพลิกฟื้นให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งเป็น เดวา มานัวร์ คาเฟ่ ด้วยความตั้งใจของผู้พันแซม พ.อ. เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ที่ต้องการรักษาคุณค่าและความสง่างามของพระตำหนักใหญ่เอาไว้ให้ทุกคนได้ชื่นชมความสวยงามของการออกแบบทั้งภายในและภายนอก

 

แม้จะเป็นคาเฟ่แต่ที่นี้มีอาหารคาวเป็นอาหารจานเดี่ยวไว้ให้ลิ้มลอง เมนูแนะนำคือ ข้าวผัดพระตำหนัก นำข้าวสวยไปผัดกับน้ำพริกสูตรพระตำหนัก ซึ่งเป็นสูตรโบราณที่สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น มีรสเปรี้ยวเค็มเผ็ด มีกลิ่นหอมจากเครื่องเทศและสมุนไพร เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง 3 อย่าง คือ กากหมูเจียว หมูยอ และไข่ต้มยางมะตูม

 

สำหรับคนที่ชอบการดื่มด่ำบรรยากาศความเป็นวังเก่า แนะนำชุดน้ำชายามบ่ายพร้อมขนมหวานหลากชนิด มีให้เลือกทั้งขนมไทย และขนมฝรั่งอย่างขนมอบและขนมเค้ก

 

ในพระตำหนักใหญ่แบ่งพื้นที่เป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นพื้นที่ให้บริการของคาเฟ่ ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ผู้ดูแลต้องการอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติฯ สามารถเปิดให้เข้าชมได้ แต่ต้องนัดหมายล่วงหน้า โดยผู้พันแซมจะรับหน้าที่นำเดินชมและคอยอธิบายของสิ่งละอันพันละน้อยที่ก่อเกิดเป็นพระตำหนักใหญ่แห่งนี้ด้วยตัวเอง

 

เดวา มานัวร์ (Deva Manor)
ที่ตั้ง : 4 ถนนกรุงเกษม (ท่าเรือเทเวศร์) แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น.
โทร. : 090 959 3904
Facebook : Deva Manor, Deva Manor Cafe

 

 

ตะลอนที่เที่ยว

ดื่มด่ำกับประสบการณ์เพลินวาน ‘ย่านเทเวศร์’

เหตุผลที่ทำให้ ‘เทเวศร์’ เป็นหนึ่งในย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ซึ่งคนส่วนใหญ่รู้จักกันดี เพราะมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนานตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์

 

หากย้อนกลับไปในอดีต เทเวศร์เคยเป็นทั้งเขตวังเก่า และย่านเศรษฐกิจที่ขึ้นชื่อเรื่องการค้าขายและศิลปวัฒนธรรม ส่วนเทเวศร์ในปัจจุบัน กลายเป็นถิ่นเก่าน่าเดินเที่ยวไม่มีเบื่อ เพราะเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญอย่างวัง วัด พิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้แห่งชาติ คอยทำหน้าที่บอกเล่าแง่งามของวันวานกับทุกคนที่แวะเวียนมาเที่ยว

 

ชมศิลปะชั้นครูในวัดราชาธิวาสวิหาร

 

ความน่าสนใจของวัดราชาธิวาส คือ ความสวยงามที่ดูแปลกตาของพระอุโบสถ ซึ่งเป็นอาคารประธานของวัดแห่งนี้

 

ถ้ามองจากภายนอก จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีความแตกต่างจากพระอุโบสถของวัดอื่น ๆ เพราะว่าเป็นรูปแบบศิลปกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะเขมร ทั้งทรวดทรงของพระอุโบสถที่มีลักษณะทึบตันเหมือนปราสาทหิน รวมถึงลวดลายปูนปั้นประดับเสาและเหลี่ยมมุมของอาคารที่ผสมผสานระหว่างลายไทยและลายผักกูดของเขมรได้อย่างสวยงามและดูโดดเด่น ซึ่งภายหลังกลายเป็นต้นแบบให้กับการสร้างหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

ส่วนภายในพระอุโบสถทั้ง 3 ด้าน มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าพุทธประวัติและมหาเวสสันดรชาดกครบทั้ง 13 กัณฑ์ (ตอน) เป็นผลงานชั้นครูของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ (พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4) ที่ทรงร่างแบบให้ คาร์โล ริโกลี (Carlo Rigoli) จิตรกรชาวอิตาลีคนเดียวกับที่วาดภาพบนเพดานโดมของพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นผู้ขยายแบบและเขียนสีแบบปูนเปียก (Fresco) ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของทางตะวันตก

 

เชื่อว่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นขณะดูภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถของวัดราชาธิวาสวิหารท่ามกลางความเงียบสงบ คือ สุนทรียภาพจากความงดงามในอดีตที่ยังคงอยู่ให้เห็นในปัจจุบัน เป็นความรู้สึกที่เหมือนกับกำลังชมภาพศิลปะชิ้นสำคัญที่หาดูที่ไหนไม่ได้

 

วัดราชาธิวาสวิหาร
ที่ตั้ง : 3 ถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 04.00-22.00 น.
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
โทร. : 02 668 7988 
เว็บไซต์ : www.watraja.org

 

เยือนบ้านสักทองหลังใหญ่ในวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร

 

ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่ น้อยคนจะรู้ว่าภายในวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร มีพิพิธภัณฑ์ซ่อนอยู่ หากมองดูผิวเผินใครหลายคนอาจคิดว่าเป็นเรือนไทยทั่วไป แต่แท้ที่จริงแล้ว นี่คือพิพิธภัณฑ์สักทองหนึ่งเดียวในประเทศ เพราะอาคารทรงปั้นหยาประยุกต์ 2 ชั้นหลังนี้ มีฐานที่มั่นคงและแข็งแรงเป็นเสาไม้สักทองขนาด 2 คนโอบ รวม 59 ต้น ทั้งหมดเป็นไม้สักทองสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง หรือมีอายุประมาณ 500 ปี

 

แรกเริ่มเดิมทีนั้น อาคารนี้มีชื่อว่า บ้านแก้ว อยู่ที่จังหวัดแพร่ แต่เจ้าของไม่มีเวลาดูแล และไม่ต้องการให้บ้านไม้สักทองถูกรื้อเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนหมดค่าไป จึงขายให้โครงการบูรณะพระอารามวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร เพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์สักทองและแหล่งเรียนรู้ด้านพระพุทธศาสนา ให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสสัมผัสความยิ่งใหญ่และความงดงามของเรือนไม้สักทอง ซึ่งถือว่ามีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมาก

 

ภายในพิพิธภัณฑ์สักทอง แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็นหลายส่วน ชั้นล่างจัดแสดงพระประวัติของมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และความเป็นมาของเรือนไม้สักทอง ส่วนชั้นบนเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรสมัยอยุธยา ซึ่งเป็นองค์ที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ในสมัยอยุธยา และจัดแสดงรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งเท่าพระองค์จริงของสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทั้ง 19 องค์ พร้อมประวัติด้านคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา

 

พิพิธภัณฑ์สักทอง วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร
ที่ตั้ง : 90 ถนนศรีอยุธยา แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : 50 บาท (เด็ก และ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี)
โทร. : 02 282 5793
เว็บไซต์ : www.watdevaraj.org

 

เดินตลาดต้นไม้ที่ท่าเรือเทเวศร์

 

หนึ่งในสถานที่ที่ทำให้เห็นวิถีชีวิตของผู้คน ทั้งคนที่อยู่อาศัย คนที่ทำมาค้าขาย และคนที่สัญจรไปมา คือ ท่าเรือเทเวศร์

 

การเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาไม่อาจพรากเสน่ห์ของการเป็นย่านเก่าแก่ริมฝั่งคลองผดุงกรุงเกษมไปได้ ในอดีตเทเวศร์เป็นอย่างไร ปัจจุบันจึงยังคงภาพของวันวานไว้ให้เห็นเช่นเดิม เพราะนอกจากท่าเรือเทเวศร์จะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทางบกและทางน้ำ ยังเป็นจุดชมทัศนียภาพที่ใครก็ไม่ควรพลาด

 

หากมองออกไปจากท่าเรือเทเวศร์ จะเห็นว่าตลอดสองฝั่งริมคลองผดุงกรุงเกษม มีทั้งบ้านโบราณและอาคารเก่าแก่เป็นสิ่งปลูกสร้างจากอดีตที่ยังคงหลงเหลืออยู่มาถึงวันนี้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องบอกกาลเวลาเคียงคู่กับย่านเทเวศร์มาทุกยุคทุกสมัย

 

ความน่าสนใจของท่าเรือเทเวศร์ คือ ตลาดต้นไม้เทเวศร์ ที่มีอายุยาวนานเกือบ 50 ปี เดิมทีตั้งอยู่ริมถนนกรุงเกษม เลียบคลองผดุงกรุงเกษม แต่หลังจากกรุงเทพฯ หลังปรับภูมิทัศน์ใหม่ จึงย้ายเข้ามาอยู่ด้านหน้าท่าเรือเทเวศร์แทน ตลาดต้นไม้แห่งนี้ เน้นขายไม้ประดับพร้อมอุปกรณ์ทำสวนในราคาย่อมเยา เพราะเริ่มต้นแค่หลัก 10 บาทเท่านั้น

 

นอกจากนี้ บริเวณคลองผดุงกรุงเกษมก่อนถึงท่าเรือเทเวศร์ยังมีกิจกรรมใหม่ คือ พายเรือคายัค เส้นทางไปและกลับรวม 1.4 กิโลเมตร เริ่มจากตลาดเทวราชถึงสะพานวิศสุกรรมนฤมาณ ให้บริการฟรีทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ระหว่างเวลา 15.00-18.00 น. เท่านั้น 

 

ท่าเรือเทเวศร์
ที่ตั้ง : ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 05.00-19.30 น. (วันธรรมดา) เวลา 05.30-19.50 (วันหยุด)
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี ส่วนค่าโดยสารเรือ ขึ้นอยู่กับระยะทาง ดูรายละเอียดได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋ว
โทร. : 02 449 3000

 

เรียนประวัติศาสตร์ในเรือนไม้วิกตอเรียนอายุกว่า 100 ปี

 

ในบรรดาบ้านเรือนและอาคารเก่าแก่ในเทเวศร์ เรือนไม้วิกตอเรียนอายุกว่า 100 ปีหลังนี้ หรือที่มีชื่อเรียกอย่างไพเราะว่า บ้านบานเย็น เป็นบ้านโบราณหลังเดียวที่เปิดโอกาสให้คนที่สนใจได้เข้าไปสัมผัสอดีตอย่างใกล้ชิดผ่านสถาปัตยกรรม และข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่ในช่วงปลายรัชกาลที่ 5 ถึงต้นรัชกาลที่ 7 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสมบัติส่วนตัวของเจ้าของเรือนแห่งนี้

 

บ้านบานเย็นตั้งอยู่ในซอยเทเวศร์ 1 เป็นกลุ่มเรือนไม้โบราณ มีจำนวน 3 หลัง เรือนหลังแรก คือ เรือนพระยาหิรัญยุทธกิจ (บานเย็น สาโยทภิทูร) สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2446 เรือนหลังที่สอง คือ เรือนขุนวิเศษสากล และเรือนหลังสุดท้าย คือ เรือนเพ็งศรีทอง ทั้งหมดเคยถูกทิ้งร้างและทรุดโทรมเป็นเวลานานกว่า 20 ปี ก่อนที่ทายาทจะเข้ามาบูรณะบ้านของบรรพบุรุษให้กลับมาสวยงามดังเดิมอีกครั้ง เพราะตั้งใจอนุรักษ์บ้านโบราณให้ไว้เป็นสมบัติแผ่นดิน และเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าวิถีชีวิตและรสนิยมของผู้คนในย่านเทเวศร์สมัยก่อน

 

บ้านบานเย็นเปิดต้อนรับให้คนที่สนใจเรียนรู้ประวัติศาสตร์เข้าชมได้ฟรีเดือนละ 1 ครั้ง โดยคุณโรจน์ คุณเอนก หนึ่งในทายาทของบ้านบานเย็น ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านด้วยการนำเดินชมทุกส่วนของบ้านด้วยตนเอง พร้อมกับอธิบายความเป็นมาของบ้านหลังนี้ให้ทุกคนได้ฟังด้วยความหวังว่า เรื่องราวของบ้านบานเย็นจะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนหันมาสนใจให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ของเก่าให้คงอยู่สืบไป

 

บ้านบานเย็น
ที่ตั้ง : ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
เวลาทำการ : เดือนละ 1 วัน (ติดตามประกาศวันและเวลาเปิดบ้านได้ที่หน้าเพจเฟซบุ๊ก)
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี (จำกัดจำนวน 20 คน)
โทร. : 089 050 0780
Facebook : บ้านบานเย็น - Baan Baanyen

 

 

เช็กอินที่พัก

นวดไทยราชสำนักในเดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก​

นี่คือที่พักหนึ่งเดียวในย่านเทเวศร์ที่ผสมผสานช่วงเวลาในอดีตกับปัจจุบัน เป็นความร่วมสมัยที่ทุกอย่างเข้ากันลงตัว

 

เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก เคยเป็นเรือนพักอาศัยของพระนมทัต พึ่งบุญ ณ อยุธยา พระนมของรัชกาลที่ 6 ปัจจุบันอาคารได้รับการตกแต่งใหม่ในรูปแบบรีสอร์ตที่มีความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางร่มเงาและความเงียบสงบของต้นไม้ ชื่อห้องพักของโรงแรม จึงได้รับแรงบันดาลใจมาจากวรรณคดีชิ้นเอกในรัชกาลที่ 6 เรื่อง มัทนะพาธา หรือ ตำนานแห่งดอกกุหลาบ รวมถึงนำบทกาพย์ ฉันท์ และโคลงกลอนที่ประพันธ์โดยพระองค์ท่านมาเขียนไว้ที่หัวเตียงเพื่อสร้างบรรยากาศความสุนทรีย์ให้กับการพักผ่อน

 

นอกเหนือจากการเข้าพัก เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อกยังให้บริการ นวดไทยราชสำนัก (Royal Thai Massage) เป็นแบบแผนของการนวดแผนไทยสำหรับถวายแก่กษัตริย์และเจ้านายชั้นสูงในอดีต  เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและระบบไหลเวียนน้ำเหลือง ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างตรงจุด โดยเน้นการนวดด้วยท่าทางสุภาพและสำรวม เช่น ใช้นิ้วหัวแม่มือกดตามจุดทั่วร่างกาย

 

ภายในเดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก มีห้องอาหาร เดอะ ระวีกัลยา ไดนิ่ง เสิร์ฟอาหารหลากหลาย แต่มาถึงที่นี้ทั้งที แนะนำให้ลองอาหารตำรับชาววังขนานแท้ที่หายากให้ยุคนี้ เช่น ม้าฮ่อ ส้มฉุน น้ำพริกลงเรือ ข้าวมันส้มตำ และยำทวาย สำหรับคนที่ไม่ได้เข้าพัก ก็สามารถเข้ามาใช้บริการที่ห้องอาหารนี้ได้

 

เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก (The Raweekanlaya Bangkok)
ที่ตั้ง : 10, 16, 16/1, 164-172 ซอยเทเวศร์ 2 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
จองห้องพัก : rsvn@raweekanlaya.com
โทร. : 02 628 5999
เว็บไซต์ : www.raweekanlaya.com

 

วันวานที่ผันผ่าน ทำให้เทเวศร์ในวันนี้ต่างจากเมื่อก่อน แต่เสน่ห์ของเทเวศร์ยังไม่เสื่อมคลายและอยู่ซุกซ่อนในสถานที่สำคัญและรสชาติอาหารที่น่าลิ้มลองเหล่านี้ ทั้งหมดคือประสบการณ์ที่ LIVE TO LIFE อยากให้ทุกคนหาโอกาสไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

 

 

อ้างอิง

  • ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. เทเวศร์. https://bit.ly/3ZmAF7a
  • ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. บ้านบานเย็น. https://bit.ly/4ff0VpY
  • กฤษฎา นิลพัฒน์. สถาปัตยกรรมพระอุโบสถวัดราชาธิวาสวิหาร. https://bit.ly/4gpT6yH
  • The Raweekanlaya Bangkok. เรื่องราวในอดีต. https://bit.ly/3OTzirG

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...