เมื่อเสื้อผ้าไม่มีเพศ ส่องเทรนด์แฟชั่น Gender Neutral ที่ไม่ใช่แค่กระแส

12 Jun 2023 - 6 mins read

Lifestyle / Trends

Share

ไม่มีอะไรหยุดนิ่งในโลกของแฟชั่น เทรนด์คือหนึ่งในนั้น เมื่อเทรนด์เก่าผ่านพ้นไป ก็ถึงเวลาให้เทรนด์ใหม่ได้โลดแล่นในวงการ เช่นเดียวกับหนึ่งในเทรนด์ที่น่าจับตามองมากที่สุดในตอนนี้ นั่นก็คือ ‘Gender Neutral’ หรือ การออกแบบเสื้อผ้าให้คนทุกเพศสามารถสวมใส่ได้อย่างเท่าเทียมและเสมอกัน

 

แต่ความน่าสนใจของเทรนด์การออกแบบเสื้อผ้าเพื่อทุกคน กลับเป็นมากกว่ากระแสที่ฉาบฉวย เพราะคนทำงานในแวดวงแฟชั่น ต่างกำลังช่วยกันผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดเป็นมาตรฐานใหม่ที่จะคงอยู่คู่อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องแต่งกายไปตลอด ไม่ใช่แค่เทรนด์ทั่วไปที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลาสั้น ๆ

 

 

แฟชั่นเป็นมากกว่าเสื้อผ้าสวยงาม

 

เมื่อยุคสมัยผันเปลี่ยน ความคิด และความเข้าใจของผู้คนทั่วโลกที่มีต่อแฟชั่นก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยเฉพาะในปัจจุบัน จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ทุกความเป็นไปของสังคมย่อมส่งผลต่อเทรนด์ และทิศทางของแฟชั่น

 

ขณะเดียวกัน เทรนด์แฟชั่นก็มีส่วนช่วยปรับมุมมองของผู้คน จากที่เคยยึดติดกับแบบแผนคร่ำครึ กลายเป็นคนที่ก้าวทันสังคมสมัยใหม่ ซึ่งเปิดกว้าง และยอมรับทุกความแตกต่างทั้งด้านเชื้อชาติ รูปร่าง และเพศของผู้คนเอาไว้ ทั้งหมดคือความหลากหลายที่อยู่ร่วมกันได้ด้วยความเข้าใจกันและกัน

 

แฟชั่นจึงเป็นมากกว่าเสื้อผ้าสวยงามที่ทำให้ภาพลักษณ์ของคนดูดี เพราะยังทำหน้าที่เหมือนป้ายประกาศความตั้งใจของนักออกแบบ และบ่งบอกตัวตนของผู้สวมใส่ได้ด้วย หมายความว่า ใครก็ตามที่เลือกผลิต และใส่ชุด Gender Neutral Style ที่ออกแบบมาสำหรับคนทุกเพศ ย่อมสะท้อนเข้าไปถึงความคิด และจุดยืน ซึ่งพวกเขาต่างต้องการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศเหมือนกัน 

 

 

เมื่อเสื้อผ้าไม่แบ่งเพศหญิงและชาย

 

สำหรับเทรนด์การออกแบบเสื้อผ้าให้ไม่มีเพศ เดิมทีไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาตอนนี้ แต่เป็นเทรนด์แฟชั่นที่มีอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ก่อนจะเริ่มมีให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างผ่านชุดของเด็กอ่อนในช่วงปี 1980

 

ย้อนกลับไปในอดีต คนตะวันตกส่วนใหญ่ยึดถือค่านิยมเรื่องการจับคู่สีให้เข้ากับเพศของเด็กเล็ก โดยกำหนดให้เด็กผู้หญิงต้องคู่กับสีชมพู ส่วนเด็กผู้ชายต้องคู่กับสีฟ้า

 

ถึงตอนนี้ ก็ยังมีคนจำนวนหนึ่งยึดติดกับค่านิยมนี้อยู่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพียงแต่เพศของเด็กไม่ควรถูกจำกัดให้คู่กับสีใดสีหนึ่งเท่านั้น ชุดของเด็กอ่อนแบบ Gender Neutral Style จึงหลีกเลี่ยงโทนสีชมพูและสีฟ้า แล้วเลือกใช้สีที่พบเห็นได้ตามธรรมชาติแทน เช่น สีขาว สีครีม โทนสีน้ำตาล สีเขียว และสีเทา แต่ด้วยสังคมที่ยังไม่เปิดกว้างในเวลานั้น เทรนด์การออกแบบเสื้อผ้าไม่แบ่งแยกเพศ จึงยังจำกัดอยู่แค่ชุดเด็กอย่างเดียว ก่อนจะขยายมาสู่ชุดของผู้ใหญ่ในภายหลัง

 

 

เสื้อผ้าและเทรนด์แฟชั่นที่ทำให้เราเท่ากัน

 

ความหมายของคำว่า Gender Neutral หรือ Gender Neutrality นั้นหมายถึง ความเป็นกลางทางเพศ อธิบายให้เข้าใจง่ายมากที่สุดก็คือ ไม่ได้ระบุว่าเหมาะสำหรับเพศใดเพศหนึ่ง ระหว่างเพศหญิงและเพศชาย จึงเป็นสิ่งที่คู่ควรกับคนทุกคน เพราะไม่ได้นำเพศมาเป็นตัวตั้งหรือเกณฑ์กำหนดการเข้าถึง

 

เมื่อคำนี้กลายมาเป็นเทรนด์แฟชั่นหรือสไตล์การออกแบบเสื้อผ้า จึงหมายถึงชุดที่คนทุกเพศสามารถสวมใส่ได้อย่างเสมอกันโดยปริยาย เพราะไม่สนใจว่าคนใส่จะนิยามตัวเองว่าเป็นเพศไหน ทั้งเพศหญิง ชาย และกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ+ ต่างสวมใส่เสื้อผ้า Gender Neutral Style ได้ตามความพึงพอใจ

 

เพื่อสร้างความชัดเจนให้ความเปลี่ยนแปลงนี้คงอยู่ไปได้นานกว่าเทรนด์ความนิยม แบรนด์แฟชั่นส่วนใหญ่ หันมาใช้คำว่า Unisex และ Genderless หรือ Ungendered ซึ่งมีความหมายเดียวกันกับ Gender Neutral เพื่อเรียกชุดไม่มีเพศที่ใครก็สามารถสวมใส่ได้โดยเฉพาะ อย่างที่ปรากฏให้เห็นอยู่บนป้ายบอกขนาดเสื้อของแบรนด์ต่าง ๆ

 

 

ส่องแบรนด์แฟชั่นที่เคียงข้างคนทุกเพศ

 

เสื้อผ้าไม่มีเพศ ถือเป็นผลลัพธ์จากความตั้งใจของคนในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ต้องการผลักดันความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับการเปิดกว้างเรื่องเพศควบคู่ไปกับการแต่งตัว ให้คนในสังคมรับรู้ร่วมกันว่า การเลือกเสื้อผ้ามาสวมใส่คือรสนิยมและความชอบส่วนตัวที่ทุกคนต้องเปิดใจเคารพและให้เกียรติกัน โดยไม่ตั้งคำถามกับใครทำนองว่า ทำไมถึงแต่งตัวไม่ตรงตามเพศ ในทางกลับกัน ทุกคนควรให้กำลังใจและช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในแบบแต่ละคนชอบ

 

ด้วยเหตุนี้เอง แบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เช่น Uniqlo, Zara, Gap, H&M แม้แต่แบรนด์หรูอย่าง JW Anderson และ Gucci จึงออกแบบเสื้อผ้าตาม Gender Neutral Style ที่เน้นการตัดเย็บและทรงของชุดที่ดูเรียบง่าย ใช้โทนสีพื้นที่นำไปมิกซ์แอนด์แมทช์ง่าย ทำให้สามารถสวมใส่ได้ในหลายโอกาส นับเป็นแบรนด์แฟชั่นที่พร้อมเคียงข้างคนทุกเพศ

 

ในมุมมองของคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดอยู่เหนือกรอบของเพศ ทำให้พวกเขามองเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ว่าควรออกแบบมาให้ทุกคนใช้ได้อย่างเท่าเทียม โดยไม่แบ่งแยกเพศหญิงหรือชายอีกต่อไป คือกลุ่มคนสำคัญที่ทำให้เสื้อผ้า Gender Neutral Style ได้รับการตอบรับที่ดีขึ้น และเกิดเป็นคลื่นความนิยมต่อเนื่อง เพราะเสื้อผ้าที่เข้าได้กับทุกเพศช่วยสร้างความสุข และแรงบันดาลใจให้การแต่งตัวให้กลายเป็นเรื่องสนุก และทำให้ชีวิตมีสีสัน เป็นการแต่งตัวที่ไม่มีกฏ ไม่มีถูกผิด หรือรูปแบบตายตัว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความชอบและความพึงพอใจของผู้สวมใส่

 

Gender Neutral หรือ การออกแบบเสื้อผ้าให้คนทุกเพศใส่ได้อย่างเท่ากัน จึงไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นความเปลี่ยนแปลงที่สะท้อนกลับไปยังผู้คนและสังคมว่ากำลังให้ความสำคัญเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและการเห็นคุณค่าในตัวเอง รวมถึงร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศผ่านเสื้อผ้าไม่มีเพศ

 

ตัวอย่างแบรนด์เสื้อผ้า Unisex หรือ Gender Neutral Style ซึ่งผลิตและออกแบบโดยคนไทยที่ LIVE TO LIFE คัดเลือกมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก

 

  • อัคระ แบงค็อก : แบรนด์เสื้อผ้าที่นำสารพัดคำพูดทันยุคทันเหตุการณ์หรือประโยคจี้ใจคนใส่ มาจัดวางใหม่ลงบนเสื้อสีพื้นให้ดูร่วมสมัย จากเสื้อธรรมดาจึงเปลี่ยนเป็นเสื้อตัวเก่งทีโดนใจใครหลายคนตั้งแต่แรกเห็น เพราะทุกคำทุกประโยคสามารถสื่อความหมายตรงใจคนใส่ แถมยังแฝงความขี้เล่นเอาไว้ด้วย

 

  • Called P. : แบรนด์สำหรับคนที่ชอบใส่เสื้อไหมพรม เสื้อถัก และเสื้อคาร์ดิแกน เพราะมีทรงเสื้อหลายแบบให้เลือกสวมใส่ตามความชอบ ส่วนโทนสีที่แบรนด์นี้ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นสีเอิร์ธโทน เช่น สีเขียว สีน้ำตาล สีน้ำเงิน สีเลือดหมู จึงทำให้แมทช์เข้ากับเสื้อและกางเกงตัวอื่น ๆ ได้ง่าย

 

  • LIFE PROJECT : แบรนด์เสื้อ T-Shirt สไตล์มินิมอลที่สกรีนลายน่ารัก ๆ เช่น ข้อความสั้น ๆ และดอกไม้สีพาสเทล แถมตัวเสื้อยังถูกออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ เพราะความหลวมของเสื้อซึ่งไม่รัดรูปร่างมากเกินไป นอกจากจะทำให้สวมใส่สบายและเคลื่อนไหวได้คล่องตัวแล้ว ยังช่วยปรับลุกการแต่งตัวให้ดูวัยรุ่นขึ้นตามความตั้งใจของแบรนด์ที่ว่า Let's Celebrate the Fun of Being Young!

 

  • Compose. : เป็นแบรนด์ที่ทำเสื้อผ้าออกมาได้หลากหลาย มีทั้งเสื้อตัวใน เสื้อตัวนอก และกางเกง รวมถึงหมวก และกระเป๋า ซึ่งปรับเสื้อผ้าผู้ชายให้กลายมาเป็นเสื้อผ้า Unisex หรือ เสื้อผ้า Gender Neutral Style ที่ทุกคนใส่ได้ โดยเพิ่มองค์ประกอบที่น่าสนใจเข้าไปเป็นรายละเอียดของชุด เช่น ลายลูกไม้สีชมพู หรือนำผ้ายีนส์มาตัดเป็นเสื้อเอวลอย

 

  • Yuedpao : แบรนด์ที่ผลิตเสื้อยืดคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า เพราะมีให้เลือกหลายขนาด หลายสี และหลายลาย เน้นเสื้อยืดสีพื้นตรงตามชื่อแบรนด์ที่ว่า ยืดเปล่า ซึ่งมีทั้งแบบตัดแขนให้สั้นขึ้นและเสื้อยืดปกติ จึงเป็นแบรนด์เสื้อที่คนทุกเพศทุกวัยสวมใส่ได้อย่างสบาย นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลสำคัญ ทางแบรนด์จะผลิตเสื้อลายพิเศษตามเทรนด์ที่คนกำลังนิยม เช่น ลายมัดย้อม

 

 

อ้างอิง

 

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...