เหนื่อยอยู่ใช่ไหม ? มาชาร์จแบตใจด้วยการโอบกอดตัวเอง ให้อภัย และ ‘พาใจกลับบ้าน’

25 Jul 2024 - 3 mins read

Lifestyle / Guide

Share

เหนื่อยอยู่ใช่ไหม ? มาชาร์จแบตให้ใจกันดีกว่า  

 

การเติบโตทำให้ใครหลายคนต้องแบกรับทั้งเรื่องงาน เงิน ความสัมพันธ์ ไขว่คว้าความฝัน มีชีวิตอย่างพะวงหน้า พะวงหลัง โดยที่ต้องประคับประคอง ‘ใจ’ ของตัวเองเอาไว้ด้วย   

 

แต่มนุษย์เรามีขีดจำกัด เมื่อต้องแบกภาระหนักอึ้งทั้งหมดนั้นไว้ด้วยตัวคนเดียว ระหว่างทางเป็นไปได้ว่าเราอาจทำตัวเองหล่นหายไป เราแทบไม่มีเวลานั่งทบทวนชีวิตที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร หรือต้องการอะไร บางครั้ง ‘ใจที่หลงทาง’ อยู่นั้น ก็ทำให้ไม่รู้เลยว่าตัวเรานั้นมีความหมายต่อโลกใบนี้อย่างไร ? 

 

และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมต้อง ‘พาใจกลับบ้าน’ 

 

บ้านของใจคือตัวของเรา ถึงเวลาที่ต้องทำให้บ้านหลังนี้น่าอยู่ โดยการหันมาโอบกอดตัวเองอีกครั้ง หมั่นสำรวจความรู้สึกเพื่อรู้จักกับตัวเองให้มากขึ้น ตระหนักรู้ในคุณค่าที่เรามี สำคัญที่สุดคือสามารถ ‘ให้อภัย’ ตัวเองได้และเชื่อมั่นว่าเราคือคนที่สมควรได้รับความสุขเช่นกัน 

 

LIVE TO LIFE ชวนมาตามหาใจที่หลงทางในนิทรรศการ ‘พาใจกลับบ้าน Homecoming’  เป็นนิทรรศการที่ผสมผสานวิธีดูแลสุขภาพจิตและศิลปะเข้าด้วยกัน โดย Eyedropper Fill ทีมนักสร้างสรรค์ และ MasterPeace ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ร่วมกันเนรมิต พื้นที่เชิงบำบัด (Therapeutic Space) ประกอบด้วยแสง สี เสียง และสัมผัส  

 

นิทรรศการมีทั้งหมด 5 ห้อง ได้แก่ สำรวจ โอบรับ เฝ้าดู ข้ามผ่าน และตกผลึก ตลอดระยะทางตั้งแต่ห้องแรกจนถึงห้องสุดท้ายจะชวนเรามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ผ่านการรับรู้ทางร่างกายส่งต่อไปยังจิตใจ เป็นพื้นที่ให้เราได้กลับมาสำรวจจิตใจ โอบรับความรู้สึกที่ไม่สมบูรณ์แบบ เพื่อให้ท้ายที่สุดแล้วเราทุกคนสามารถมีความ ‘เมตตาต่อตัวเอง’ (Self-Compassion) ได้  

 

สำหรับผู้อ่าน LIVE TO LIFE ที่สนใจอยากชมนิทรรศการ ‘พาใจกลับบ้าน Homecoming’ เรามีกิจกรรมสนุก ๆ มาให้ร่วมเล่นเพื่อชิงบัตรเข้าชมนิทรรศการ ติดตามรายละเอียดการร่วมสนุกได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ LIVE TO LIFE

 

ว่าแล้วก็ออกเดินทางไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า  

 

‘สำรวจ’ ความรู้สึกในใจ 

เข้าใจอารมณ์ของตัวเอง 

 

ในแต่ละวันเราอาจพูดคุยกับคนมากมาย แต่น้อยครั้งนักที่เราจะได้สร้างบทสนทนากับตัวเอง ห้องแรกคือห้องที่พาเรากลับมาเผชิญหน้ากับตัวของเราเอง และตอบคำถามง่าย ๆ ที่ว่า ‘วันนี้รู้สึกอย่างไร ?’ 

 

เราจะได้รับ วงล้ออารมณ์ คนละ 1 แผ่น ซึ่งเป็นตัวช่วยให้พาเราเข้าไปสำรวจทั้งข้างในจิตใจและร่างกายของตัวเอง ตอนนี้กำลังยินดีหรือเศร้าใจ หัวเราะหรือร้องไห้ รู้สึกเจ็บปวดส่วนไหนในร่างกาย ? เราต้องโฟกัสที่ร่างกายและจิตใจอย่างถี่ถ้วน เพื่อรู้จักตัวเองให้มากขึ้น

 

‘โอบรับ’ หัวใจที่เว้าแหว่ง 

โอบกอดความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเรา 

 

อ้อมกอดเพิ่มพลังใจได้เสมอ แม้คนที่คุณอยากกอดจะไม่ได้อยู่ข้าง ๆ ในเวลานี้ แต่เราสามารถมอบกอดอันอบอุ่นให้กับตัวเราเองได้ในทันที 

 

เมื่อผ่านธรณีประตูเข้าสู่อีกห้องสัมผัสที่ฝ่าเท้าเปลี่ยนจากกระเบื้องเรียบเย็น ๆ เป็นหินกรวดขรุขระ ที่เหมือนได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ หลังจากสำรวจความรู้สึกไปเรียบร้อยแล้ว ห้องนี้จะชวนเรามาสวมกอดต้นไม้ใหญ่แสนอบอุ่น เมื่อเอาหูแนบกับลำต้นนุ่ม ๆ จะได้ยินเสียงผืนป่ากำลังร้องเพลงอย่างเนิบช้า พร้อมแรงสั่นเบา ๆ สร้างสมาธิ และใช้เวลาในห้องนี้เพื่อฟังเสียงที่อยู่ในใจด้วย 

 

ทุกสิ่งคือธรรมชาติอันงดงาม รวมถึงตัวเราที่ไม่สมบูรณ์แบบ ห้องนี้อยากให้เราทุกคนโอบกอดตัวเองคนที่ไม่สมบูรณ์แบบเอาไว้ และบอกกับเราว่าสิ่งนี้คือธรรมชาติอันงดงามของการเป็นมนุษย์ 

 

‘เฝ้าดู’ ความคิด 

มองกระแสน้ำ ฟังกระแสใจ  

 

อ่างนี้เต็มไปด้วยบอลลูกเล็ก ๆ ซึ่งออกแบบมาให้เป็นดั่งสายน้ำที่เรากระโจนลงไปดำผุด ดำว่าย และลอยตัว ปล่อยใจได้อย่างเต็มที่ ห้องนี้ชวนทุกคนมานอนนิ่งจมลงไปในลูกบอลท่วม ๆ ท่ามกลางความเงียบสงบ มีเพียงเสียงกระแสน้ำไหลเอื่อย ๆ จากนั้นหลับตาและเปิดใจ จำลองตัวเองเป็นนักสังเกตการณ์ที่จะเฝ้าดูกระแสความคิดที่หลั่งไหลเข้ามาดั่งสายน้ำ โดยไม่ต้องจับจด ปราศจากการตัดสินใด ๆ เพียงเฝ้าดูให้เรามองเห็นใจตัวเองได้ชัดเจนขึ้น 

 

‘ข้ามผ่าน’ ความรู้สึกผิด 

และให้อภัยตัวเอง 

 

ห้องนี้ที่จำลองบรรยากาศแคมป์ไฟยามค่ำคืน แสงวูบไหวและเก้าอี้ที่วางเรียงเป็นเป็นวงกลม เชื้อเชิญให้เราเอนตัวลงบนเก้าอี้นุ่มสบาย สวมหูฟังไร้สายและสดับรับฟังเนื้อหาข้างในนั้นไปพร้อม ๆ กัน มีทั้งบทสนทนาของผู้คน ประสบการณ์ต่าง ๆ รวมถึงบทเพลงฮีลใจจาก Youth Brush ศิลปินอินดี้ไทยที่ชวนทุกคนมาขอบคุณ ขอโทษ และให้อภัยตัวเอง ผ่าน 3 บทเพลง คือ ขอโทษใจตัวเอง, ให้อภัยและรักตัวเองสักที และ ขอบคุณที่อดทนรอฟ้าสว่าง

 

เรื่องราวและบทเพลงเหล่านั้นเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยปลอบใจว่า เราไม่ได้เผชิญกับความไม่สมบูรณ์แบบอยู่เพียงลำพัง ยังมีผู้คนอีกมากมายที่กำลังผิดหวัง ผิดพลาด แต่สุดท้ายแล้วพวกเราทุกคนจะสามารถ ‘ให้อภัยตัวเอง’ และข้ามผ่านมันไปให้ได้ 

 

‘ตกผลึก’ ความคิด 

และรู้สึกรักตัวเองมากกว่าเดิม 

 

นิทรรศการดำเนินมาถึงห้องสุดท้าย ที่นี่เราจะได้ตกผลึกความคิดทั้งหมดที่เราได้เข้าไปสำรวจตั้งแต่ห้องแรก โดยการเขียนคำและข้อความลงบนก้อนหินและผืนทราย ซึ่งเป็นคำที่จะบ่งบอกว่าอะไรคือสิ่งที่มีคุณค่ากับเราที่สุด ห้องสุดท้ายนี้จะทำให้เราได้ค้นพบ รู้จักตัวเองมากขึ้น พาใจที่เคยหลงทางกลับมาบ้านที่ชื่อว่า ‘ตัวเรา’ จนได้  

 

ทรรศการ ‘พาใจกลับบ้าน Homecoming จัดขึ้นที่ MMAD – MunMun Art Destination ชั้น 2 (ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์) เปิดให้เข้าชมทุกวัน ถึง 30 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 11.00 - 20.00 น. (รอบสุดท้ายไม่เกิน 19.30 น.) โดยไม่แบ่งรอบและไม่จำกัดเวลาในการเข้าชม  

 

ซื้อบัตรได้ที่ Eventpop : พาใจกลับบ้าน HOMECOMING  

 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  

Facebook : พาใจกลับบ้าน Homecoming และ MMAD - MunMun Art Destination 

Instagram : homecoming.th

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...