

20 คำถามกระชับความสัมพันธ์ ที่ทำให้แม่กับลูกใกล้กันยิ่งกว่าเดิม
Health / Mind
11 Aug 2023 - 5 mins read
Health / Mind
SHARE
11 Aug 2023 - 5 mins read
จำได้ไหมว่า คุยกับแม่ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?
หากอายุขัยเฉลี่ยคนเราเท่ากับ 80 ปี นั่นหมายความว่า คนคนหนึ่งจะมีเวลาทั้งชีวิตประมาณ 4,000 สัปดาห์
แต่จำนวนเวลาที่คู่แม่และลูกจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันจริง ๆ กลับยิ่งน้อยลงไปอีก คือเหลือเพียงเกือบครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 2,200 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ อาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ เพราะไม่มีสิ่งใดจะบอกให้เรารู้ล่วงหน้าได้ว่า แม่และลูกจะได้อยู่ดูแลกันไปนานเท่าไหร่ ทุก ๆ วันที่เวลาล่วงเลยผ่าน จึงไม่ต่างอะไรกับนาฬิกาที่กำลังนับถอยหลัง
เมื่อชีวิตมีเวลาจำกัด นี่คงเป็นเหตุผลข้อสำคัญที่ทำให้เราควรเริ่มต้นดูแลกันตั้งแต่ตอนนี้ ตอนที่ยังมีเวลาอยู่ด้วยกัน เพียงแค่คำสั้น ๆ ที่ลูกใช้ทักทายและถามถึงสารทุกข์สุกดิบทุกครั้งเมื่อเจอหน้าแม่ ก็พอช่วยให้หายคิดถึงได้ แต่ถ้าหากไม่ได้เจอหน้ากันทุกวัน เพราะอยู่คนละบ้าน หรืออยู่ห่างไกลกัน การส่งข้อความหรือโทรคุยกัน ก็นับเป็นอีกวิธีที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกว่าห่างไกลกันแค่ระยะทาง
เพราะการพูดคุยด้วยบทสนทนาที่กินใจ เป็นรากฐานของการสร้างความสัมพันธ์อันอบอุ่นให้แม่และลูกอยู่ด้วยกันด้วยความรักเคียงคู่กับความเข้าใจ ก่อเกิดเป็นความใกล้ชิด ความห่วงใย และความรู้สึกอยากใช้เวลาร่วมกันกับคนที่รักไปตลอด
สำหรับลูก ๆ ที่อยากบอกรักแม่ แต่แทบไม่ค่อยได้แสดงออก หรือคุยกับแม่ไม่บ่อยนัก แล้วไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นด้วยคำพูดแบบไหน LIVE TO LIFE ขอแนะนำให้รู้จักกับ ‘20 คำถามกระชับความสัมพันธ์ ที่ทำให้แม่กับลูกใกล้กันยิ่งกว่าเดิม’
เป็นคำถามที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดคำถามของ คริสติน คาร์เตอร์ (Christine Carter) ผู้เชี่ยวชาญด้านความสุข ประจำศูนย์วิทยาศาสตร์เกรทเตอร์ กู๊ด (Greater Good Science Center) แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (University of California, Berkeley) สหรัฐอเมริกา โดยนำมาปรับเปลี่ยนใหม่ให้เข้ากับความเป็นแม่และลูกกันของคนไทยมากขึ้น ดังนี้
1. ตอนลูกยังเล็ก แม่จำได้ไหมว่าเป็นเด็กแบบไหน ดื้อไหม ซนไหม เลี้ยงยากหรือเปล่า
2. ทำไมแม่ถึงตั้งชื่อเล่นและชื่อจริงให้ลูกด้วยชื่อนี้ เล่าที่มาและความหมายของชื่อให้ฟังหน่อย
3. ตอนแม่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง จำความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นตอนนั้นได้ไหม เป็นความรู้สึกแบบไหน
4. แม่จำวันแรกที่ลูกไปโรงเรียนได้ไหม
5. คำว่า ‘แม่’ สำหรับแม่ มีความหมายว่าอะไร
6. หากนึกถึงหน้าที่การเป็นแม่คน กว่าจะเลี้ยงดูลูกคนหนึ่งให้โตขึ้นมาได้ถึงขนาดนี้ เป็นเรื่องง่ายหรือยากมากแค่ไหน
7. แม่มีความลับที่เก็บมาตลอดไหม อยากรู้ความลับที่แม่ไม่เคยบอกยาย กระซิบบอกให้ลูกรู้หน่อย
8. ชีวิตวัยเด็กกับตอนวัยรุ่นของแม่เป็นอย่างไร อยากให้แม่เล่าให้ฟังบ้าง
9. มีเพลงโปรดเพลงไหนบ้าง ที่แม่ชอบเปิดฟังหรือร้องตามอยู่บ่อย ๆ
10. อาหารโปรดที่แม่ชอบกินที่สุด หรือร้านประจำที่แม่ชอบไปคือร้านไหน
11. เวลาว่าง ๆ แม่ชอบทำอะไร
12. แม่อยากไปเที่ยวที่ไหน เป็นที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน หรือเคยไปมาแล้วแต่อยากไปอีกก็ได้
13. เรื่องอะไรของลูกคนนี้ ที่ทำให้แม่ภูมิใจที่สุด
14. เรื่องอะไรของลูกคนนี้ ที่เคยทำให้แม่เสียใจและเสียน้ำตา
15. มีเรื่องอะไรบ้างที่ทำให้แม่รู้สึกกังวลใจหรือเป็นห่วงอยู่ไม่หาย
16. ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีเรื่องไหนบ้างที่แม่คิดว่าตัดสินใจยากเสมอ
17. เวลาไม่ได้ดั่งใจ แม่รับมือกับความผิดหวังอย่างไร
18. มีประสบการณ์ชีวิตหรือบทเรียนชีวิตเรื่องอะไรบ้าง ที่แม่อยากย้ำเตือนให้ลูกรู้ไว้
19. อะไรคือสิ่งที่ทำให้แม่มีความสุขที่สุด
20. วันแม่ปีนี้ อยากได้อะไรเป็นของขวัญจากลูก
คำถามทั้ง 20 ข้อนี้ เป็นเพียงแนวคำถามที่ช่วยให้คู่แม่ลูกได้ทบทวนความทรงจำ ย้อนรำลึกความหลังในวันวาน และทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน จนเกิดเป็นความรู้สึกอิ่มเอมไปกับเรื่องราวดี ๆ ที่มีคุณค่า เป็นความสุขทางใจระหว่างแม่กับลูกที่มีร่วมกัน คำถามแต่ละข้อจึงสามารถนำไปปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมได้ เพื่อให้เข้ากับแม่ของเราเอง
นอกจากคำถาม LIVE TO LIFE ยังมีเคล็ดลับทางจิตวิทยา 3 ข้อ ที่จะช่วยให้ลูก ๆ พูดคุยกับแม่ได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติที่สุดมาแนะนำ เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยมักจะรู้สึกประหม่าหรือเขินอายทุกครั้ง เมื่อต้องแสดงความรักกับแม่
เคล็ดลับข้อที่ 1 เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
การพูดคุยถือเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นประจำ เหมือนกับคนที่พูดเก่งเพราะพูดบ่อย ส่วนคนพูดน้อยหรือปกติไม่ค่อยพูด ย่อมรู้สึกว่าเป็นเรื่องท้าทายและเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่คุ้นชิน ก่อนพูดจึงจำเป็นต้องรวบรวมความกล้าและเลือกคำถามไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกเกินไปจนทำอะไรไม่ถูก หรือพูดไม่ออกกลางคัน โดยไม่ลืมสร้างความเชื่อมั่นภายในตัวเองว่า สิ่งที่กำลังจะทำ สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีและทำให้ชีวิตของเราและแม่มีความหมาย
เคล็ดลับข้อที่ 2 ใช้ใจเข้าถึงใจ
ความจริงใจคือสิ่งเดียวที่จะทำให้คนเรายอมเปิดอกคุยกัน อย่างแรกต้องเปิดใจให้พร้อมรับฟังทุกเรื่องราวจากแม่ เพราะเป็นการถามความคิดเห็นถึงมุมมองชีวิตและความรู้สึกต่อสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้และทำความเข้าใจแม่ อาจเริ่มชวนคุยจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นใกล้ตัวก่อน เพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ไม่เร่งเร้าให้แม่รู้สึกว่าถูกคาดคั้น หากแม่ถามกลับมาเมื่อไหร่ ลูกควรใช้หัวใจตอบ ไม่ควรโกหกหรือพูดเกินจริง ถ้าแม่จับได้ จะยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงถึงขั้นหมดความรู้สึกอยากคุยต่อ
เคล็ดลับข้อที่ 3 ไม่มองข้ามภาษากาย
แม่บางคนอาจรู้สึกงุนงงกับลูกว่ามาไม้ไหน เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยชวนคุยแบบนี้ เพื่อแสดงออกถึงความเอาใจใส่ว่าลูกอยากใช้เวลากับแม่ ควรเลือกใช้ภาษากายที่แสดงออกด้วยท่าทีเปิดรับและเปิดใจตลอดการสนทนาควบคู่ไปกับคำพูด เช่น มองตา พยักหน้า ยิ้ม หัวเราะ มีอารมณ์ร่วมไปกับแม่ตามความเหมาะสม ขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้ ๆ จับมือ โอบเอว โผกอด และหนุนตัก ซึ่งจะช่วยลดช่องว่างจากความห่างเหินให้แม่และลูกรู้สึกใกล้กันมากกว่าเคย ส่วนน้ำเสียง ควรลองพูดกับตัวเองหลาย ๆ รอบ เพื่อปรับน้ำเสียงให้น่าฟัง ไม่รีบพูดและไม่กระโชกโฮกฮาก
เพราะทุกวันคือวันพิเศษ LIVE TO LIFE หวังว่าคำถามกระชับความสัมพันธ์และเคล็ดลับทุกข้อ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้แม่กับลูกใกล้กันยิ่งกว่าเดิม เพียงให้เวลากับคนที่เรารักสุดชีวิต วันที่แสนธรรมดาจะแปรเปลี่ยนเป็นวันที่มีความหมายได้ในทันที ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองชวนแม่คุยดูสักครั้ง
อ้างอิง
- Christine Carter. 20 Questions to Ask Your Mother. https://bit.ly/44RjX0R
- Oliver Burkeman. The average human lifespan is absurdly, insultingly brief. https://bit.ly/3DF0PYx
- Mark Travers. 3 Keys to Deeper, More Meaningful Conversations. https://bit.ly/46U5dQx
- Susan Krauss Whitbourne. 10 Must-Know Tips for Making Better Conversations. https://bit.ly/3NXSJPj