

เตรียมพร้อมก่อนไปงานวิ่ง แนะนำวิธีฝึกซ้อมและพิกัดสวนสาธารณะที่ดีต่อใจนักวิ่งหน้าใหม่
Health / Body
04 Nov 2024 - 5 mins read
Health / Body
SHARE
04 Nov 2024 - 5 mins read
“การวิ่งมีประโยชน์หลายสถาน ข้อแรก ไม่ต้องการเพื่อนร่วมทีม ไม่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษ ไม่ต้องไปสนามเฉพาะเจาะจงเพื่อไปออกกำลังกาย ตราบเท่าที่มีรองเท้าวิ่งสบายเท้าและมีถนนทอดยาวไกล เราพอจะวิ่งได้สุดหัวใจปรารถนา”
ฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น ผู้หลงใหลการวิ่งและหมั่นฝึกซ้อมจนสามารถพิชิตมาราธอนมาแล้วหลายสนาม บันทึกถึงวิธีคิด ประสบการณ์ และความรู้สึกของเขาที่มีต่อการวิ่งไว้ในหนังสือ เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง (What I Talk About When I Talk About Running) สารคดีความเรียงอ่านสนุกและปลุกพลังใจให้กับทั้งนักวิ่งมือเก๋าและนักวิ่งหน้าใหม่ได้รู้จักกับโลกของการวิ่งได้ดียิ่งขึ้น
สิ่งหนึ่งที่นักวิ่งมืออาชีพอย่างมูราคามิเน้นย้ำสำหรับการจะออกวิ่งให้ได้สม่ำเสมอ ก็คือ “สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่ความเร็วหรือระยะทาง แต่เป็นการลุกออกไปวิ่งเป็นประจำทุกวัน”
ทั้งนี้เป็นเพราะว่าการวิ่งนั้นเป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างจะปราบเซียนไม่ใช่น้อย ด้วยความเรียบง่ายของการแค่ออกแรงก้าวเท้าพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วในจังหวะของตัวเอง ทำให้ในช่วงแรก ๆ ทุกคนย่อมรู้สึกสนุกและท้าทาย แต่เมื่อวิ่งไปได้สักระยะ หลายคนมักเกิดอาการเบื่อ ท้อแท้ หมดไฟ ไม่อยากออกไปวิ่ง ฯลฯ
ดังนั้น การหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการพาตัวเองออกไปวิ่งคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้มือใหม่สามารถวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง
การเลือกสถานที่วิ่งให้เหมาะสมเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้มือใหม่หัดวิ่งรู้สึกสนุกกับการออกกำลังกายประเภทนี้มากขึ้น ซึ่ง ‘สวนสาธารณะ’ เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การฝึกวิ่งมากที่สุด ด้วยสภาพแวดล้อมที่สงบ ร่มรื่น ปลอดภัยกว่าการวิ่งในหมู่บ้านหรือบนฟุตบาธตามท้องถนน อีกทั้งการวิ่งในสวนยังมีประโยชน์ต่อการเพิ่มสมรรถนะของร่างกายและส่งผลที่ดีต่อจิตใจอีกด้วย
อีกหนึ่งวิธีในการปลุกพลังใจให้การวิ่งทุกครั้งสนุกขึ้นกว่าเดิม ก็คือ การตั้งเป้าหมายระยะสั้น เช่น วันนี้จะเพิ่มระยะวิ่งให้มากกว่าเมื่อวาน 200 เมตร หรือการพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางเพื่อนนักวิ่งด้วยการสมัครร่วมงานวิ่งสักงาน เริ่มต้นที่ระยะ 5 กิโลเมตร หรือที่เรียกกันว่า Fun Run ก็ถือเป็นการตั้งเป้าหมายที่ช่วยให้การฝึกวิ่งในแต่ละวันสนุกและท้าทายยิ่งขึ้น
ไม่แน่ว่าจากนักวิ่งระยะ Fun Run หน้าใหม่ในวันนี้ อาจค่อย ๆ พัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นเจ้าสนามมาราธอนในวันหน้าก็เป็นได้
ฝันให้ไกลต้องไปให้ถึง ! มาเริ่มต้นฝึกวิ่งไปทีละขั้นตอนกับ LIVE TO LIFE ที่ขอเป็นแรงหนุนให้นักวิ่งหน้าใหม่ฝึกวิ่งได้อย่างสนุกสนานและสม่ำเสมอ ด้วยการแนะนำเคล็ดลับการวิ่งที่ถูกวิธี พิกัดสวนสาธารณะน่าวิ่งทั่วกรุงเทพฯ และการเตรียมตัวก่อนไปร่วมงานวิ่ง Fun Run ครั้งแรกในชีวิต
โดยเฉพาะในช่วงปลายปีแบบนี้ที่การจัดงานวิ่งรายการต่าง ๆ มักจะคึกคักเป็นพิเศษ มองหางานวิ่งที่ใช่ แล้วออกตัวมุ่งเข้าสู่เส้นชัยกันเลย
คู่มือฝึกซ้อมวิ่งระยะ 5 กิโลเมตร
โดยปกติ นักวิ่งมือใหม่มักใช้เวลาเตรียมตัวฝึกซ้อมก่อนถึงวันงานวิ่งแข่งระยะ Fun Run ประมาณ 8 สัปดาห์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความถี่ในการซ้อมของแต่ละคน
ในระยะแรกของการฝึกซ้อม ลองวิ่งสัก 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30 นาที เริ่มจากการวิ่งจ๊อกกิ้งเบา ๆ หรือใช้วิธีวิ่งสลับเดิน (เช่น วิ่ง 1 นาที เดิน 2 นาที) อาจกำหนดให้วันหยุดสุดสัปดาห์ (วันเสาร์หรือวันอาทิตย์) เป็นวันวิ่งจ๊อกกิ่ง ส่วนวันจันทร์ พุธ และศุกร์เป็นวันวิ่งสลับเดิน
ในวันฝึกแบบวิ่งสลับเดิน ให้ใช้เวลารวมกันทั้งหมด 30 นาที โดยช่วง 2 สัปดาห์แรกให้เดิน 75% และวิ่งจ๊อกกิ้ง 25% เช่น เดิน 45 วินาที ตามด้วยวิ่งจ๊อกกิ้ง 15 วินาที หรือเดิน 90 วินาที วิ่งจ๊อกกิ้ง 30 วินาที สัปดาห์ที่ 3-4 ค่อยเพิ่มเวลาทั้งเดินและวิ่งเข้าไปอีก 30 วินาที และค่อย ๆ ปรับสัดส่วนเวลาการวิ่งให้มากกว่าเดินไปตามพัฒนาการของร่างกาย
สำหรับการฝึกซ้อมในวันวิ่งจ๊อกกิ้ง ใช้วิธีเพิ่มระยะทางไปทีละนิดอย่างต่อเนื่อง เช่น สัปดาห์แรกวิ่ง 1 กิโลเมตร สัปดาห์ถัดมาเพิ่มระยะขึ้นอีก 400 เมตร ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อฝึกพละกำลังและความทนทาน
ข้อควรระวัง คือ ไม่ควรวิ่งทุกวัน ควรมีวันพักเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู หรือสลับไปเล่นกีฬาประเภทอื่นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
7 สวนสาธารณะน่าวิ่งทั่วกรุง
ใกล้ที่ไหนวิ่งที่นั่น เลือกพิกัดสวนสาธารณะใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน และมีระยะทางในการวิ่งที่หลากหลายได้ตามชอบใจ LIVE TO LIFE มัดรวมมาให้แล้วกับ 7 สวนสาธารณะน่าวิ่งใน 7 ย่านทั่วกรุงเทพฯ
1. สวนหลวงร.9
ระยะทาง 1 รอบ = 5.0 กิโลเมตร
ด้วยดีกรีระดับสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ การไปฝึกซ้อมวิ่งที่สวนหลวง ร. 9 ครบ 1 รอบ ก็เท่ากับเป็นการชิมลางอารมณ์ความรู้สึกของการวิ่งระยะ Fun Run ไปในตัว แนะนำให้ไปวิ่งในช่วงเวลาเย็นที่มีแสงแดดอ่อน ๆ ตกกระทบดอกไม้นานาพันธุ์และสะท้อนผิวน้ำในสระขนาดใหญ่ที่มีหอรัชมงคลโดดเด่นเป็นแลนด์มาร์ก บรรยากาศดี ๆ เหล่านี้จะช่วยทำให้ช่วงเวลาในการวิ่งออกกำลังกายรอบสวนหลวง ร.9 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุนทรีย์ที่ทำให้ลืมเหนื่อยได้เป็นปลิดทิ้ง
ที่ตั้ง : ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 05.00 - 19.00 น.
ค่าบริการ : คนละ 10 บาท
2. สวนจตุจักร
ระยะทาง 1 รอบ = 3.0 กิโลเมตร
หนึ่งในสวนสาธารณะที่วิ่งเพลินจนไม่มีทางบ่นว่าเบื่อ เพราะสวนจตุจักรนั้นมีเส้นทางวิ่งที่เชื่อมต่อกับสวนสาธารณะอีก 2 แห่ง คือ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เฉพาะสวนจตุจักรเองถ้าวิ่งครบรอบก็ได้ระยะทาง 3 กิโลเมตรเข้าไปแล้ว หากใครอยากพิชิตเส้นทางวิ่งให้ครบทั้งสามสวน ซึ่งจะได้อารมณ์เหมือนได้สำรวจป่าในเมือง สามารถวิ่งวนยาว ๆ ไปถึงสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ (1 รอบ = 1.3 กิโลเมตร) และสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ (ระยะทาง 1 รอบเล็ก = 2.6 กิโลเมตร และ 1 รอบใหญ่ = 3.6 กิโลเมตร) สามารถออกแบบเส้นทางวิ่งแก้เบื่อได้ตามอัธยาศัย
ที่ตั้ง : ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 04.30 - 21.00 น.
การเดินทาง : MRT สถานีจตุจักร ทางออก 1 หรือ 2 และ BTS สถานีหมอชิต ทางออก 1 หรือ 3
3. สวนลุมพินี
ระยะทาง 1 รอบ = 2.6 กิโลเมตร
สวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดให้บริการมานานเกือบ 100 ปี ลองคิดดูว่าเคยมีผู้คนมากมายแค่ไหนมาใช้บริการปอดของกรุงเทพฯ แห่งนี้เป็นสนามซ้อมวิ่งจากรุ่นสู่รุ่น เพราะเอกลักษณ์ของสวนลุมพินีคือความร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาทั่วทั้งบริเวณ มีบึงขนาดใหญ่เพิ่มความเย็นตามธรรมชาติให้กับทั่วทั้งพื้นที่ เส้นทางวิ่งก็มีทั้งวงรอบใหญ่ และเส้นทางย่อยสำหรับลัดไปยังบริเวณอื่นภายในสวนเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการวิ่งในแต่ละวันไม่ให้ซ้ำกันได้เป็นอย่างดี
ที่ตั้ง : แยกศาลาแดง ถนนพระรามที่ 4 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 05.00 – 21.00 น.
การเดินทาง : MRT สถานีสีลม ทางออก 1 และ BTS สถานีศาลาแดง ทางออก 5
4. สวนเบญจกิติ
ระยะทาง 1 รอบ = 1.8 กิโลเมตร
สวนสาธารณะยอดนิยมแห่งใหม่ล่าสุด เพราะเพิ่งมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่จึงสวยงามราวกับสวนสาธารณะในต่างประเทศ เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่มีทั้งลู่วิ่งที่กว้างใหญ่ แบ่งเลนวิ่งให้เสร็จสรรพสำหรับนักวิ่งเร็วและคนวิ่งช้า นอกจากนี้ยังมีลู่ปั่นจักรยาน ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ สามารถใช้ชีวิตที่สวนใจกลางย่านอโศก-คลองเตยแห่งนี้ได้แบบยาว ๆ ตลอดวัน
สำหรับใครที่อยากเพิ่มความท้าทายใหม่ ๆ ขอแนะนำเส้นทางพิเศษที่เชื่อมระหว่างสวนลุมพินีกับสวนเบญจกิติ ที่มีชื่อเรียกในวงการนักวิ่งว่า The Green Mile เพราะมีระยะทาง 1.6 กิโลเมตร หรือบางคนก็เรียกว่าสะพานเขียว เพราะเป็นเส้นทางวิ่งบนสะพานลอยทาพื้นสีเขียวจากสวนลุมพินียาวไปจนถึงด้านหลังโรงงานยาสูบแล้วเข้าไปยังสวนเบญจกิติได้เลย แต่ควรมีเพื่อนร่วมเส้นทางไปด้วยกันและควรวิ่งในช่วงที่ยังไม่มืดมาก เพราะเป็นสะพานที่ตัดผ่านชุมชนต่าง ๆ จึงควรระวังอันตรายจากบางช่วงที่่ค่อนข้างเปลี่ยว
ที่ตั้ง : ถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 04.30 – 21.00 น.
การเดินทาง : MRT สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 3 และ BTS อโศก ทางออก 3
5. สวนสราญรมย์
ระยะทาง 1 รอบ = 0.85 กิโลเมตร
สวนสาธารณะขนาดเล็กที่เคยเป็นสวนส่วนพระองค์ของรัชกาลที่ 5 มาก่อน จึงมีความสวยงามแปลกตากว่าสวนแห่งอื่น ๆ ในกรุงเทพฯ โดยมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ยังคงความงดงามให้ชื่นชม ทั้งอาคารเรือนกระจก ศาลาแปดเหลี่ยม และน้ำพุพานโลหะอายุกว่าร้อยปี บรรยากาศของที่นี่มีคนในชุมชนมาใช้บริการทำกิจกรรมหลากหลายทั้งช่วงเช้าและเย็น เช่น มุมรำมวยจีน มุมนักกล้าม มุมเต้นแอโรบิก เตะตะกร้อ ตีปิงปอง ฯลฯ วิ่งออกกำลังที่สวนสราญรมย์รับรองไม่มีคำว่าเบื่อแน่นอน
ที่ตั้ง : ถนนเจริญกรุง ตัดกับ ถนนราชินี แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 04.00 - 21.00 น.
การเดินทาง : MRT สถานีสนามไชย ทางออก 1
6. สวนเบญจสิริ
ระยะทาง 1 รอบ = 0.8 กิโลเมตร
สวนสาธารณะขนาดกำลังดีที่เดินทางสะดวก ห้อมล้อมด้วยห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง เหมาะสำหรับคนทำงานในออฟฟิศย่านสุขุมวิทที่สามารถคว้ารองเท้าวิ่งแล้วขึ้น BTS มาที่สวนได้โดยไม่ต้องฝ่าการจราจร แม้จะเป็นสวนขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยกิจกรรมหลากหลาย มีทั้งสนามวอลเลย์บอลและลานสำหรับเล่นสเกตบอร์ด การวิ่งแต่ละรอบที่สวนเบญจสิริจึงสนุกและวิ่งเพลิน วิ่งเสร็จแล้วยังสามารถเติมพลังต่อในร้านอาหารที่หลากหลายแถวนั้นเป็นรางวัลให้ตัวเอง
ที่ตั้ง : ระหว่างซอยสุขุมวิท 22 - 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 05.00 - 21.00 น.
การเดินทาง : BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออก 6
7. สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา
ระยะทาง 1 รอบ = 280 เมตร
อดีตโครงสร้างของรางรถไฟฟ้าที่ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้นานกว่า 30 ปี ที่ได้รับการปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่จนกลายเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าที่เชื่อมฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนครเข้าด้วยกัน ด้วยเส้นทางที่ไม่ยาวมากนัก จึงเหมาะสำหรับมือใหม่หัดวิ่ง ที่สามารถออกกำลังกายพลางได้ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยเสมอไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าตรู่หรือพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน
ที่ตั้ง : สะพานพระปกเกล้า แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 05.00 – 20.00 น.
การเดินทาง : MRT สถานีสนามไชย ทางออก 4, เรือด่วนเจ้าพระยา (ธงสีส้ม) หรือเรือธรรมดาประจำทาง (ไม่มีธง) ขึ้นที่ท่าสะพานพุทธ
4 เหตุผลที่ทำให้การวิ่งในสวนดีต่อกายและช่วยฮีลใจ
การวิ่งในสวนสาธารณะ นอกจากจะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศในการวิ่งที่ดีแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจอีกหลายประการ
1. สูดออกซิเจนได้เต็มปอด
การวิ่งในสวนสาธารณะที่แวดล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ช่วยให้นักวิ่งสามารถหายใจได้เต็มปอด ทำให้การไหลเวียนของออกซิเจนในร่างกายทำได้ดีกว่าการวิ่งบนลู่วิ่งในฟิตเนส ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดจึงทำให้การไหลเวียนของอากาศไม่ดี และเป็นสภาพแวดล้อมที่มีออกซิเจนน้อย การวิ่งในสวนจึงมีส่วนช่วยให้เหนื่อยน้อยกว่า เพราะสามารถหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญ
การวิ่งในสวนสาธารณะเป็นการออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมจริงที่มีแรงต้านอากาศ องศาของพื้นที่มีความผันแปร และพื้นผิวถนนที่มีความหนืดตามธรรมชาติ ไม่เด้งเหมือนบนลู่วิ่งไฟฟ้า ส่งผลให้ในระยะการวิ่งเท่า ๆ กัน การวิ่งในสวนสาธารณะสามารถเผาผลาญแคลเลอรีได้มากกว่าการวิ่งลู่
นอกจากนี้ การวิ่งบนพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เจอเนินสูงต่ำ สิ่งกีดขวาง และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในสวนสาธารณะ เป็นการพัฒนากลุ่มกล้ามเนื้ออื่น ๆ ไปพร้อมกับฝึกบาลานซ์ไปในตัว นอกจากนี้ ยังมีผลวิจัยสนับสนุนว่า การวิ่งแบบ Outdoor มีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก เพราะเป็นการวิ่งบนพื้นผิวที่แข็ง ทั้งยังเปิดโอกาสให้ร่างกายได้รับวิตามิน D จากแสงแดด (สำหรับคนที่วิ่งในช่วงเช้า) ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูก
3. สดชื่นกาย สบายใจ
งานวิจัยหลายฉบับยืนยันตรงกันว่าการพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวของร่มเงาไม้ มีส่วนช่วยลดความเครียด คลายกังวล และถือเป็นการพักสมองที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง เพราะได้เปลี่ยนบรรยากาศขณะวิ่งและได้รับความสดชื่นจากธรรมชาติสองข้างทาง ไม่ว่าจะแสงแดดที่ส่อง สายลมที่พัด ได้เสียงนกร้องอยู่ไกล ๆ รวมถึงการได้พบปะกับเพื่อนนักวิ่งหน้าใหม่ ทั้งหมดนี้คือมิติที่มีครบในการฝึกซ้อมวิ่งในสวนสาธารณะ
4. ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ
การใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีในพื้นที่กลางแจ้งท่ามกลางธรรมชาติ มีส่วนช่วยลดอัตราความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ 7% และลดความเสี่ยงจากความดันโลหิตสูงได้ 9%
การเตรียมตัวก่อนถึงเช้าวันแข่งวิ่ง
เมื่อซ้อมวิ่งจนมั่นใจและพร้อมที่จะลงสนามวิ่งระยะ 5 กิโลเมตรแล้ว อย่ามองข้ามการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนถึงเช้าวันลงสนาม เพื่อการวิ่งเข้าสู่เส้นชัยอย่างสวยงาม
นอนหลับให้เพียงพอ
ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ (7-8 ชั่วโมง) เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่ และรู้สึกสดชื่นในเช้ามืดของวันแข่งวิ่ง ควรตื่นให้เช้ากว่าปกติ เพื่อเตรียมตัวทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย และเผื่อเวลาในการเดินทางไปยังสถานที่จัดงาน ซึ่งควรไปถึงก่อนเวลาแข่งขันประมาณ 30-45 นาที เพื่อเตรียมตัวในเรื่องต่าง ๆ หน้างาน และจะได้มีเวลาวอร์มอัพร่างกายแบบไม่รีบร้อน
สำหรับคนที่นอนดึกเป็นประจำ ควรค่อย ๆ ปรับเวลาในการนอนไปทีละน้อย เมื่อถึงวันแข่งจะได้ไม่เกิดปัญหานอนไม่หลับ
ทานอาหารรองท้อง
เลือกทานอาหารที่ไม่หนักท้องจนเกินไปก่อนวิ่งประมาณ 1-2 ชั่วโมง เช่น กล้วยหอม ให้พลังงานสูง (200 - 250 แคลอรี) ช่วยเพิ่มกำลังในการวิ่งได้ดี
ห้ามละเลยการ Warm Up และ Cool Down
ก่อนออกสตาร์ทให้ Warm Up ร่างกายทุกครั้ง ด้วยการขยับหรือยืดร่างกายโดยมีการเคลื่อนไหวไปมา (Dynamic Stretching) และหลังจากเสร็จสิ้นการวิ่งแล้ว ห้ามละเลยการ Cool Down ทำได้โดยการยืดแขนยืดขาค้างนิ่ง ๆ ไว้สัก 20 - 30 วินาที (Static Stretching)
ศึกษากติกาและมารยาทในการวิ่งเบื้องต้น
ก่อนออกวิ่งไปพร้อมกับคนหมู่มาก ควรศึกษากฎกติกามารยาทในการวิ่งเบื้องต้นไว้ล่วงหน้า เพื่อให้การวิ่งของเราไม่ติดขัด หรือรบกวนเพื่อนนักวิ่งคนอื่น เช่น
- วิ่งช้าชิดซ้าย วิ่งเร็วให้ไปทางขวา
- ถ้ามีเพื่อนวิ่งไปด้วยกัน ไม่ควรวิ่งขวางเป็นแนวหน้ากระดาน เพราะเป็นการรบกวนนักวิ่งคนอื่น ๆ และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
- ไม่ควรหยุดยืนบริเวณจุดรับน้ำ เพราะเป็นการขวางทางนักวิ่งคนอื่น ๆ ที่ต้องการเข้ามารับน้ำ เมื่อรับน้ำเรียบร้อยแล้วให้วิ่งหรือเดินต่อไป
- เมื่อเจอช่างภาพประจำงาน ไม่ควรตัดหน้าคนอื่น เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้
LOVE LIFE RUN 2024
งานวิ่งเพื่อแบ่งปันความรักและกำลังใจ
ใครที่พร้อมแล้วสำหรับการพิชิตเป้าหมายการวิ่งแข่งในระยะ Fun Run เตรียมตัวมาเจอกันได้ในงาน LOVE LIFE RUN 2024 งานวิ่งเพื่อสุขภาพ (Run for Self) ระยะทาง 5 กิโลเมตร จัดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา 05.00 - 09.00 น. ที่สวนวชิรเบญทัศ (สวนรถไฟ)
LOVE LIFE RUN 2024 เป็นงานวิ่งที่ บมจ.ไทยประกันชีวิต ร่วมกับ ThaiRun สนับสนุนให้คนไทยหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง โดยจัดกิจกรรม Virtual Run และ Virtual Activities รวมทั้งกีฬาประเภทต่าง ๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561
สำหรับ LOVE LIFE RUN 2024 มุ่งเน้นการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เช่น การลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ใช้ภาชนะใส่อาหารและแก้วน้ำกระดาษที่ย่อยสลายได้ รวมถึงเหรียญที่ระลึก RECYCLE รูปหัวใจสีน้ำเงินสามารถใช้เป็นที่วางแก้วได้อีกด้วย
นอกจากกิจกรรมวิ่งระยะ 5 กิโลเมตรแล้ว ภายในงานยังมีโซนถ่ายภาพที่สื่อถึงความรักหรือส่งต่อกำลังใจ พร้อมติดตั้ง QR Code บริจาคเงินเข้ากองทุนเพื่อชีวิตใหม่หัวใจเด็ก มูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ สำหรับผู้ที่รักและใส่ใจดูแลตัวเองแล้วอยากร่วมแบ่งปันมอบความรักด้วยการบริจาคเงินช่วยเหลือค่าผ่าตัด และส่งต่อกำลังใจให้กับน้อง ๆ ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
ซ้อมวิ่งให้สนุก แล้วมาบุกเบิกสนาม Fun Run ไปด้วยกันในงาน LOVE LIFE RUN 2024 ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา 05.00 - 09.00 น. ที่สวนวชิรเบญทัศ (สวนรถไฟ) สามารถสมัครได้ทาง Facebook Page : ThaiRun ฮับความสุขนักวิ่ง ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 นี้ เป็นต้นไป
อ้างอิง
- Origin. 5 เหตุผลที่การวิ่งในสวนดีกว่าการวิ่งบนลู่วิ่ง. https://bit.ly/3AnodLO
- วิ่งไหนดี. ก้าวแรกของมือใหม่ Fun Run ครั้งแรกเตรียมตัวอย่างไร. https://bit.ly/4e5Pb8u
- วิ่งไหนดี. 5K ยากแค่ไหน ต้องทำอะไรบ้าง. https://bit.ly/4e23cUH
- ไทยรัฐฉบับพิมพ์. เคล็ดลับ 5K. https://bit.ly/4hllhzY
- Wirtual. แนะนำ 9 สถานที่วิ่งสุดฮิตในกรุงเทพฯ เดินทางง่าย สะดวกสุดๆ. https://bit.ly/4hjNTtw