‘เนย วรัฐฐา - ฤทธิ์ กาไชย’ คู่รักต่างขั้วที่สนุกกับเรียนรู้กันและกันแบบไม่มีวันจบ

26 Feb 2024 - 10 mins read

Better Life / People

Share

เธอชอบกินผัก ฉันรักการกินเนื้อ เธอชอบอยู่เงียบ ๆ ส่วนฉันเซฟคลิปตลกไว้เพียบและเปิดดูทั้งวัน เธอมีความสุขกับการออกกำลังกาย งั้นฉันขอไปปาร์ตี้ให้สนุกสุดเหวี่ยงกับเพื่อน ๆ จนฟ้าสาง ฯลฯ

 

สองขั้วตรงข้ามเหล่านี้คือตัวตนของ เนย - วรัฐฐา กาไชย อดีตนักร้องดูโอ เนโกะ จัมพ์ (Neko Jump) และ ฤทธิ์ กาไชย นักบินหนุ่มแห่งสายการบินแอร์เอเชีย คู่รักที่เต็มไปด้วยความต่าง แต่กลับเติมเต็มมิติเหล่านั้นให้เข้ากันได้อย่างลงตัว โดยใช้ความรัก ความเข้าใจ และอีกหลายวิธีที่ช่วยหล่อเลี้ยงให้รักนั้นยืนยง

 

นับตั้งแต่วันแรกที่ทั้งคู่เริ่มต้นทำความรู้จักกันบนรถของฝ่ายชายที่เปิดคลิปตลกคาเฟ่คลอบรรยากาศตลอดทาง จนถึงวันนี้ ฤทธิ์ก็ยังเปิดดูคลิปตลกอย่างเสมอต้นเสมอปลาย โดยมีเนยผู้รักสันโดษและไม่เคยเข้าใจศาสตร์แห่งการตบมุกแม้แต่น้อย คอยอยู่เคียงข้างอย่างเข้าอกเข้าใจมานานเกือบสิบปี

 

“ถ้าเรายอมสูญเสียความเป็นตัวเองสัก 10% เพื่อที่จะอยู่กับอีกคนให้ได้ ลองชั่งน้ำหนักดูว่ามันคุ้มกันไหม ถ้าเรารู้สึกว่าคุ้มค่า แค่ 10% ที่เสียไปถือว่าเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับการได้อยู่กับเขาไปทั้งชีวิต” บางช่วงบางตอนจากบทสนทนาของเนย หญิงสาวผู้ไม่หยอดคำหวานพร่ำเพรื่อ หากเน้นใช้การกระทำแทนบทพิสูจน์ความจริงใจในแบบฉบับของตัวเอง

 

เช่นเดียวกับฤทธิ์ ชายหนุ่มที่ดูภายนอกเหมือนจะหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณด้วยอารมณ์ขันและความบันเทิงเป็นหลัก หากโดยเนื้อแท้ เขาคือสุภาพบุรุษผู้ยอมรับ ปรับตัว และจูนหัวใจให้เข้ากับตัวตนของภรรยา

ฤทธิ์ - วรัฐฐา กาไชย

 

ความรักของชายผู้คลั่งไคล้ตลกคาเฟ่กับหญิงสาวที่ไม่เข้าใจการตบมุก

 

เนย - “วันแรกที่เจอกันเป็นวันที่เนยกลับจากไปเที่ยวเกาหลี แล้วพี่ฤทธิ์อาสาขับรถมารับที่สุวรรณภูมิ ก่อนหน้านั้นเราเพิ่ง Chat คุยกันแค่ไม่กี่ครั้ง ดังนั้น พอเจอตัวจริงของเขาปุ๊บ เนยคิดในใจทันทีว่า ทำไมผู้ชายคนนี้แต่งตัวจัดมาก ใส่ชุดลายชนลาย ใส่หมวก ใส่แว่น ไว้หนวดเครา เกิดมาเนยยังไม่เคยคบผู้ชายแต่งตัวเยอะขนาดนี้” 

 

“พอเนยขึ้นรถ เขาก็เอาไอแพดมาวางตรงคอนโซลหน้ารถ แล้วเปิดรายการตลกเสียงดังลั่น เนยก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาแปลก คนปกติก็ต้องเปิดเพลงสิ แล้วเนยเป็นคนไม่เก็ตมุก เวลาเพื่อน ๆ เล่นมุกก็ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเขากำลังเล่นมุกอยู่ Sense ด้านความตลกของเนยเป็นศูนย์ ดังนั้น ที่ผ่านมาเนยจึงไม่เคยดูรายการตลกเลย เพราะดูไปก็ไม่เข้าใจ และปกติเวลานั่งรถเนยจะชอบบรรยากาศเงียบ ๆ อย่างดีก็เปิดเพลงฟัง การดูตลกบนรถครั้งนั้นเลยรู้สึกแปลกมาก แต่ก็นั่งเฉย ๆ เก็บข้อมูลไปก่อน”

 

ฤทธิ์ - “ผมชอบดูตลก ไม่รู้หรอกว่าคนอื่นจะชอบหรือไม่ชอบ แต่ถ้าไม่ชอบตลกก็คงแปลก ซึ่งเนยแปลก เขาดูปกติเหรอ (หัวเราะ) ผมแค่อยากเป็นตัวของตัวเองไปเลย ไม่เห็นจะต้องเปิดเพลงแจ๊สในวันแรกที่เจอกัน แล้วอีกเดือนนึงค่อยเปิดตลกคาเฟ่ดู” 

 

เนย - “พี่ฤทธิ์เป็นคนที่ดูตลกได้ตลอด 24 ชั่วโมง เข้าห้องน้ำ ขับถ่าย อาบน้ำ สระผม โกนหนวด แต่งตัว ต้องมีไอแพดวางแล้วเปิดตลก ขนาดตอนเขาหลับไปแล้วยังต้องเปิดตลกกล่อมตัวเองเข้านอน บางทีเรากดปิด เขาก็ตื่นมากดเปิดใหม่ ที่บ้านเลยมีเสียงตลกคาเฟ่ตลอดเวลา” 

 

ฤทธิ์ - “ผมดูตั้งแต่จี้เส้นคอนเสิร์ต ยุคที่เป็นวิดีโอถ่ายตามคาเฟ่อย่างนั้นเลย ซึ่งเนยจะไม่มีทางเข้าใจแน่นอน เพราะเป็นมุกลึกและยาก ไม่เหมือนตลกสมัยนี้ที่เอามาปรับใช้ให้เข้าใจง่ายขึ้น”

 

เนย - “แล้วคิดดู คนที่แค่ดูหนัง Comedy ยังไม่เข้าใจอย่างเนย ต้องมาเจอคนเปิดตลกในรถเสียงดัง รำคาญมาก แต่เราก็นั่งเฉย ๆ ในหัวคิดอยู่ไม่กี่อย่าง คิดแค่ผู้ชายคนนี้ชอบดูตลกและแต่งตัวจัด ทุกอย่างมันช่างสุด ๆ ไปเลย แต่ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย พอเขาไปส่งเราถึงบ้านก็ดูมีมารยาทดี เปิดประตูรถให้

 

ฤทธิ์ - “แต่ไม่ปิดนะ (หัวเราะลั่น) ทุกวันนี้ผมก็ยังเปิดประตูรถให้เขาอยู่…แต่ก็ยังไม่ปิดเหมือนเดิม (หัวเราะ)” 

 

เนย - “ตอนที่เนยเลิกกับแฟนเก่า เนยคิดว่าจะอยู่เป็นโสดดีกว่า เพราะเป็นคนโลกส่วนตัวสูง เวลามีแฟนแล้วรู้สึกว่ารุ่มร่ามต่อชีวิตมาก ดังนั้น พอพี่ฤทธิ์ทัก Chat มา แล้วเราได้ข่าวมาว่าคนนี้เป็นผู้ชายนิสัยไม่ดี เจ้าชู้ เลยตัดสินใจคุยกับคนนี้ดีกว่า จะได้มีคนเอาไว้คุยด้วยเล่น ๆ แก้เหงา วันไหนเราอยากอยู่คนเดียว เราก็อยู่ของเรา วันไหนเราเหงา อยากเจอกัน ก็ไปหาเขา เนยเลยตัดสินใจคุยกับพี่ฤทธิ์ โดยไม่ได้ตั้งใจว่าจะถึงขั้นแต่งงานอยู่ด้วยกันนานขนาดนี้” 

 

“อีกอย่างคือ เนยเป็นคนขี้เบื่อเลยชอบอะไรใหม่ ๆ ที่ช่วยเปิดโลกให้ตัวเอง และเนยเป็นคนเงียบ ถ้าอยู่กับคนเงียบอีกคนไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้ ซึ่งพี่ฤทธิ์เขาแปลกดี น่าตื่นเต้น มีความน่าสนใจอยู่ตลอดเวลา”

 

ฤทธิ์ - “ส่วนเนยก็ชาเลนจ์ผมมากเหมือนกันนะ เขาคือคนที่ไม่ตลกมุกของเรา เป็นไปได้ยังไง (หัวเราะ) ผมชอบที่เขาเป็นตัวของตัวเอง เราเลยไม่ต้องเสียเวลาค้นหาว่าตัวตนจริง ๆ ของคนคนนี้เป็นยังไง เขาเป็นตัวของตัวเองตั้งแต่แรก เป็นคนแมน ๆ เข้าใจสิ่งที่ตัวเองชอบและซื่อสัตย์กับตัวเอง”

 

เนย - “ตอนแรกเนยไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานเลย แค่สบายใจที่ได้คุยกัน ได้ไปเที่ยวด้วยกัน เขาจะขอเป็นแฟนหรือไม่ จะขอแต่งงานรึเปล่า เนยก็ไม่ได้สนใจ แค่อยากอยู่ด้วยกัน ถ้าวันนึงเขาไม่อยากอยู่กับเราแล้วก็ไม่ต้องอยู่ เนยเป็นคนไม่ได้สนใจ
สเตตัสเท่าไหร่ ณ ปัจจุบันเราพอใจอย่างไรก็อยู่ไปอย่างนั้น แต่บังเอิญพี่ฤทธิ์ขอแต่งงานตอนไปเที่ยวออสเตรเลียด้วยกัน ซึ่งเนยก็ตกใจเหมือนกัน เพราะไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อน ไม่ได้ตั้งตัว งงเหมือนกันนะว่าเราต้องแต่งงานเหรอ แต่ก็ตื่นเต้นดี ชอบ (ยิ้ม)” 

 

ฤทธิ์ - “ผมไม่ได้คิดว่าชีวิตจะต้องมีแพทเทิร์น แต่นี่เป็นอีกสเต็ปของความสัมพันธ์ ถ้าเรารู้สึกโอเคแล้วกับคนนี้ เราอยากให้เขาอยู่กับเราตลอดไป แล้วยังไงล่ะ จะจับล่ามโซ่มันก็ไม่ใช่ ความสัมพันธ์ก็มีแค่เพิ่มขึ้นอีกสเต็ป ถ้าเรารู้สึกว่าคนนี้คือคนที่ใช่ ก็แค่แต่งงานกัน” 

 

เข้าใจ ไว้ใจ ให้เกียรติกันและกัน

 

เนย - “ช่วงที่คบกันแรก ๆ เนยทะเลาะกับพี่ฤทธิ์เรื่องการไปกินเหล้าสังสรรค์ของเขาบ่อยมาก เพราะเวลาเขาเมาจนถึงระดับหนึ่งจะชอบพูดจาทิ่มแทงคนอื่น สุดท้ายเนยเลยไม่ออกไปปาร์ตี้กับเขา เพราะไม่อยากโดนร่างแหทางความรู้สึกอยู่ตรงนั้น และถ้าเขารู้ตัวว่าจะกินเหล้าเยอะจนถึงตี 1-2 เนยจะบอกเขาเลยว่าให้ไปนอนที่อื่น ไม่ต้องขึ้นห้องมานอนบนเตียงเดียวกัน เพราะเนยอยากนอนหลับสบาย ๆ ไม่อยากทะเลาะและขี้เกียจฟังเสียงกรนของเขาจนตัวเองนอนไม่หลับ”

 

“เนยไม่โทรตามจิกพี่ฤทธิ์กลับบ้าน เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเขาไปกินเหล้ากับเพื่อน แปลว่าเขาก็ต้องอยู่กับเพื่อน บางทีเพื่อนอาจจะเรียกผู้หญิงมาก็ได้มั้ง เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เนยเป็นคนไว้ใจจึงไม่มานั่งโทรตาม เพราะถ้าเขาไม่ได้ทำผิดอะไรแล้วเรามานั่งตามจิก มันน่ารำคาญ โดยส่วนตัวเป็นคนขี้รำคาญเลยเข้าใจอารมณ์ของการถูกถามซ้ำ ๆ ว่า อยู่ไหน ทำอะไร อยู่กับใคร จนทำให้จากที่เราไม่คิดว่าจะมีใคร เลยมีซะเลยแล้วกัน รำคาญ ตามอยู่ได้” 

 

“เนยคิดแค่ถ้าวันนึงเราจับได้ว่าเขานอกใจ ค่อยไปคิดเอาตอนนั้นว่าจะเอายังไง ถ้ารับได้ก็ไปต่อ รับไม่ได้ก็เลิก มันไม่ได้ยาก เนยก็เลยไม่ตาม พอไม่ตามเขาก็สบายใจเลย บางทีหายไปสองวันจนทั้งเพื่อนและน้องชายเขาต้องโทรมาตามกับเนยว่า วันนี้มีประชุมนะ มีนัดทานข้าวกับคุณแม่นะ พี่ฤทธิ์อยู่ที่ไหน เนยก็ตอบว่าไม่รู้จะตามจากไหนเหมือนกัน ติดต่อไม่ได้ค่ะ เราก็ลอย ๆ ของเราไป เพราะเป็นเรื่องของเขา แต่ถ้าเป็นธุระที่กระทบกับเรา เนยถึงจะโกรธ”

 

ฤทธิ์ - “เนยเป็นผู้หญิงที่รู้จักการวางตัวในความสัมพันธ์ไม่ให้กระทบความรู้สึกของอีกฝ่าย เขาเคลียร์กับความรู้สึกตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องไปเบียดเบียนความรู้สึกของอีกคน อย่างที่เขาบอกว่าถ้าเราคิดว่าเขามีคนอื่นตั้งแต่แรก คนที่จะทุกข์ก็คือตัวเราเองด้วย แล้วก็จะทำให้อีกฝ่ายที่อาจจะยังไม่ได้ทำอะไรผิด กลายเป็นทุกข์ไปด้วย เกิดเป็น Toxic ในความสัมพันธ์ เนยจึงไม่ตีตนไปก่อนไข้ เกิดเรื่องค่อยว่ากัน เลยทำให้ชีวิตคู่อยู่ได้ เพราะต่างคนต่างไว้ใจกัน และยิ่งเขาทำให้เราขนาดนี้ เราจะทำให้เขาเสียใจได้ลงคอเหรอ”

 

เนย - “อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับผู้หญิงในการจัดการกับความหวาดระแวงหรือคิดมาก ซึ่งเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลในการจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง สำหรับเนยเลือกที่จะจัดการด้วยการไม่สนใจ ผู้ชายย่อมอยากเที่ยวกับเพื่อนเป็นเรื่องธรรมดา ปล่อยให้เขาไปเริงร่าเถอะ ห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์”

 

“ที่จริงก็เหมือนเป็นจิตวิทยาด้วย เหมือนเวลาเรายิ่งห้ามเด็ก เด็กก็จะยิ่งทำ ถ้าเราไม่ห้าม แล้วเขามีมนุษยธรรมมากพอ เขาก็จะรู้สึกว่า ดูสิ เขาอุตส่าห์ไว้วางใจเราขนาดนี้ เรายังจะกล้าทำอีกเหรอ ดังนั้น เขาจะไม่ทำผิดหรอก แต่เท่าที่คุยกับเพื่อนผู้หญิงหลาย ๆ คนมักจะบอกว่าทำแบบเนยไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาวิธีจัดการความรู้สึกของตัวเอง เนยเชื่อว่าแต่ละคู่มีวิธีที่ไม่เหมือนกัน ไม่ได้มีบรรทัดฐานว่าชีวิตคู่จะต้องอยู่ด้วยกันอย่างไร”

 

สลายอัตตา ปรับตัวเข้าหากัน

 

เนย - “สิ่งสำคัญในการอยู่ร่วมกันน่าจะเป็นการเข้าใจทั้งเราและเขา เราจะมัวแต่เข้าใจเขาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเข้าใจด้วยว่าตัวเองต้องการอะไร อยากมีชีวิตคู่แบบไหน บางครั้งเวลาอยู่ในความสัมพันธ์คนเรามักจะลืมนึกถึงตัวเอง ซึ่งถ้าเราไม่รู้จักตัวเองดีพอ แล้วเราจะปรับตัวให้เข้ากับเขาได้ยังไง ดังนั้น ความเข้าใจทั้งต่อตัวเองและคู่ชีวิตเป็นเรื่องสำคัญมาก”

 

“เนยเป็นคนที่มีอัตตาสูงจึงต้องยอมเสียสละตัวตนสัก 10% ซึ่งคุ้มค่าพอที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่กับเขา มันเป็นเรื่องของการตัดสินใจ ความเข้าใจ การพูดคุยสื่อสาร และการจัดการที่ดีร่วมกัน เช่น ถ้าเราเกิดปัญหาระหว่างกัน จะหาทางออกยังไง บางคู่เลือกที่จะคุย แต่คุยแบบไหน คุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน หรือคุยเพื่อเอาชนะว่าใครถูกใครผิด”

 

ฤทธิ์ - “เราสองคนรู้จักกันมาจะสิบปีแล้ว ทะเลาะกันประมาณ 4 ครั้ง แต่เวลาทะเลาะกันแต่ละครั้งก็ค่อนข้างรุนแรงทางความรู้สึก”

Photo: Waruttha Karchai

 

เนย - “เราไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องหยุมหยิม มักจะเป็นการทะเลาะที่ต้องกลับมานั่งคิดกับตัวเองว่า เรารู้สึกอย่างไร และเราจะเอายังไงต่อ เวลาที่รู้สึกไม่ดี เนยจะต้องอยู่ห่างจากเขา ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้  บางทีเวลาทะเลาะกัน เนยจะหลบไปนอนบ้านแม่สักสองสามคืน เพื่อใช้เวลาอยู่กับตัวเองเยอะ ๆ ขอตกผลึกทางความคิดและอารมณ์ก่อนค่อยกลับไปคุยกัน ถ้าทะเลาะแล้วให้คุยปรับความเข้าใจทันทีเป็นวิธีที่ไม่เวิร์กสำหรับคู่เรา ด้วยนิสัยของตัวเองเป็นคนสันโดษ การอยู่เงียบ ๆ คนเดียวทำให้เนยรู้สึกแฮปปี้ขึ้น ซึ่งช่วงแรกพี่ฤทธิ์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน จนตอนหลังเขาก็รู้แล้วว่าถ้าเป็นแบบนี้ปล่อยเนยไปก่อน แล้วค่อยกลับมาคุยกันอีกที”

 

ฤทธิ์ - “ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ แต่ด้วยงานของผมที่ต้องเจอคนเยอะและหลากหลายเชื้อชาติ ผมเลยไม่ได้รู้สึกว่าเนยเข้าถึงยาก เพราะจริง ๆ แล้วฝรั่งส่วนมากก็เป็นคนแบบนี้แหละ มีตัวตนสูง เคารพสิทธิ์ของตัวเอง ไม่ควรที่คนอื่นจะมาเบียดเบียน ผมเลยชินกับการที่เขาเคารพความเป็นตัวตนของทั้งเขาและเรา” 

 

“อีกอย่างผู้ชายเราต้องเข้าใจธรรมชาติของผู้หญิงด้วย อย่างเนยจะอารมณ์หงุดหงิดง่ายช่วงก่อนจะมีประจำเดือน ผมก็จะบอกเขาว่าให้ระเบิดอารมณ์ออกมาเลย ไม่ต้องเก็บไว้ ยังไงผมก็ต้องอยู่อย่างนี้ทุกเดือนไปอีกหลายสิบปี ขืนเก็บไว้แล้วไปออกเหลี่ยมอื่น เราเดาทางไม่ถูก พูดออกมาจะได้จบ ๆ” 

 

เนย - “ตอนหลังพี่ฤทธิ์เลยดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นสำหรับนับวันไข่ตกไว้เลย พอใกล้ถึงช่วงที่เนยจะมีประจำเดือน เขาจะคอยมาเตือน เราเองจะมีได้มี Awareness รู้เท่าทันความรู้สึกตัวเอง จะได้เบา ๆ ลงหน่อย ไม่งั้นเราจะพุ่งไปโดยไม่รู้ตัว”

 

ฤทธิ์ - “สมมติว่าเขาจะมีประจำเดือนระหว่างวันที่ 15 - 20 ผมก็จะไปขอตารางบินสักวันที่ 13-14 ขอบินไปอยู่ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แล้วค่อยกลับมาเจอกัน (หัวเราะ) ไม่ทำแบบนี้ได้ยังไงล่ะครับ เวลาระเบิดลง ลงที่ผมคนเดียว ไม่งั้นเราจะเจ็บฟรี (หัวเราะ)”

Photo: Waruttha Karchai

 

คำตอบของสมการชีวิตคู่ในแบบ Noey Rit With You

 

ฤทธิ์ - “ด้วยอาชีพของเราสองคนอาจจะวางแผนแบบเป๊ะ ๆ ไม่ได้ว่าจะอนาคตจะต้องเป็นยังไง อย่างงานในวงการของเนย ยิ่งอายุมากขึ้น กราฟเรื่องงานก็จะยิ่งตกแน่ ๆ งานของผมก็เหมือนกัน ตอนได้เป็นนักบินผมมั่นใจเลยว่าชีวิตจะสบายไปจนถึงอายุ 65 แน่นอน เพราะตั้งแต่มีเครื่องบินลำแรกของโลก ไม่มีนักบินคนไหนเคยโดนไล่ออก ถือเป็นอาชีพที่มั่นคงที่สุด แต่พอเกิดโควิดปั๊บ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การบินของโลกที่อยู่ดี ๆ ท้องฟ้าโปร่งไม่มีเครื่องบินสักลำ ตอนนี้ผมก็เลยทำธุรกิจอื่นควบคู่ไปด้วย และพยายามให้เนยหาอะไรทำ เพื่อออกจากตรงนี้”

 

เนย - “เนยอยากทำอะไรที่ไม่เกี่ยวกับวงการมาสักพักใหญ่แล้ว แต่ยังหาไม่เจอว่าเราจะไปอยู่ตรงไหนดี เพราะตัวเองเป็นคนเยอะคนนึง งานประจำก็ไม่ชอบ งานในวงการก็ไม่อยากทำ ไม่ชอบเจอคน งานที่เนยนึกออกคือ อยากไปอยู่เกาะ สอนดำน้ำ ซึ่งน่าจะยังทำจริง ๆ ไม่ได้ในตอนนี้ กำลังคิดอยู่ว่าหรือเราก็ไม่ต้องทำเฉพาะสิ่งที่ชอบหรอก ลองทำในสิ่งที่เราไม่ได้ชอบ แต่ทำได้ดีก็ได้ แต่ก็ไม่อยากทำงานในวงการแล้ว เหนื่อยกับการต้องคอยอัปเดตตัวเองตลอดเวลา ต้องเอาเรื่องส่วนตัวออกมาเล่า ไม่งั้นคนจะไม่สนใจ”

 

“เนยก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเนยมาเป็นนักร้องได้ยังไง เพราะตรงข้ามกับนิสัยของตัวเองมาก ๆ ถึงจะชอบร้องเพลง ชอบการแสดง แต่ไม่ชอบการเป็นดารา ซึ่งทุกวันนี้มันต้องเป็นแบบนั้น ต้องเล่นโซเชียลตลอดเวลา และเอาตัวเองไปผูกอยู่กับเรื่องที่เป็นกระแส ซึ่งมันไม่ใช่ตัวตนของเนยเลย” 

Photo: Waruttha Karchai

 

“อย่างตอนที่ทำรายการ Noey Rit With You ด้วยกัน เพราะเป็นช่วงโควิดที่พี่ฤทธิ์ยังไม่ได้กลับไปบิน เลยหาอะไรทำแก้ฟุ้งซ่าน ส่วนมากเป็นคอนเทนต์ไปกิน ไปเที่ยว ซึ่งก็เหนื่อยเหมือนกัน ไม่ใช่แค่ถ่ายอะไรมาลงก็ได้ คุณภาพของกล้องและการตัดต่อต้องดี แถมยังมีเรื่องหลังบ้านของ YouTube เช่น คำนี้พูดไม่ได้ ภาพนี้เห็นไม่ได้ มันเต็มไปด้วยรายละเอียด จนตอนนี้พอจบ Episode 2 เลยหยุดทำไปก่อน เนยคิดว่าถ้าจะทำรายการเพื่อให้สร้างรายได้จริง ๆ จัง ๆ เราก็ต้องมีเวลาให้กับมันมากพอ ถ้าเป็นงานอดิเรกคงเป็นไปไม่ได้ เนยเลยอยากลองไปทางอื่นที่ไม่เกี่ยวกับงานในวงการ 

 

ฤทธิ์ - “หรืออาจจะเปลี่ยนชื่อรายการเป็น ฤทธิ์สุรากับมาการีน (หัวเราะ)”  

Photo: Waruttha Karchai

 

เนย - “นอกจากเรื่องงานที่ต้องคิด ยังมีเรื่องลูกที่คนรอบตัวชอบเชียร์ให้เนยมีลูก ผู้ใหญ่ก็อยากให้มี พี่ฤทธิ์เองก็อยากมีลูก แต่เนยรักสันโดษ ถ้ามีลูกชีวิตนี้จะสันโดษไม่ได้อีกแล้ว แถมยกเลิกไม่ได้ด้วย เป็นสัญญาผูกขาดตลอดชีวิต เนยกลัวว่าถ้ามีลูกแล้วตัวเองจะไม่มีความสุข ทำให้ชีวิตคู่พัง แล้วชีวิตเนยก็จะพังไปด้วย เนยจะต้องขาดอิสระ อย่างน้อยก็ช่วงที่เราเลี้ยงเขาตอนเด็ก ๆ แต่ต่อให้เขาโต ก็เหมือนเป็นพันธะทางจิตวิญญาณไปแล้ว ไม่มีทางที่เราจะไม่ห่วงเขา เนยไม่อยากมีความรู้สึกมานั่งห่วงนั่งพะวงว่าชีวิตเขาจะต้องเป็นยังไง ไหนจะเศรษฐกิจอีก ไม่อยากมีลูกยุคนี้ ไม่อยากให้ลูกมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีพอ” 

 

“หรือถึงแม้เดี๋ยวนี้ผู้หญิงสามารถฝากไข่ได้ก็จริง แต่ถ้าเราตัดสินใจมีลูกตอนอายุ 45 ปี ต่อให้ไข่เราแข็งแรงดี แต่เราจะฟื้นฟูร่างกายและพละกำลังในการสู้รบกับเด็กทารกได้เหรอ เนยกลัวว่าจะไม่รักลูกตัวเอง เพราะลูกทำให้ฉันขาดอิสระ กังวลเรื่องที่ตัวเองจะไม่แฮปปี้แล้วทุกอย่างจะแย่ ตอนนี้เราไม่มีลูกชีวิตก็แฮปปี้ดีอยู่แล้ว ไม่มีลูกเป็นพันธะ สมมติว่าในอนาคตเราสองคนไปกันไม่ได้จริง ๆ การลดสถานะเป็นแค่เพื่อนหรือพี่น้องก็ยังง่าย แต่พอมีลูกทุกอย่างมันดูยากไปหมด” 

เนยกับฤทธิ์และนาทาชา

Photo: Waruttha Karchai

 

“ผู้หญิงบางคนเกิดมาเพื่อที่จะเป็นแม่คน ส่วนเนยไม่มีความ Motherhood อยู่ในตัวเลย แทบจะเห็นแก่ตัวเลยก็ว่าได้ ฉันอยากแฮปปี้ ไม่พร้อมจะเสียสละ ซึ่งเนยก็พยายามหามุมมองบางอย่างให้เรารู้สึกโอเคพอถึงจะมีลูก ไม่อยากมีทั้ง ๆ ที่ความรู้สึกของตัวเองยังไม่พร้อม ตอนนี้วางแผนคร่าว ๆ ไว้ว่าอาจจะอีกสักสองปีถึงจะมีลูก ช่วงนี้พยายามทำใจอยู่ ขนาดตอนนี้แค่เลี้ยงนาทาชา (สุนัขพันธุ์บอร์ซอยของทั้งคู่) ยังคิดถึงแต่นาทาชาทั้งวัน ตอนแรกไม่ได้อยากเลี้ยง แต่พี่ฤทธิ์เอามาเลี้ยงแล้วพอเรามีเราก็รักไง ถามว่าดีไหม ก็ดี แต่มีแค่เรา ชีวิตจะง่ายกว่านี้ พอมีอะไรที่เราต้องรัก ต้องเป็นห่วง ชีวิตจะเริ่มเหนื่อยแล้ว” 

 

ฤทธิ์ - “ก่อนหน้านี้ผมอยากมีลูกมาตลอด แต่พอหลังจากเกิดโควิด แล้วอาชีพนักบินเจอผลกระทบหนักที่สุด ผมเลยรู้สึกว่าถ้าคนที่เรารักเกิดมาแล้วต้องเจออะไรแบบนี้ คงแย่ สมมติว่าเขาเป็นใครก็ไม่รู้ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ แล้วอยู่ดี ๆ เราไปดึงเขาลงมาเกิด ทำให้เขาต้องเจอเรื่องแย่ ๆ ผมไม่อยากเป็นส่วนนึงในการทำร้ายเขาในอนาคต ความรู้สึกของการอยากมีลูกเลยเบาลง เหมือนอย่างที่เนยบอกว่า ทุกวันนี้ชีวิตของเราสองคนก็ดีอยู่แล้ว แต่ถ้ามีลูกก็สบายเลยครับ เด็กคนนั้นจะเป็นมหาเศรษฐี ทายาทคนเดียวของตระกูลกาไชย (ยิ้ม)”

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...