‘KP ตะลอนแหลก’ บล็อกเกอร์สายกินที่ลดน้ำหนักได้ 35 โลแบบรักตัวเองและยังมีความสุขกับอาหารอร่อย

27 Mar 2024 - 5 mins read

Better Life / People

Share

หากจะพูดถึงนักรีวิวอาหารแถวหน้าของประเทศไทย เชื่อว่าต้องมีชื่อของ ‘KP ตะลอนแหลก’ ขึ้นมาเป็นช่องแรก ๆ เพราะช่องนี้เล่าเรื่องสนุก กินอะไรก็ดูน่าอร่อย พาเราไปตะลอนเที่ยว ตะลอนกินทุกตรอกซอกซอยทั่วฟ้าเมืองไทย จนทำให้ปัจจุบันมีผู้ติดตามหลักล้านบน TikTok และได้รับรางวัลสุดยอดครีเอเตอร์จากหลายเวที 

 

แพร - กิตติ์ธัญญา เวชกุลไชยพงศ์ คือหญิงสาวแก้มกลม ๆ ที่อยู่ในทุกคลิปและเป็นเจ้าของช่องนี้ หากใครติดตามเธอมาตลอดจะพบว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับแพรในช่วง 1 ปีให้หลังมานี้ หลายคนคงสังเกตได้ว่าแก้มกลม ๆ ของเธอเริ่มหายไปและดูสดใสมากขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าเธอหันมาออกกำลังกายอย่างจริงจัง และลดน้ำหนักลงไปได้กว่า 35 กิโลกรัม  

 

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อรรถรสในการกินของอร่อยน้อยลงแต่อย่างใด เพราะแพรยังคงมีความสุขกับการกินไปพร้อม ๆ กับการออกกำลังกาย เราจึงอยากชวนผู้อ่านเข้าไปสำรวจโลกของอาหารและการดูแลตัวเองในแบบของแพร ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้คือเรื่องที่ทำให้เธอมีความสุขในทุก ๆ วัน

 

จุดเปลี่ยนที่ทำให้ตัดสินใจลดน้ำหนักคืออะไร

“2 ปีที่แล้ว น้ำหนักไต่ขึ้นไปถึง 122 กิโลฯ เราเริ่มรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ ที่หัวเข่า เรารู้สึกว่าข้อเข่าฉันไม่ไหวแล้ว แล้วที่สำคัญเราลดเพราะลูกด้วยค่ะ ช่วงนั้นลูกกำลังน่ารักเลย เราก็อยากอยู่กับลูกไปนาน ๆ แต่อีกส่วนหนึ่งคือคนบนโซเชียลเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราลด”

 

“เราคิดว่าเราอาจจะเป็นพวกโรคแทรกซ้อนขึ้นมาก็ได้ อย่างพวกเบาหวาน ความดันฯ โรคหัวใจ โรคไต คุณย่าของเรามีโรคประจำตัวพวกนี้ ตอนแรกเราไม่ได้อ้วนแต่ไม่ดูแลสุขภาพเลยทำให้มีโอกาสเป็นได้ และคนส่วนใหญ่ก็ตายเพราะโรคพวกนี้กันเยอะ คุณย่าเสียตอนอายุแค่ 55 ปี ส่วนคุณพ่อก็เสียตอนอายุแค่ 45 ปี เราเลยคิดว่าบ้านนี้จะมีคนที่ตายตอนอายุ 35 ปี หรือเปล่านะ (หัวเราะ)”

 

“อายุคนสั้นลงในทุก ๆ เจเนอเรชั่น เราเลยคิดว่าถ้าดูแลสุขภาพอาจจะอยู่ได้นานขึ้น”

 

คิดว่าอาชีพนักรีวิวอาหารมีส่วนทำให้คุณแพรน้ำหนักขึ้นด้วยไหม

“มีค่ะ ปีก่อนตอนที่เริ่มทำช่องแบบจริงจัง เรากินเยอะมาก เราไปรีวิวอาหารตามงานวัดมันก็เป็นสตรีทฟู้ดที่อร่อยแต่พลังงานสูงแล้วทำให้อ้วนง่าย และเราไม่ได้ออกกำลังกาย ถ่ายงานเสร็จ กลับมานอน แล้วก็ออกไปหาของกินต่อ นอกจากในคลิป หลังกล้องเราก็กินเยอะแยะเลย คือเราเป็นคนชอบชิม ชอบกิน  และของที่เรากินส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารหวาน ๆ มัน ๆ ของอร่อยก็จะรสชาติแนวนี้หมด แล้วแพรเป็นคนไม่ชอบกินผักด้วย ผักจืด ๆ มันไม่ค่อยอร่อย (หัวเราะ)”

 

เคยลองลดน้ำหนักมาแล้วกี่ครั้ง ผลเป็นอย่างไร 

“เคยช่วงวัยรุ่น เรากินยาลดความอ้วน พอกินแล้วก็ลดได้เหมือนกันนะ แต่มันย้วยไปหมด หนังกระเพื่อมทั้งตัวเลย เพราะมันลดเร็วเกินไป เป็นการลดที่ผิดวิธี เคยไปเสียตังค์เข้าคอร์สด้วย ก่อนทำเขาก็พาเราไปชั่งน้ำหนัก จากนั้นก็เอาเครื่องอุ่น ๆ มานวดที่หน้าท้อง แล้วก็ให้เราไปเข้าห้องน้ำและกลับมาชั่งให้เห็นว่าน้ำหนักลดลงไปแล้ว มันคือการหลอกลวง น้ำหนักมันน้อยลง แต่ไม่ได้ลดจริง ๆ”

 

“ปีนี้เลยกลับมาลดจริงจังอีกรอบ เราออกกำลังกายมากขึ้น แต่ไม่ได้ควบคุมอาหารหนักมากเหมือนแต่ก่อน เราอยากจะกินของหวาน ของทอด ไอศครีม เราก็ยังกินได้ เราอ้วนนะแต่เราสามารถกินทุกอย่างได้ในปริมาณที่ไม่เยอะจนเกินไป เราใช้วิธีบาลานซ์ บางวันเราออกกำลังกายจนเหนื่อย ไม่อยากกินเยอะ เราก็กินแค่ให้พอหายอยาก”

 

ความยากของการเริ่มต้นออกกำลังกายในช่วงแรกคืออะไร 

“หลายอย่าง อย่างแรกเลยคือการบริหารเวลา คนส่วนใหญ่จะทำงานกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า แต่เราเลือกออกกำลังกายตอนเช้า เลยต้องขยับเวลาทำงานออกไป ทำให้ทำงานเลทแล้วก็นอนดึก ซึ่งการนอนดึกไม่ดีกับการลดน้ำหนักเลย พอเรานอนน้อย วันต่อมาก็รู้สึกเพลีย”

 

“ช่วงแรก ๆ น้ำหนักเรายังเยอะมาก เล่นท่าอะไรก็ไม่ค่อยได้ จะกระโดดก็ไม่ได้ต้องระวังไม่ให้ข้อเข่ากระแทก เราต้องออกกำลังกายแบบเบา ๆ” 

 

“เรื่องเสื้อผ้าด้วยค่ะ ชุดออกกำลังกายคนอ้วนหายากมาก มีคนมาถามพิกัดชุดออกกำลังกายเยอะมาก เพราะปกติแล้วแบรนด์ต่าง ๆ เขาไม่ค่อยทำไซส์สำหรับคนรูปร่างใหญ่ แล้วเสื้อผ้าออกกำลังกายก็ไม่ใช่ราคาถูก ๆ แค่ชิ้นเดียวอาจแพงกว่าชุดไปรเวทของเราอีก ถ้าผ้าถูกก็ไม่ดีด้วย พอไม่มีชุดที่ใส่สบายตัวไปออกกำลังกาย ไหนจะผ้าหนัก ระบายเหงื่อยาก ไหนจะอึดอัดกางเกงฟิตเกิน ใส่ไม่สะดวก ความยุ่งยาก วุ่นวาย ทำให้หลายคนไม่อยากออกกำลังกาย”

 

“และอุปสรรคข้อสุดท้ายคือ ความขี้เกียจ คนเราทำงานวัน ๆ หนึ่งก็เหนื่อยแล้ว แทนที่จะเอาเวลาที่เหลือไปหาความสุข นอนดูซีรี่ส์ ไปหาอะไรอร่อย ๆ กิน กลับต้องมาออกกำลังกายทั้งที่เสียเงินด้วย เหนื่อยด้วย”

 

คุณผ่านช่วงแรกที่ว่าหนักหน่วงนี้ไปได้อย่างไร

“พอเราทำแล้วเห็นผล ร่างกายกระชับขึ้น น้ำหนักลดลง ขึ้นไปชั่งน้ำหนักแล้วชื่นใจ กางเกงที่เคยใส่ไม่ได้ก็กลับมาใส่ได้ เราเลยทำต่อ เรารู้สึกว่าเดินเหินแล้วคล่องแคล่วขึ้น จากตอนแรกแค่จะนอนก็อึดอัดแล้ว ก่อนจะลดน้ำหนัก เวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศแล้วต้องขึ้น-ลงบันได เดินไปได้แค่ครึ่งเดียวก็หอบแล้ว รู้สึกว่าไม่ไหว แต่หลัง ๆ พอออกกำลังกายเราเดินได้แบบไม่รู้สึกหอบเลย และตัวเบาขึ้นด้วย”

 

“ตอนนี้น้ำหนักลงไป 35 กิโลแล้ว เราก็ยังใจดีกับตัวเอง มีกินจุ๊บกิบจิ๊บบ้าง แต่ก็เสมอตัว น้ำหนักไม่ขึ้นเพราะเราออกกำลังกายมันได้เผาผลาญไปด้วย แต่ถ้าเราหยุดออกกำลังกายแล้วกินอย่างเดียวเมื่อไหร่ มันก็อาจจะขึ้นมาอีกก็ได้”

 

ทำอย่างไรให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่อง

“แพรว่าต้องทำให้เป็นรูทีนในชีวิตประจำวัน เราอย่าคิดว่าเราจะทำแค่ตอนมีเวลาว่าง เราต้องมองว่ามันคือหน้าที่อย่างหนึ่ง เพราะถ้าเราคิดว่าต้องทำแค่ช่วงว่าง เราก็จะมีข้ออ้างให้กับตัวเองว่าถ้าเราไม่ว่างเราก็จะไม่ทำ ทั้งการออกกำลังกายและการรีวิวอาหาร”

 

“คนทำงานออฟฟิศเขาอาจมีตารางเวลาของเขา แต่สำหรับแพรงานคือชีวิตไปแล้ว มันเหมือนเราต้องทำงานตลอดเวลา ขนาดไปเที่ยวเราก็ไม่ได้ไปเดินชิล แต่สมองจะทำงานไปด้วยว่าเราจะเอาอะไรมาเป็นคอนเทนต์ดีไม่ให้มันน่าเบื่อ รู้สึกว่าเราทำได้ทุกวัน ถ้าเราเอาทุกอย่างมาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา” 

 

ใน 1 สัปดาห์คุณแพรออกกำลังกายอย่างไร

“แพรจะออกกำลังกายสัปดาห์ละ 4 วัน มีทั้งการเล่นเวท เล่นเซอร์กิตเทรนนิ่ง และมีการคาร์ดิโอตบท้ายทุกวัน เวลาเล่นเวทเราจะเล่นแบบเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แล้วแต่ความพร้อมของร่างกาย วีคหนึ่งเราจะไม่เล่นอะไรซ้ำ ๆ เพื่อให้ร่างกายได้พักสร้างกล้ามเนื้อ กินอาหารบำรุง มันถึงจะได้ผลดี บางทีการโหมออกกำลังกายก็ไม่ได้เป็นผลดีกับร่างกาย”    

 

“การมีเทรนเนอร์สำหรับแพรเป็นเรื่องดี เพราะบางทีถ้าเราเล่นท่าผิดก็อาจทำให้บาดเจ็บได้ บางทีเราก็ต้องมาบาดเจ็บในส่วนที่เราไม่ควรจะต้องเจ็บ การมีเทรนเนอร์ที่เชี่ยวชาญจะช่วยดูแล ดูฟอร์ม สอนการเล่น ดูน้ำหนักที่เราเหมาะสม คอยจัดโปรแกรมการเล่นให้เราได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเล่นโปรแกรมเดียวกันได้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับรูปร่าง พฤติกรรมของเรา ถ้าเล่นหนักเกินไปก็อาจทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ เอ็นฉีกขาด แล้วถ้าบาดเจ็บข้างในก็จะใช้เวลารักษานาน”

 

มีคนมากมายที่อยากจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณแพรอยากจะบอกอะไร 

“จริง ๆ แพรไม่ได้เชียร์ให้ทุกคนมาจ้างเทรนเนอร์ทันที อยากให้ทุกคนลองเริ่มต้นจากการเดินเบา ๆ ออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยตัวเอง หรือลองเลือกกินอาหารดี ๆ ก่อนให้ได้สัก 1-2 เดือน แล้วชัวร์กับตัวเองว่าเราพร้อมที่จะลุยต่อ ไม่อยากให้หักดิบออกกำลังกาย อดอาหาร งดน้ำตาล เชื่อว่าทุกอย่างมันทำให้น้ำหนักลงได้ แต่มันไม่ยั่งยืน เพราะวันไหนที่เรารู้สึกว่าไม่อยากทำแล้ว ก็อาจจะกลับมาอ้วนได้อีกครั้ง”

 

“สำหรับแพร มีบางช่วงที่น้ำหนักไม่ลงอยู่เรื่อย ๆ แล้วเราก็รู้ตัวว่าช่วงนั้นกินเยอะไป อาจจะกินของทอดเยอะเกิน เราก็แค่ทำความเข้าใจว่าเราต้องใช้พลังงานออกไปให้มากกว่าที่เราเอาเข้ามา มันเป็นกฎง่าย ๆ ที่ทำให้เราไม่ต้องไปอดอาหารอีก”

 

การลดน้ำหนักทำให้งานรีวิวอาหารเปลี่ยนไปไหม 

“ปกติเราจะกินหมดจานเลย แต่พอหลัง ๆ เราจะกินแค่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเราก็แบ่งคนอื่นกินบ้าง ไม่โลภกินคนเดียวหมดอีกแล้ว”

 

“แต่แพรยังอยากแฮปปี้กับการกิน แพรไม่อยากรู้สึกว่าพอเราลดน้ำหนัก เราต้องไม่กินอะไรเลย ต้องห้ามทุกอย่าง เราแค่อยากให้ทุกคนสนุกกับการใช้ชีวิตเหมือนกัน ทุกคนสามารถออกกำลังกายเพื่อสุขภาพพร้อมกับกินไปด้วยได้ เราอยากให้ทุกคนเดินทางสายกลาง ไม่อยากให้ซีเรียสมาก 

 

“วันไหนเหนื่อย อยากกินข้าวหมดจานก็ทำได้อยู่แล้ว ถ้าอยากสุขภาพดี เราก็แค่ไปออกกำลังกาย มันทำแบบนั้นได้ตลอดเวลา เรารู้สึกว่าวิธีนี้เราไม่ได้เสียอะไรไปเลยนอกจากเสียเหงื่อ เราไม่ได้ทำลายสุขภาพตัวเองทางอ้อมด้วย”

 

แม้จะเป็นช่องรีวิวอาหาร แต่กลับโดนวิจารณ์เรื่องรูปร่าง

“แต่ก่อนแพรยังไม่ได้เปิดหน้าตัวเอง เป็นเพจที่ใช้รูปการ์ตูน เพิ่งมาเปิดหน้า 2 ปีหลัง เพราะไม่ค่อยมั่นใจ คนอ้วนเวลาอยู่บนโซเชียลก็จะโดนบูลลี่ง่ายด้วย ซึ่งพอเปิดหน้าก็ไม่ผิดจากที่คาด มีทั้งด่าแบบหยาบคาย บางคนเขาก็แนะนำให้เราไปลดความอ้วน ไปดูแลสุขภาพ ไปออกกำลังกาย”

 

“ก่อนที่จะเปิดหน้าก็มีคนว่านะ บางทีเค้าเห็นแค่มือก็มาบอกว่า ‘มืออ้วนจัง’ ‘มือดำจัง’ เขาก็ทักไปเรื่อย บางคนก็ทักเพราะเอ็นดู เหมือนสมัยเราเรียนก็เป็นเพราะอ้วนเลยดูน่าหยิก น่าแซว  น่าล้อเล่นด้วย แต่คนอ้วนก็ไม่ใช่ตัวตลกไง”

 

แล้วคุณแพรจัดการกับคอมเมนต์แง่ลบเหล่านี้อย่างไร

“เราก็มีตอบกลับแบบมีอารมณ์บ้าง (หัวเราะ) เพราะเราก็คนเหมือนกัน โกรธได้ เสียใจเป็น เคยมีฟ้องร้องอยู่เคสนึง คือเขาด่าเราเป็นสัตว์  บางคนก็ใช้คำด่าแบบเหยียด ๆ ที่อ่านแล้วไม่สบายใจ แล้วมีคนกดหัวเราะคอมเมนต์นั้นเยอะเลย เราคิดว่าถ้าปล่อยไว้เดี๋ยวคนคิดว่าเขาทำได้ ก็มีคนเข้ามาทำแบบนี้อีก จริง ๆ เราเลยฟ้องเป็นตัวอย่าง ให้คนตระหนักว่าเขาไม่ควรบูลลี่คนอื่น ทุกคำพูดมีราคาที่ต้องจ่าย”

 

จัดการความรู้สึกในใจอย่างไร

“เขาปาก้อนหินมา เราก็ปาก้อนหินกลับไป การตอบกลับคอมเมนต์ก็ถือเป็นการจัดการความรู้สึกของเราไปแล้ว เราไม่ได้นั่งเสียใจ นั่งเครียดแต่อย่างใด”

 

“ตอนที่เราว่าเขากลับ เราพยายามให้ข้อความมันดูตลก ขำ ๆ เหมือนไม่ได้จริงจัง เราพยายามให้ช่องเราเป็นช่องที่ดี เพราะมีเด็ก ๆ ที่เขาดูแล้วเรียนรู้จากสื่อเรา แต่บางทีเราก็พูดสะท้อนเขาไปบ้าง คนพวกนี้ส่วนใหญ่เขาจะชอบพูดไม่ดีใส่คนอื่น แต่เขาไม่เคยโดนว่ากลับ เราเลยขอเป็นตัวแทนหมู่บ้านที่ทำให้เขาสะเทือนบ้างพอเป็นสีสัน ให้เขารู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมเป็นเหยื่อ แต่หลัง ๆ ไม่อยากเสียเวลาตอบ รู้สึกว่าเรากำลังพัฒนาตัวเองแล้วไม่เห็นจำเป็นต้องไปจมอยู่กับคำพูดที่มาต่อว่าเราเลย เรามาถูกทางแล้วก็แค่เดินต่อไป”

 

ตอนนี้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง 

“พอออกกำลังกายมันก็ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น หน้าเล็กลง เหนียงหาย ตอนนี้บุคลิกดีขึ้น หลังตรงขึ้นด้วย แต่เราก็ยังไม่ได้อยู่ในบิวตี้สแตนดาร์ดของคนทั่วไปอยู่ดี จริง ๆ คำว่าบิวตี้สแตนดาร์ดมันเป็นมาตรฐานความงามที่ไม่รู้ว่าใครกำหนดไว้ อาจจะเป็นคนในสังคมหมู่มากกำหนดว่าคนสวยต้องเอวเอส แขนขาเล็ก ผิวขาว ผมยาว หน้าใส ซึ่งจริง ๆ ค่านิยมนี้มันเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ช่วงหนึ่งอาจนิยมหน้าลูกครึ่ง สูง หน้าคม บางยุคก็นิยมแบบขาว หมวย ตัวเล็ก บางยุคก็เป็นช่วงของความสวยแบบเกาหลี”

 

“สมัยวัยรุ่นเราต้องแต่งหน้า เขียนคิ้ว กรีดตา ใส่คอนแทคเลนส์สวย ๆ แต่ตอนนี้ขอแค่หน้าใส ไม่เป็นสิว ไม่ต้องแต่งหน้าเยอะ ออกไปหน้าสดได้แบบสบาย ๆ ก็พอแล้ว แล้วยิ่งพอมาออกกำลังกายก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่อยากจะแต่งหน้าเยอะเพราะเหนื่อย เล่นเสร็จแล้วต้องไปทำงานต่อ ออกกล้องหน้าสดแบบสบาย ๆ แค่รวบผมก็ออกจากบ้านได้”

 

แม้ว่าเราจะไม่ตรงกับความงามมาตรฐาน มีวิธีการสร้างความมั่นใจให้ตัวเองอย่างไร

“แพรว่าแค่เราตื่นขึ้นมาส่องกระจกแล้วเราเจอตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าตอนที่เราเริ่มมาดูแลตัวเองก็ดีแล้ว เราดูน่ารัก สดใส ไม่เหี่ยว ไม่โทรม เราก็คงไม่คาดหวังว่าผิวเราจะขาวสวย ขอแค่ไม่เป็นมะเร็งผิวหนังก็พอแล้วสำหรับตอนนี้”

 

สิ่งที่ทำให้คุณภาคภูมิใจกับชีวิตทุกวันนี้คืออะไร

“การที่เราเป็นคนอ้วนที่ไม่ได้แต่งหน้า ออกไปไหนแล้วมีคุณลุงป้ามาทัก บอกว่าเราน่ารัก ทุกคนบอกว่าชอบที่ดูเราทำอาหาร รีวิวอาหาร เราอยากจะส่งต่อความสุขให้กับคนดู ให้เขาได้ดูอาหารอร่อย ๆ 

 

“บางคนก็มาบอกเราว่าเห็นพี่น้ำหนักลงแล้วทำให้เขามีกำลังใจในการไปออกกำลังกาย ทุกคนก็มาแชร์ความสุขกันผ่านคอมเมนต์ให้เรารู้”

 

นอกจากรีวิวอาหาร เรายังจะได้เห็นคอนเทนต์ออกกำลังกายจาก KP ตะลอนแหลก ด้วย 

“อยากให้ลูกเพจหันมาดูแลสุขภาพกัน เพราะบางคนเขาบอกเราว่าติดตามเราแล้วน้ำหนักขึ้น กินอย่างเดียวเลย (หัวเราะ)” 

 

“แพรเลยพยายามจะหาวิธีออกกำลังกายง่าย ๆ ให้ลูกเพจมาทำตามกัน เพราะเชื่อว่าทุกคนไม่ได้มีต้นทุนเท่ากัน บางคนอาจไม่มีต้นทุนไปจ้างเทรนเนอร์แพง ๆ ที่ราคาสูง สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอีก แต่แพรมองว่าเราสามารถหาอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวได้ ไม่ต้องลงทุนเยอะ ให้เขารู้สึกว่าการออกกำลังกายมันเป็นเรื่องง่าย ไม่ยุ่งยาก และพร้อมไปออกกำลังกายกันมากขึ้น”

 

ติดตาม KP ตะลอนแหลก ได้ที่ 

TikTok : @kp_talonlak

Facebook : KP ตะลอนแหลก

YouTube : KP ตะลอนแหลก

Instagram : kp_talonlak

 X : KP ตะลอนแหลก

 

ติดตามช่องออกกำลังกายของแพร ได้ที่ 

TikTok @moomaexercise

Facebook : หมูจะลด

Instagram : kp.exercise

SHARE

facebook
twitter
copy
Related articles / บทความที่เกี่ยวข้อง
Loading...