

something about cc คู่รักนักเก็บเงินเที่ยวที่ตั้งใจเติมความฝันให้กันด้วยการออกเดินทาง
Better Life / People
29 Apr 2024 - 8 mins read
Better Life / People
SHARE
29 Apr 2024 - 8 mins read
ทุกคนมี ‘ความฝัน’ และถ้าความฝันนั้นมีความหมายกับชีวิตมากพอ เชื่อเถอะว่า เราจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อทำความฝันให้กลายเป็น ‘ความจริง’
เหมือนกับความฝันของ กัน - ชีวิน กิตติ์ชรินดา ที่อยากไปปารีสให้ได้สักครั้ง และจะดียิ่งกว่าหากได้ออกเดินทางไปเที่ยวในที่ไกล ๆ ร่วมกับใครสักคน เป็นคนสำคัญที่พร้อมจะเป็นเพื่อนร่วมทางเคียงข้างไปตลอดชีวิต
คนสำคัญที่กันหมายถึงคือ ซีลีน - สรินธร เบอห์เมอร์ เพราะเธอเป็นคนที่ช่วยสานความฝันของกัน ด้วยการวางแผนให้ทั้งคู่สามารถเก็บเงินเป็นจำนวนเพียงพอสำหรับไปเที่ยวปารีสด้วยกันได้
เพื่อบอกเล่าความประทับใจที่มีต่อซีลีน กันจึงสร้างเพจขึ้นมาชื่อว่า something about cc โดยตั้งใจให้เป็นเหมือนบันทึกเรื่องราวความสัมพันธ์ของ cc ซึ่งก็คือ ชีวิน และ ซีลีน รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยที่เกิดขึ้นระหว่างทางที่เก็บเงินจนสามารถไปเที่ยวปารีสได้สำเร็จ
LIVE TO LIFE ชวนทั้งคู่ย้อนถึงช่วงเวลาที่ได้เที่ยวกับคนรัก และพูดคุยถึงโปรเจกต์เก็บเงินเที่ยวต่างประเทศร่วมกันครั้งใหม่ เพื่อส่งต่อประสบการณ์ถึงทุกคนทุกคู่ที่มีความฝันเหมือนชีวินและซีลีน ได้ร่วมกันตั้งเป้าหมายเพื่อทำฝันให้เป็นจริง ด้วยความเชื่อที่ว่า การเดินทางบันดาลใจได้ไม่สิ้นสุด
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจเก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก เกิดขึ้นได้อย่างไร
กัน : “เริ่มต้นมาจากความฝันครับ ผมเรียนมาด้านภาพยนตร์และการเขียนบท แล้วหนังที่ชอบดูหลายเรื่องก็มักจะถ่ายทำที่ปารีส เลยรู้สึกว่าเมืองนี้มีเสน่ห์ อยากไปตามรอยสักครั้ง เป็นความฝันที่ไม่เคยคิดจะทำให้เป็นจริง เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเก็บเงินยังไง ทำงานได้เงินมาเท่าไหร่ก็ใช้หมด จนได้มาเจอกับซีลีน เขาเป็นคนเก่งเรื่องจัดการมาก ๆ ส่วนผมเป็นคนชอบเที่ยวแต่จัดการห่วย” (หัวเราะ)
ซีลีน : “ตั้งแต่รู้จักกัน ได้ยินเขาพูดตลอดว่า อยากไปฝรั่งเศส เราเองก็เป็นคนชอบเที่ยว แต่ไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจนเหมือนเขาว่าต้องไปที่ไหน”
“จำได้ว่าหลังจากตกลงคบกันเดือนแรก เขาก็ชวนวางแผนไปเที่ยวฝรั่งเศสแบบจริงจัง เราตั้งงบฯ ไว้หนึ่งแสนน่าจะพอ แล้วค่อยคำนวณออกมาว่าควรใช้เวลาเก็บเงินกี่เดือน เอาที่เราทั้งคู่ไหว เพราะตอนนั้นต่างคนต่างเพิ่งเริ่มทำงาน คุยกันเสร็จ ก็รีบไปซื้อกระดาษมาช่วยกันวาดตารางเก็บเงินคนละ 3,000 บาท นาน 17 เดือน”
คนหนึ่งจัดการเงินเก่ง คนหนึ่งวางแผนเที่ยวเก่ง เป็นความต่างที่ช่วยเติมเต็มกันและกันได้พอดี
ซีลีน : “เราแบ่งหน้าที่ตามความถนัด ซีลีนดูแลเงินและคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งทริปให้อยู่ในงบฯ ส่วนแพลนเที่ยว ให้กันเป็นคนรับผิดชอบ จะไปไหนก็ได้ จะทำอะไรก็ได้ เพราะคนที่อยากเที่ยวแต่แรกคือเขา”
กัน : “ความยากอยู่ตรงที่เป็นการไปเที่ยวยุโรปครั้งแรกของเราทั้งคู่ เลยไม่รู้ว่าเวลาเดินทางจริงจะง่ายและสะดวกเหมือนเปิดดูกูเกิลแมพหรือเปล่า ทำให้ต้องเผื่อเวลาในทุก ๆ ที่ ที่ไป กลายเป็นแพลนเที่ยวหลวม ๆ”
“เราเลือกไปที่ที่คนส่วนใหญ่ชอบไปเวลามาเที่ยวปารีส ทั้งพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หอไอเฟล และสวนสาธารณะต่าง ๆ เพราะทุกที่มีความน่าสนใจอยู่แล้ว แค่จัดลำดับใหม่ว่าแต่ละวันไปไหนบ้าง ทำอะไรกันบ้าง”
ซีลีน : “เป็นแพลนเที่ยวที่เราก็ชอบ ทำให้เรารู้สึกสบายใจที่เที่ยวด้วยกัน เขาไม่ได้เลือกเอาแค่สิ่งที่ตัวเองอยากไปอยากทำ เขาน่ารักตรงที่สุดท้ายเขานึกถึงเรา เพราะระหว่างทางเดินชมเมืองและตามรอยสถานที่ จะมีจุดที่แวะพักเป็นมีร้านช็อกโกแลต ร้านขนมอร่อย ๆ กันตั้งใจใส่เอาไว้ เพราะรู้ว่าเป็นความชอบของซีลีน”
ทำไมถึงตั้งชื่อโปรเจกต์เก็บเงินเที่ยวปารีสว่า Paris in the rain
กัน : “ผมเคยอ่านหนังสือ ฤกษ์งามยามปารีส (A Moveable Feast) ของ เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ (Ernest Hemingway) เขาบรรยายว่า ฝรั่งเศสสวยยามฝนตก แล้วในหนัง Midnight in Paris (2011) ที่ผมชอบดูก็บอกเหมือนกันว่า ฝรั่งเศสจะสวยตอนฝนตก กลายเป็นความตั้งใจที่อยากไปปารีสช่วงที่มีฝนตก เลยเลือกไปเดือนกันยายน ปี 2021 ตรงกับฤดูใบไม้ร่วง อากาศต่ำสุดประมาณ 9 องศาฯ”
ซีลีน : “แล้วเราทั้งคู่ก็ได้เปียกชุ่มสมใจอยากตามชื่อทริป (หัวเราะ) จำได้ว่าหนาวมาก แต่มีความสุขที่สุด”
ไปเที่ยวด้วยกันกี่วัน
กัน : “อยู่ปารีส 7 วัน แต่ถ้ารวมทั้งทริปประมาณ 13 วัน”
ซีลีน : “ตอนที่เก็บเงินครบตามแพลน สถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดอยู่ เราเดินทางไปไหนไม่ได้ ต้องเลื่อนทริปออกไปอีก 2 ปี เลยมีเวลาเก็บเงินเพิ่มเดือนละพันสองพัน เป็นเหมือนเงินโบนัสพิเศษ สรุปแล้วเราเก็บเงินได้เพิ่มอีกห้าหมื่น รวมเป็นหนึ่งแสนห้าหมื่น”
กัน : “ทำให้เราขยายทริปเพิ่ม นั่งรถไฟจากฝรั่งเศสไปเที่ยวต่อที่เวียนนา ประเทศออสเตรีย เพราะเรามีเป้าหมายชัดเจนว่าอยากไปตามรอยหนังเรื่อง Before Sunrise (1995)”
ภาพถ่ายโดย something about cc
ตลอด 13 วันที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันในต่างแดน เชื่อว่ามีประสบการณ์และความทรงจำมากมายที่อยากเล่าสู่กันฟัง
ซีลีน : “มีความทรงจำร่วมกันเยอะมาก ก่อนไปเราก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า กันน่าจะมีเซอร์ไพรส์” (หัวเราะ)
กัน : “พอคนรอบตัวรู้ว่าไปฝรั่งเศส ก็มักจะถามว่าขอแต่งงานด้วยหรือเปล่า เพราะปารีสเป็นเมืองโรแมนติก ถ้าได้ไปเที่ยวกับแฟนก็ต้องทำอะไรพิเศษร่วมกัน”
“เราคิดไว้แล้วว่าจะขอซีลีนแต่งงาน บอกแค่ที่บ้านไม่ได้บอกใคร ถึงวันจริงมีเพื่อนมาช่วยเซอร์ไพรส์ เราแกล้งชวนซีลีนไปถ่ายรูปโพลารอยด์กับ Wall of Love เป็นกำแพงที่เขียนคำบอกรักหลายร้อยภาษา แล้วให้เพื่อนชูป้าย Will You Marry Me? ข้างหลัง กดดันตัวเองมาก แต่ทุกอย่างเพอร์เฟคตามแผน”
ภาพถ่ายโดย something about cc
ซีลีน : “จริง ๆ แค่ได้เดินชมเมืองด้วยกันก็เป็นโมเมนต์ที่มีความสุขมาก ๆ แล้ว แต่ที่จำได้แม่นคือตอนที่เรานั่งมองหน้ากันแล้วคุยว่า ไม่น่าเชื่อเนอะ เงินเก็บคนละสามพันทุกเดือน จะพาให้เรามาอยู่ที่นี่ได้”
“เราตั้งใจเก็บเงินกันนานมาก ระหว่างทางก็ไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จไหม เพราะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ตอนที่เก็บเงินได้ครบแล้วไปเที่ยวจนกลับมา เหมือนเป็นการพิสูจน์ว่า หลังจากนี้หากเราตั้งใจจะทำอะไรด้วยกัน ซีลีนเชื่อว่าทำได้หมด ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง”
กัน : “ยังจำความรู้สึกหลังจากเครื่องลงถึงไทยได้ นับจากนี้เราไม่กลัวที่จะไปที่ใหม่ ๆ เราเชื่อเหมือนกันว่า ถ้าทำครั้งแรกได้สำเร็จ ครั้งต่อไปก็ไม่ยาก”
คิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่เก็บเงินเที่ยวได้สำเร็จ
ซีลีน : “ถ้าเรามีเป้าหมายร่วมกัน เราก็จะพากันเดินไปให้ถึงเป้าหมายนั้นได้”
กัน : “ด้วยระยะเวลาเก็บเงินที่นานด้วยครับ แต่ละคู่ต้องคุยกันว่า ที่ที่จะไปเที่ยวเป็นที่ที่อยากจะไปกันจริง ๆ ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นระหว่างทางที่เก็บเงิน จะมีคำถามมากมายเกิดขึ้น หรือไม่ก็รู้สึกเบื่อ ไม่อยากเก็บเงินต่อ แต่เราตั้งเป้าหมายไว้แน่วแน่ ตอบตัวเองได้ชัดว่าที่นี่แหละคือภาพฝันของเราสองคน เราเห็นภาพเดินจูงมือริมแม่น้ำแซน เราเห็นภาพตัวเองยืนอยู่หน้าหอไอเฟล”
ภาพถ่ายโดย something about cc
ซีลีน : “ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้คิดภาพไว้ก่อน”
กัน : “เนี่ย ภาพแบบนี้ทำให้พลังในการเก็บเงินของเราไม่เคยหาย”
ซีลีน : “แล้วการเก็บเงินก็ไม่มีวิธีตายตัว ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคู่จะตกลงกันยังไง ไม่จำเป็นต้องเก็บเงินเที่ยว บางคู่อาจเก็บเงินแต่งงาน เพราะทุกคนมีความฝันในแบบของตัวเอง แต่ซีลีนเป็นคนชอบเขียนลงกระดาษแล้วแปะไว้ให้เห็นเป้าหมายตลอดเวลา เหมือนเป็นการเตือนความจำและสร้างกำลังใจให้พยายามทำต่อไป เราชอบความรู้สึกที่เราได้ติ๊กถูก เป็นเคล็ดลับที่ทำให้เป้าหมายไม่จางหายไปไหน”
ตอนนี้มีเป้าหมายใหม่ เห็นว่ากำลังวางแผนเก็บเงินไปเที่ยวเยอรมนีแบบพร้อมหน้าทั้งครอบครัว
ซีลีน : “เราทั้งคู่รู้สึกชอบตัวเองตอนที่ได้วางแผนเก็บเงินเที่ยวปารีส เหมือนได้ตั้งเป้าหมายใหญ่เอาไว้ ทำให้มีกำลังใจทำงานเพื่อเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน เลยคุยกับกันว่า อยากเก็บเงินไปเที่ยวอีก”
“ทริปก่อนเราไปเที่ยวกันสองคนแล้ว พอได้ทำคอนเทนต์ครอบครัวลง TikTok เลยรู้สึกว่าอยากให้ทุกคนในครอบครัวมีเป้าหมายเดียวกัน ซีลีนถามพ่อว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน พ่ออยากกลับบ้านไปเยี่ยมญาติที่เยอรมนี เพราะทุกวันนี้ติดต่อกันผ่านวิดีโอคอล ตัวเราเองได้ไปครั้งสุดท้ายน่าจะตอนอายุหกขวบ ซึ่งผ่านมานานมาก จำอะไรแทบไม่ได้”
“เราตั้งชื่อโปรเจกต์เก็บเงินไปเที่ยวเยอรมนีว่า A Merry Germany เพราะชอบบรรยากาศช่วงคริสต์มาส”
กัน : “พอรู้ว่าจะไปเยอรมนี ดีเอ็นเอของการเดินทางมันหลั่งออกมาเลย”
ทริปเยอรมนีใช้เงินเยอะมาก การวางแผนเก็บเงินครั้งนี้ต่างจากโปรเจกต์เก็บเงินไปปารีสอย่างไร
ซีลีน : “ต่างแค่จำนวน แต่วิธีการไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะก่อนเริ่มเก็บเงิน เราจะประเมินตามกำลังที่ทำได้ ไม่อยากให้เริ่มด้วยความรู้สึกฝืนตัวเอง ดังนั้น จะเก็บเงินกับใครก็ต้องคุยกันว่า เดือนละเท่านี้ไหวไหม ในระยะเวลาเท่านี้ไหวไหม เอาแบบพอดี ไม่รัดตัวเองเกินไป จะทำให้มีความสุขตลอดการเก็บเงิน”
“รอบนี้เราตั้งงบฯ ไว้ที่สามแสน ทุกคนในบ้านเก็บเงินรวมกันให้ได้หมื่นห้าต่อเดือน นาน 20 เดือน เป็นจำนวนเงินที่ทุกคนโอเค เพราะคุยกันแล้วว่าจะแบ่งค่าสปอนเซอร์จากการถ่ายคลิปลง TikTok มาเก็บรวมกับเงินเดือน”
มีคู่รักหลายคนที่ตกลงกันชัดเจนว่าไม่มีลูก เป็นคู่รัก DINK เพราะอยากเอาเงินที่หากันมาได้ไปเที่ยว ทั้งคู่มองภาพอนาคตของตัวเองไว้อย่างไร
ซีลีน : “คุยกันบ่อยมากเรื่องนี้ เพราะเราทั้งคู่อายุใกล้จะสามสิบแล้ว เป็นจังหวะชีวิตที่คนส่วนใหญ่น่าจะเริ่มวางแผนมีลูก แต่ ณ ตอนนี้ เรายังไม่อยากมีลูก”
“แค่รู้สึกว่า เราทำงานกันเหนื่อย เหนื่อยขนาดนี้ยังมีเวลาเที่ยวแค่นี้เอง ถ้ามีลูกก็อยากเลี้ยงดูให้เขาเติบโตมาอย่างดี มีคุณภาพ ได้ไปเที่ยวด้วยกัน เป็นคำถามที่คู่รักต้องตอบให้ได้ว่า เราซัพพอร์ตลูกได้ขนาดนั้นไหม หรือใจเราอยากซัพพอร์ตตัวเราเองก่อนหรือเปล่า”
“(หันหน้าไปทางกัน) ถ้าซีลีนเลือกไม่มีลูก กันจะยังรักซีลีนไหม หลายคนกังวลเรื่องนี้ เลยตัดสินใจมีลูกเพื่อเชื่อมความเป็นครอบครัว แต่ซีลีนไม่ได้มองแค่ตรงนั้น เราสนใจความต้องการที่แท้จริงของกันและกันมากกว่า ถ้าเป้าหมายการใช้ชีวิตคู่ คือการเติมความสุขให้กันและกัน ซึ่งก็เพียงพอแล้ว การมีลูกคงไม่ใช่คำตอบ”
กัน : “คู่เราคิดเหมือนกัน มีที่เที่ยวอีกเยอะ ที่เราอยากไปเที่ยวด้วยกัน”
เวลาไปเที่ยว เอาจ๊อด (สัตว์เลี้ยง สุนัขพันธุ์เฟรนช์ บูลด็อก) ไปด้วยไหม
ซีลีน : “ถ้าไปต่างประเทศ คงไม่ได้เอาจ๊อดไปด้วย ต้องหาโรงแรมให้เขานอนและวิ่งเล่นได้อย่างสบาย เพราะจ๊อดติดทุกคนในครอบครัวมาก ๆ แฟนคลับใน TikTok ก็คงเสียใจ เพราะคนมักถามว่าจ๊อดจะได้ไปเที่ยวด้วยไหม ยังไงก็จะไม่ทำให้จ๊อดรู้สึกเศร้าที่ต้องห่างกัน”
การออกเดินทางท่องเที่ยวสำคัญกับการใช้ชีวิตคู่อย่างไร
กัน : “ทำให้กราฟความรักเพิ่มขึ้นครับ เวลาอยู่บ้าน ทำสิ่งเดิม ๆ ความรักก็จะนิ่ง ๆ ต่างจากเวลาทำกิจกรรมใหม่ร่วมกัน แค่รู้ว่าสุดสัปดาห์นี้จะได้ไปเที่ยว แม้เป็นที่ใกล้ๆ หรือเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งจิบกาแฟที่คาเฟ่สักแห่ง กราฟความรักจะสูงขึ้นทันที การเดินทางช่วยเติมเต็มความรักได้ครับ”
ซีลีน : “ออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยกันชีวิตจะได้ไม่น่าเบื่อ ดูชีวิตของซีลีนกับกันเป็นตัวอย่าง เพราะว่าเราทำงานประจำที่เดียวกัน วันธรรมดาไปทำงานแล้วกลับบ้านพร้อมกัน วันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็ถ่ายคลิป TikTok ด้วยกัน ตัวติดกัน 24 ชั่วโมง ทำให้เราทั้งคู่ต้องหากิจกรรมใหม่ทำด้วยกันบ่อย ๆ กลับมามีพลังขึ้น เพราะเราได้เติมพลังจากการไปพักไปเที่ยว”
มีคำกล่าวที่ว่า ‘ถ้าอยากรู้จักใครให้เดินทางกับคนคนนั้น’ ทั้งคู่คิดเห็นอย่างไร
กัน : “ตอบแทนได้เลยครับว่าเป็นเรื่องจริง แค่เวลาที่อยู่ด้วยกันบนเครื่องบินนานหลายชั่วโมง ก็พอให้เราเรียนรู้พฤติกรรมของเขาได้แล้วว่าเป็นคนยังไง เช่น เป็นคนเงียบ ๆ หรือเป็นคนขี้บ่น”
ซีลีน : “อื้ม ๆ” (พยักหน้าเห็นด้วย)
กัน : “นิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ จะค่อย ๆ แสดงออกมาให้เราเห็นเอง พอให้จับสังเกตได้ว่า ใช่คนที่เข้ากับเราหรือเปล่า เป็นนิสัยที่เรารับได้ไหม การเที่ยวด้วยกันทำให้เราเห็นตัวตนและธรรมชาติของเขา”
ซีลีน : “แต่ถ้าเป็นคู่ที่คบกันมานานแล้ว เหมือนเป็นการรีเฟรชความรู้สึกมากกว่า ได้มีช่วงเวลาที่เป็นความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน”
กัน : “ระหว่างเที่ยวมีหลงทางบ้าง ทำของหายบ้าง กลัวว่าจะมีเรื่องให้งอนหรือทะเลาะกัน แต่ไม่มีเลย เป็นบทพิสูจน์ว่าเราไปเที่ยวด้วยกันได้”
อะไรคือสิ่งสำคัญที่คุณทั้งคู่ได้รับกลับมาจากการออกเดินทางร่วมกัน
กัน : “สิ่งหนึ่งที่รู้สึกเลยคือ โลกใหญ่และกว้างกว่าที่เราคิดไว้มาก ผมเคยขับรถจากกรุงเทพฯ ไปหาดใหญ่ใช้เวลา 12 ชั่วโมงก็ว่าไกลแล้ว แต่พอข้ามไปยุโรป ทุกอย่างทั้งสถานที่ บรรยากาศ แสงแดด ผู้คน ภาษา ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองเล็กจิ๋วเมื่อเทียบกับโลก ยิ่งอยากออกเดินทางอีกเรื่อย ๆ เพราะอยากเห็นมุมอื่น ๆ ของโลก”
“เราไม่มีทางรู้ว่าอะไรรอเราอยู่จนกว่าเราจะออกเดินทางไปเจอ แล้วสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นประสบการณ์ที่เราจดจำไปได้ตลอด เราจะมีความสุขทุกครั้งที่นึกถึง”
ซีลีน : “เราชอบไปเที่ยวแบบให้หัวไม่มีอะไร เลยเปิดใจรับกับทุกสิ่ง แม้แต่สิ่งที่ทุกคนเตือนให้ระวังเรื่องโจร เรื่องเหยียดเชื้อชาติเมื่อรู้ว่าไปปารีส จำได้ว่าวันแรกเกร็งมาก จะทำอะไรก็ระวังไปหมดจนเที่ยวไม่สนุก เลยต้องหาจุดตรงกลางที่ทำให้ผ่อนคลายมากขึ้น”
ภาพถ่ายโดย something about cc
“เราได้ข้อคิดกลับมาว่า ก็ไปเที่ยวแบบคนปกตินั่นแหละ ทำตัวกลืนไปกับเขา ถ้าไม่ได้ทำตัวเด่น ใส่แต่แบรนด์เนม หรืออวดว่ามีเงิน ก็ไม่มีอะไรให้น่ากังวล เพราะไม่ได้เป็นจุดสนใจของใคร โดยเฉพาะมิจฉาชีพ”
ถ้าเปรียบเทียบระหว่างตอนที่ใช้ชีวิตคนเดียวกับตอนนี้ที่มีคู่ชีวิต มุมมองต่อการท่องเที่ยวต่างไปจากเดิมอย่างไรบ้าง
กัน : “ต่างมาก ก่อนเจอกับซีลีน ผมเป็นคนชอบเที่ยวอยู่แล้ว ปกติจะแบคแพคไปภูเก็ตบ้าง เชียงใหม่บ้าง อยู่นานเป็นอาทิตย์ นานเป็นเดือนก็มี เราจะได้อยู่กับตัวเองเต็มที่ไม่ต้องแคร์ใคร ส่วนตอนที่ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่สนิทกัน ก็เป็นทริปที่สนุกมาก ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ไปไหนไปกัน”
“ส่วนไปเที่ยวกับแฟน ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือความคลั่งรัก เพราะอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย ไม่มีคนรู้จัก ยิ่งต้องดูแลกันและกัน”
ซีลีน : “เราเลยแคร์กันมาก ๆ พูดไปก็น่าเขินเนอะ” (หัวเราะ)
สำหรับคู่รักที่รู้สึกว่า การไปเที่ยวแต่ละครั้งใช้เงินค่อนข้างเยอะ เก็บเงินก้อนได้แล้วเสียดายไม่อยากใช้ ทั้งคู่มีมุมมองถึงเรื่องนี้อย่างไร
กัน : “ถ้าเงินถึง จะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ จริง ๆ ตอนนี้เรามีเงินก้อนที่แบ่งเก็บไว้จากการทำงาน จะไปเที่ยวเยอรมนีกันตอนนี้เลยก็ได้ แต่เราเลือกเก็บเงินขึ้นมาใหม่ เป็นเงินเพื่อเอาไปเที่ยวโดยเฉพาะ ทำให้เราไม่รู้สึกเสียดาย”
ซีลีน : “สมมุติว่าเราเก็บเงินก้อนได้สักสามแสน แล้วแบ่งหนึ่งแสนไปเที่ยวทันที จะเกิดความรู้สึกเสียดายตามมา เพราะเป็นเงินก้อนใหญ่ของชีวิต แต่ถ้าเราตั้งงบฯ ไว้ แล้วแยกบัญชีเก็บเงินเพื่อเที่ยวต่างหาก เราจะกล้าใช้เงินมากขึ้น เพราะแบ่งเงินเป็นสัดเป็นส่วนไว้แต่แรก”
อยากฝากอะไรถึงคู่รักที่เห็นโปรเจกต์เก็บเงินเที่ยวของคุณทั้งสองแล้วรู้สึกเป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำตามบ้าง
กัน : “เชื่อว่าทุกคู่ทำได้ เพราะซีลีนกับกันเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้ว แค่เริ่มลงมือทำ นั่นคือก้าวแรกที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมาย”
ซีลีน : “ขอแค่มีความตั้งใจ มีวินัย และทำต่อเนื่องสม่ำเสมอ สมมุติว่าเราตั้งเป้าหมายเก็บเดือนละสามพัน แต่เดือนนั้นเราช็อต เงินไม่พอเก็บด้วยเหตุบางอย่าง ก็ไม่ได้แปลว่าเราล้มเหลวหรือเลื่อนเวลาเก็บออกไปอีกไม่ได้ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าชีวิตข้างหน้าจะเจอกับอะไร ถ้ามีเรื่องด่วนให้ใช้เงินก็ไม่เป็นไร พักโปรเจกต์ไว้ก่อน พร้อมแล้วค่อยเก็บเงินต่อ”
“การยืดระยะเวลาเก็บเงินไม่ใช่เรื่องเสียหาย เดือนนี้เก็บไม่ได้ เดือนหน้าก็แค่เก็บใหม่ เพราะตัวเราเองจะต้องสนุกและตื่นเต้นไปกับการพยายามทำเป้าหมายให้สำเร็จ ถ้าเป็นการฝืนใจหรือรู้สึกไม่มีความสุข แสดงว่ามีอะไรบางอย่างผิดพลาด ต้องนั่งคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้นเพื่อหาทางแก้ ค่อยเป็นค่อยไป ขอแค่เราไม่ลืมเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ร่วมกันก็พอ อยากให้ทุกคู่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนะคะ”
ติดตาม something about cc ได้ที่
TikTok : @somethingaboutcc
Facebook : something about cc
YouTube : something about cc